ฟ้อง 112 “ภูมิ หัวลำโพง” เหตุชูป้าย “ปล่อยเพื่อนกู” ระบุข้อความแสดงความอาฆาตมาดร้าย ไม่เคารพกษัตริย์

23 มี.ค. 2565 พนักงานอัยการ สํานักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 10 มีความเห็นสั่งฟ้อง “ภูมิ หัวลำโพง” (นามสมมติ) นักกิจกรรมอายุ 18 ปี ต่อศาลอาญา ใน 2 ข้อหา ได้แก่ “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ “ไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของเจ้าพนักงานโดยไม่มีเหตุอันสมควร” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368

เหตุแห่งคดีนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อช่วงค่ำวันที่ 30 ธันวาคม 2564 “ภูมิ” กับเพื่อน ได้รวมตัวทำกิจกรรมชูป้าย “ปล่อยเพื่อนกู” ที่บริเวณแยกพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งถูกระบุว่าเป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่ขบวนเสด็จของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 จะเสด็จผ่านมา ภูมิกับเพื่อนได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กำลังเข้าควบคุมตัว และนำไปสอบปากคำที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ก่อนที่ ”ภูมิ” จะถูกพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา และได้รับการประกันตัว พร้อมวางหลักทรัพย์ 90,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ โดยกรณีนี้ยังมีเด็กอายุ 14 ปี ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเช่นเดียวกันด้วย แต่พนักงานสอบสวนได้แยกสํานวนดําเนินคดีต่างหาก

>> จับกุม-แจ้ง 112 นักกิจกรรมและเยาวชน เหตุชูป้าย “ปล่อยเพื่อนกู” ระบุมีข้อความอาฆาตมาดร้าย ก่อนศาลให้ประกัน

เปิดคำฟ้อง “ไม่หลบขบวนเสด็จ-ชูป้ายปล่อยเพื่อนกู” อัยการชี้ข้อขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน และแสดงความอาฆาตมาดร้าย ไม่เคารพ ร.10

ในคำฟ้องที่ นางสาวกชพรพรรณ วณิชยาชัยสิริ พนักงานอัยการ เป็นผู้เรียงฟ้องยื่นต่อศาลนั้น ระบุโดยเท้าความว่าปัจจุบัน ประเทศไทยมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 10 ทรงดํารงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้

ในส่วนต่อมา คำฟ้องระบุเกี่ยวกับพฤติการณ์ของคดีว่า เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2564 ระหว่าง ด.ต.เพียรชัย ขะบุรัมย์ เจ้าพนักงานตำรวจ สน.ดุสิต ปฏิบัติหน้าที่เตรียมความพร้อมในเส้นทางขบวนเสด็จ บริเวณแยกพระรูปทรงม้า ได้พบจำเลยกับพวกยืนอยู่บริเวณทางเดินเท้า ตรงบริเวณป้ายรถประจำทางตรงข้ามประตูเสือป่า จึงได้แจ้งให้ออกจากบริเวณดังกล่าว เนื่องจากใกล้เวลาขบวนเสด็จ

จําเลยกับพวกได้ทราบคําสั่งของเจ้าพนักงาน ซึ่งสั่งการตามอํานาจที่มีกฎหมายให้ไว้แล้ว แต่ได้ร่วมกันฝ่าฝืนไม่ออกจากพื้นที่บริเวณดังกล่าว อันเป็นการไม่ปฏิบัติตามคําสั่งนั้น โดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควร

นอกจากนี้ จำเลยกับพวกได้ร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 โดยการแสดงป้ายผ้าที่มีข้อความว่า “ไอ้ษัตริย์ ปล่อยเพื่อนกู” ทําให้เข้าใจความหมายได้ว่า เป็นการแสดงความอาฆาตมาดร้าย และไม่เคารพสักการะในหลวงรัชกาลที่ 10 โดยประการที่น่าจะทําให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศ ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง อันเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย

สำหรับการปล่อยตัวชั่วคราวในระหว่างพิจารณาคดี พนักงานอัยการไม่ได้คัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราว โดยให้อยู่ดุลพินิจของศาล ในท้ายคำฟ้องยังระบุว่า ขอให้ศาลสั่งริบป้ายผ้าดังกล่าวได้กล่าวเป็นของกลาง และขอให้นับโทษของจําเลยในคดีนี้ต่อจากโทษของจําเลยในคดีชุมนุม #ตามหานาย หน้าประตูทางเข้า ม.พัน 4 รอ. ของศาลเยาวชนฯ ด้วย

ต่อมาศาลอนุญาตให้ประกันตัวจำเลย โดยใช้หลักทรัพย์เดิมจากชั้นสอบสวน พร้อมกำหนดวันนัดพร้อมและตรวจพยานหลักฐานต่อไปในวันที่ 2 พ.ค. 2565 เวลา 9.00 น.

ทั้งนี้ “ภูมิ” ถูกกล่าวหาในคดีมาตรา 112 คดีนี้เป็นคดีที่ 2 ก่อนหน้านี้ เขาเคยถูกกล่าวหาในกรณีปาอาหารหมาและปราศรัยในระหว่างติดตามการจับกุม “นิว สิริชัย” ที่หน้า สภ.คลองหลวง โดยคดีนี้เขาถูกกล่าวหาในขณะยังเป็นเยาวชนอายุ 17 ปี

ฐานข้อมูลคดี

คดี 112 “ภูมิ-ไอซ์ (เยาวชน)” เหตุแสดงป้าย “ปล่อยเพื่อนกู” หน้า สน.ดุสิต

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

สถิติผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ปี 2563-64