“เด็กหญิง” อายุ 13 ปี ถูกคุกคาม-ข่มขู่-เยี่ยมบ้าน เพราะไปร่วมงานรับเสด็จฯ แม้ไม่ได้แสดงออกใด

เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2565 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับข้อมูลจาก “เด็กหญิง” อายุ 13 ปี เกี่ยวกับเหตุการณ์ถูกเจ้าหน้าที่รัฐกว่า 40 นาย ติดตาม ถ่ายรูป และเข้าประชิดตัวขณะไปร่วมรอรับเสด็จฯ ที่บริเวณวัดพระแก้ว อันเนื่องมาจากในหลวงและราชินีเสด็จฯ เปลี่ยนเครื่องทรงถวายพระแก้วมรกต เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ที่ผ่านมา

ตั้งใจไปรอรับเสด็จฯ แต่ถูกติดตาม ถ่ายรูป และเข้าประชิดตัว

เด็กหญิงเล่าว่า ในวันที่ 18 มี.ค. นั้น ทั้งเธอและเพื่อนตั้งใจที่จะเดินทางไปร่วมรับเสด็จฯ ที่วัดพระแก้ว แต่เมื่อไปถึงพวกเธอไม่ทราบและไม่ทันสังเกตว่ามีจุดสแกนบัตรประชาชนก่อนเข้าร่วมงาน จึงเดินเข้าไปในพื้นที่รอรับเสด็จโดยมิได้สแกนบัตร ทำให้ถูกเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งติดตามมาถ่ายรูป พร้อมกับบอกให้ไปสแกนบัตรก่อน ซึ่งทั้งเด็กหญิงและเพื่อนก็ปฏิบัติตามแต่โดยดี 

เธอเล่าต่อไปว่า เมื่อเจ้าหน้าที่บอกดังนั้น พวกเธอก็พากันเดินย้อนกลับไปทางศาลฎีกาเพื่อจะสแกนบัตรประชาชนและให้เจ้าหน้าที่ตรวจกระเป๋า แล้วเดินเข้าไปยังบริเวณแนวรับขบวนเสด็จฯ 

แต่หลังจากที่สแกนบัตรแล้ว เธอกลับสังเกตว่ามีเจ้าหน้าที่เข้ามาติดตามเพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งถ่ายรูปพวกเธออยู่ตลอดเวลาจนกระทั่งรู้สึกทนต่อไปไม่ไหว เด็กหญิงและเพื่อนจึงเข้าไปสอบถามทางเจ้าหน้าที่ว่า “ทำไมต้องมาติดตามและถ่ายรูปเธอกับเพื่อน” ซึ่งขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่นายหนึ่งประชิดเข้ามาในลักษณะเหมือนจะจับตัวเธอและเพื่อน แต่พวกเธอไม่ยินยอม 

ถามถึงเหตุที่ถูกติดตามแต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ขู่ “ระวังตัวไว้ด้วย”

ด้วยจำนวนเจ้าหน้าที่ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เด็กหญิงและเพื่อนรู้สึกไม่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น จึงตัดสินใจพากันเดินไปยังบริเวณจุดคัดกรองเพื่อจะนั่งพักและโทรศัพท์หาเพื่อน ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งเดินเข้ามาสอบถามพวกเธอด้วยคำถามว่า “จะเอายังไง” เธอจึงถามกลับไปว่า “ทำไมต้องมาตามถ่ายรูป ทำไมพวกเธอถึงร่วมรับเสด็จเช่นคนอื่นไม่ได้” ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ตอบกลับมาในเชิงข่มขู่ว่า “ทำอะไรไว้ ระวังตัวไว้ด้วย”

เด็กหญิงกล่าวว่า ในตอนนั้นเธอรู้ข่าวว่า “ตะวัน” หรือทานตะวัน นักกิจกรรมอิสระที่เคยไลฟ์เฟซบุ๊กก่อนมีขบวนเสด็จ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามเพื่อสกัดกั้นไม่ให้เข้าใกล้พื้นที่เสด็จฯ แล้ว ประกอบกับมีเพื่อนคนหนึ่งโทรศัพท์มาบอกให้เธอและเพื่อนรีบออกจากพื้นที่ เพราะอาจจะถูกเจ้าหน้าที่รวบตัวไป แต่เธอก็ยังคงไม่อยากออกจากบริเวณนั้น ทั้งนี้เพราะตั้งใจมารอรับเสด็จฯ จริง มิได้มาเพื่อทำกิจกรรมทางการเมืองหรือแสดงออกเชิงสัญลักษณ์แต่อย่างใด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เองก็สามารถทราบได้จากการที่ตรวจกระเป๋าแล้ว ไม่พบสิ่งของหรือวัตถุสัญลักษณ์ใดๆ 

อย่างไรก็ตาม เด็กหญิงและเพื่อนก็ออกมาจากบริเวณที่จะมีการรอรับเสด็จฯ เพราะไม่อาจทนกับการถูกติดตามคุกคาม พยายามเข้าประชิด ตลอดจนการถ่ายรูปของเจ้าหน้าที่จำนวนมากได้ 

ขบวนเสด็จฯ ผ่านพ้นไปแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังคงติดตามมาถึงที่บ้าน

แม้เหตุการณ์ในวันที่ 18 มี.ค. จะผ่านไป หากแต่การติดตามคุกคามเด็กหญิงอายุ 13 ปี ยังคงดำเนินต่อ โดยในวันที่ 19 มี.ค. คนที่บ้านของเธอได้เห็นว่ามีชายคนหนึ่งขับรถมอเตอร์ไซค์สีดำมาจอดที่หน้าบ้านครู่หนึ่งก่อนจะขับออกไป 

และในวันที่ 23 มี.ค. ได้มีกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ ระบุว่ามาจาก สน.ตลิ่งชัน จำนวน 3 – 4 นาย มาที่บ้านเพื่อสอบถามถึงตัวเด็กหญิงรายนี้ โดยขณะนั้นเธอออกไปทำธุระข้างนอก คนที่บ้านจึงได้พูดคุยกับตำรวจแทน และได้ถามถึงสาเหตุที่ตำรวจมาหา ซึ่งตำรวจไม่ได้ตอบอะไรก่อนจะพากันกลับไป 

เมื่อเธอไปติดต่อขอภาพกล้องวงจรปิดจากยามหน้าหมู่บ้าน พบว่ากล้องวงจรปิดเสีย แต่ก็ได้ทราบจากคนที่หน้าหมู่บ้านว่า ตำรวจกลุ่มดังกล่าวอ้างว่ามาเพื่อตรวจตราความเรียบร้อย เธอจึงตัดสินใจไปที่ สน.ตลิ่งชัน เพื่อสอบถามถึงตำรวจกลุ่มดังกล่าว 

เธอเล่าว่า เมื่อไปถึง สน.ตลิ่งชัน ก็ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและได้สอบถามถึงสาเหตุว่าทำไมจึงมีตำรวจนอกเครื่องแบบจาก สน. นี้ไปตามหาตัวเธอถึงที่บ้าน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ตอบว่า เป็นเพราะเด็กหญิงมีคดีติดตัว ซึ่งเธอยืนยันว่าไม่มี เพราะไม่เคยได้รับหมายเรียก หมายจับ หรือเอกสารใดๆ มาก่อน ตำรวจจึงเปลี่ยนคำตอบใหม่ว่า เพราะเธอเป็นหนึ่งในรายชื่อเฝ้าระวัง (Watch List) ของทางการ เพราะเมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2564 ได้ไปร่วมกิจกรรม #ม็อบ6มีนา “ทิ้งขยะหน้าศาลอาญา” พร้อมกับขู่อีกว่า “ไปทำอะไรในม็อบ ให้ระวังตัวไว้ด้วย”

จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนพบว่า กรณีนี้นับเป็นการติดตามคุกคามโดยเจ้าหน้าที่รัฐต่อ ประชาชนที่มีอายุน้อยที่สุด ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 และในภาพรวมของปีนี้ สถานการณ์การติดตามคุกคามโดยเจ้าหน้าที่รัฐยังอาจมีแนวโน้มสูงและเข้มข้นมากขึ้น

เรื่องที่เกี่ยวข้อง:

2 เดือนแรกปี 2565: จนท.รัฐติดตามประชาชนระหว่างมีขบวนเสด็จเข้มข้น ยอดผู้ถูกคุกคามไม่น้อยกว่า 83 ราย

X