ไร้หมายเรียก-หมายจับ: ตร.บุกบ้านศิลปินขอนแก่น อ้างผลงานศิลปะเข้าข่ายผิด ‘112’ ก่อนให้ลบ-ขู่ให้หยุดพาดพิง 

วันที่ 10 มี.ค. 2565 ‘บังเอิญ’ (นามสมมติ) ศิลปินอิสระ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบร่วม 10 นาย บุกไปถึงที่พักใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น แต่กลุ่มบุคคลที่อ้างเป็นตำรวจ ไม่ได้แสดงหมายเรียกหรือหมายจับ มีเพียงเอกสาร 1 ปึก เป็นข้อมูลทะเบียนราษฎร์และภาพที่ระบุตัวบังเอิญมาแสดงและให้เขายืนยันว่าเป็นบุคลลตามเอกสารจริง 

บังเอิญย้อนเล่าถึงเหตุการณ์วันดังกล่าวว่า ช่วง 09.00 น. ขณะตนยังหลับอยู่ก็ถูกปลุกด้วยเสียงเคาะประตูห้อง แต่เขาไม่ได้ลุกไปเปิดดูว่าเป็นใคร แต่หลังจากนั้นไม่นาน กลับมีคนไขกุญแจเปิดประตูห้อง เขาทราบจากแม่บ้านในภายหลังว่า ตำรวจนอกเครื่องแบบไปขอกุญแจจากแม่บ้านมา

ภาพผลงานของบังเอิญ

เมื่อบังเอิญเห็นว่า คนที่ไขกุญแจเปิดประตูห้องเขาเป็นกลุ่มตำรวจนอกเครื่องแบบ จึงเชิญเข้ามาในห้อง พร้อมหาน้ำดื่มมาให้ ก่อนที่ตำรวจจะแจ้งว่าจะพาตัวเขาไปที่ สภ.เมืองขอนแก่น บังเอิญจึงขอเวลาไปทำกิจวัตรส่วนตัวและเปลี่ยนเสื้อเป็นเสื้อเชิ้ตขาวเปื้อนเลือด ระหว่างนั้นก็ได้แจ้งเพื่อนในเฟซบุ๊กว่า เขากำลังจะถูกควบคุมตัวไปสถานีตำรวจ

หลังออกจากที่พักตำรวจคุมตัวเขาขึ้นรถตู้ป้ายทะเบียนกรุงเทพมหานคร ตำรวจทั้งหมดไม่มีใครแจ้งว่ามาจากหน่วยงานใด บอกเพียงว่าถูกส่งมาจากกรุงเทพฯ หนำซ้ำระหว่างควบคุมตัวบังเอิญจากที่พักไปที่ สภ.เมืองขอนแก่น ยังไม่มีการแจ้งสิทธิใดๆ กับบังเอิญ

เมื่อไปถึง สภ.เมืองขอนแก่น บังเอิญถูกพาตัวไปที่ชั้น 4 ตำรวจนายหนึ่งพยายามอธิบายว่า งานศิลปะที่เขาทำอยู่มันเข้าองค์ประกอบความผิดมาตรา ‘112’ และเขาจะแจ้งจับตอนไหนก็ได้ ในห้องสอบสวนนอกจากตำรวจยังมีนักจิตวิทยาอีก 4 ราย อยู่ด้วย  

“ผมทราบดีว่าถ้าไม่มีหมายเรียกอะไรเขาไม่มีสิทธิมาทำอะไรกับผม ที่เขาเชิญนักจิตวิทยามาก็เพราะผมมีประวัติการเป็นผู้ป่วยจิตเวช คงมาดูเชิง ดูรูปภาพที่ผมทำ แต่แม้จะเชิญนักจิตวิทยามาร่วมรับฟัง ขั้นตอนนี้เป็นการเล่นนอกรอบเลย ข่มขู่แบบไม่ใช้กฎหมาย ไม่ได้ชี้แจงเรื่องข้อกฎหมายว่ามีสิทธิอะไรบ้าง” บังเอิญกล่าวไว้ตอนหนึ่ง 

ภาพ “ศพที่พูดไม่ได้ ฉันถูกถ่วงน้ำตาย” ผลงานของบังเอิญ

ศิลปินหนุ่มเล่าอีกว่า “ผมเองก็รู้สึกปกติ วันนั้นผมใส่เชิ้ตขาวล้วนแต่ว่าเปื้อนเลือดทั้งตัว เพื่อเผยตัวตนว่าเราเป็นแบบไหน ที่ตำรวจมีเอกสารมีรูปภาพที่เราทำ ผมก็ยอมรับว่าใช่บุคคลในภาพ ผมรู้ดีว่าทำอะไรไปแล้วจะได้อะไรกลับมา”  

อย่างไรก็ตาม ระหว่างการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดที่เดิมได้เกลี้ยกล่อมก่อนจะยึดเอาโทรศัพท์ของบังเอิญ รวมถึงขอรหัสโทรศัพท์มือถือ เพื่อเข้าไปดูดข้อมูลเฟซบุ๊กของบังเอิญไว้ในคอมพิวเตอร์ที่ตำรวจเตรียมมาอีกด้วย เป็นข้อมูลจากเดือนธันวาคม 2564 – มีนาคม 2565 หลังดูดข้อมูลไปแล้ว เมื่อส่งโทรศัพท์คืน ตำรวจยังให้บังเอิญลบภาพผลงานตัวเองออกจากเฟซบุ๊กด้วยราว 12-13 ภาพ ก่อนกระบวนการสอบสวนนอกกฎหมายที่ สภ.เมืองขอนแก่น วันนั้นจบลงในราว 1 ชั่วโมง โดยตำรวจไม่ได้ให้บังเอิญดูหรือเซ็นเอกสารเกี่ยวกับการตรวจยึดข้อมูลแต่อย่างใด มีเพียงการบันทึกเหตุอันควรเชื่อว่าได้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่บังเอิญได้เซ็นเพื่อรับรองว่าประวัติที่ตำรวจนำมาแสดงเป็นของเขาจริง และภาพผลงานที่ตำรวจเอามาแสดงให้เขาดูนั้นก็เป็นของเขา  หนึ่งในตำรวจบอกทิ้งท้ายก่อนกลับว่า “จะทำงานอาร์ตก็ทำงานไป แต่อย่าให้เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์”

บังเอิญให้ข้อมูลอีกว่า หลังจากที่ตำรวจไปส่งเขากลับที่พักในวันนั้น อีก 2 วันถัดมา นักจิตวิทยาจากโรงพยาบาลจิตเวชในขอนแก่น โทรศัพท์มาบอกให้เขาไปพบ โดยนักจิตวิทยาให้เขาทำแบบทดสอบสุขภาพจิตเบื้องต้น ก่อนจะพูดคุยในลักษณะที่บังเอิญรู้สึกได้ถึงการพยายามปรับทัศนคติในการใช้ชีวิตที่บังเอิญทำงานศิลปะและการเมือง โดยพยายามพูดคุยเบี่ยงให้บังเอิญใช้ชีวิตในอีกรูปแบบที่ต่างจากเดิม และพยายามสอบถามถึงอาการทางจิตเวชที่เขาเป็นอยู่ 

บังเอิญจึงเล่าให้นักจิตฟังว่า ตัวเขาเองเข้ารักษาอาการทางจิตเวชตั้งแต่อายุ 12 ขวบ โดยแพทย์ที่รักษาบอกว่า เขามีภาวะไบโพลาร์ ซึมเศร้า และมีหลายบุคลิกภาพ ทุกวันนี้ยังต้องใช้ยารักษาอาการเหล่านี้อยู่ หลังพูดคุยที่โรงพยาบาลจิตเวชราว 2 ชั่วโมง บังเอิญจึงได้กลับที่พัก โดยเขายังอดตั้งคำถามไม่ได้ว่านักจิตเรียกตัวมาพบด้วยสาเหตุใด  

อีกภาพผลงานของบังเอิญ

สำหรับบังเอิญปัจจุบันอายุ 24 ปี ใชัชีวิตสันโดษ ทำงานศิลปะเพียงคนเดียว สนใจเรื่องการเมืองตั้งแต่เด็กราวๆ 10 ขวบ สมัยการชุมนุมของคนเสื้อแดงปี 2553 โดยติดตามพ่อไปในที่ชุมนุม ก่อนเริ่มศึกษาและทำงานศิลปะทางการเมืองประเภท ‘Dark Art’ เกี่ยวข้องกับการวิพากษ์วิจารณ์มาตรา 112 โดยตรง เคยแสดงงานร่วมกับกลุ่มศิลปะปลดแอก ตั้งแต่ปี 2563-2564 และเข้าร่วมชุมนุมทั้งที่กรุงเทพฯ และที่ขอนแก่นอยู่หลายครั้ง

“ผมใช้ศิลปะ มันไม่เหมือนการไปยืนพูดบนถนน รูปที่ผมทำมันสื่อตรงๆ เลย และมันแรง Dark Art ในรูปแบบภาพแต่ง และคลิปวีดีโอของผม มุ่งเน้นไปที่สถาบันกษัตริย์เลย สำหรับผมเห็นว่า ขบวนต่อสู้ทางการเมืองมีคนพูดปราศรัยเยอะแล้ว เลยอยากทำภาพสักภาพที่สื่อถึงอำนาจแบบไม่ต้องใช้คำพูดเลย” 

ก่อนเจอกระบวนการนอกกฎหมายในครั้งนี้ เมื่อปีที่แล้วบังเอิญเคยถูกศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ (ศชอ.) ส่งข้อความมาเตือนว่า เขาถูกแจ้งความในข้อหาหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ  

“ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน แต่คิดว่าสักวันต้องโดนแน่นอน ตั้งแต่เริ่มทำภาพแรกๆ แต่ผมรู้ดีว่าไม่ได้เป็นตัวหลักในการเคลื่อนไหว เป็นเพียงแค่ศิลปินที่ทำงานแบบนี้อย่างตรงไปตรงมา” 

บังเอิญพูดถึงผลงานภาพของเขา อย่างเช่น “วิปลาส อำนาจมนต์ดำ”, “ศพที่พูดไม่ได้ ฉันถูกถ่วงน้ำตาย” ว่า

มีเป้าหมายสะท้อนความจริง เอารูปจริง ฟุตเทจจริง เหตุการณ์จริง มาทำภาพ ไม่ใช่การวาดหรือตกแต่งเพิ่มเติม “เขาจะเถียงไม่ได้เพราะมันไม่ได้สร้างขึ้นมา ส่วนมากผมลงผลงานผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ให้แพร่กระจายให้ผู้คนไปต่อเติมความคิดเอา แค่ให้มันได้เผยแพร่ ให้คนได้เห็น มันก็ถือว่าได้ทำหน้าที่ของมันแล้ว” 

“ต่อให้รัฐพยายามลบมันก็มีคนเห็น คนเก็บ คนแชร์ เป็นการบ่งชี้ว่าเขาหยุดกงล้อเวลาไม่ได้ ผลงานผมมันเผยแพร่ออกไปแล้ว ยังไงความคิดมันก็หยุดไม่อยู่” 

.

X