วันที่ 21 มี.ค. 2565 เวลา 10.00 น. ศาลอาญาอ่านคำพิพากษายกฟ้องคดีของ เสงี่ยม สำราญรัตน์ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) วัย 69 ปี ที่ถูกฟ้องในข้อหา “ยุยงปลุกปั่น” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 (3) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าได้เผยแพร่คลิปวิดีโอเชิญชวนประชาชนให้ออกมาขับไล่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จำนวน 2 คลิป ลงในยูทูปและเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 15-16 ธ.ค. 2560
เวลา 10.00 น. หลังจากเสงี่ยมเดินทางจากจังหวัดชุมพรตั้งแต่คืนวานมาถึงศาลอาญา เสงี่ยมได้เข้าไปในห้องพิจารณาพร้อมทนายความ และนักศึกษาผู้เข้าสังเกตการณ์คดีจำนวนหนึ่ง
เวลา 10.05 น. ผู้พิพากษาได้เริ่มอ่านคำพิพากษา สรุปความได้ว่า ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าพยานโจทก์ไม่มีน้ำหนักพอว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานยุยงปลุกปั่น ตามมาตรา 116 ประมวลกฎหมายอาญา จึงพิพากษาให้ยกฟ้อง
ศาลให้เหตุผลว่าการทำคลิปวิดีโอเชิญชวนประชาชนให้ออกมาขับไล่ คสช. นั้นเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ที่ประชาชนทั่วไปสามารถทำได้ เป็นการกระทำปราศจากอาวุธ ไม่ปรากฎว่ามีการใช้กำลัง และไม่ทำให้เกิดความเกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบเกิดขึ้นในราชอาณาจักรหรือล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดินแต่อย่างใด
พยานโจทก์ทั้งสองปาก ได้แก่ ผู้กล่าวหาและพนักงานสอบสวน ตอบทนายความจำเลยถามค้าน ทำนองว่าแม้จะมีการประกาศเชิญชวนประชาชนออกมาต่อต้าน คสช. แต่ไม่มีความวุ่นวายและความรุนแรงเกิดขึ้นอันเป็นเหตุมาจากคลิปวิดีโอเชิญชวนนั้น ประกอบกับหลังจากจำเลยพูดกล่าวทักท้วงแล้ว คสช. ก็ยังบริหารราชการแผ่นดินได้ต่อไป
ทั้งนี้ ในทางสอบสวนชั้นพนักงานสอบสวนและสืบพยานในชั้นศาล จำเลยให้การปฏิเสธ ยืนยันว่าการทำคลิปวิดีโอนั้นเป็นเพียงแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างจาก คสช. เท่านั้น จึงแสดงได้ว่าจำเลยแสดงความคิดเห็นติชมการทำงานของ คสช. โดยสุจริต อันเป็นเรื่องปกติในสังคมประชาธิปไตยที่จะมีความคิดเห็นแตกต่าง
ในวันนี้ ผู้พิพากษาอ่านคำพิพากษาอย่างกระชับเพียงในส่วน ‘ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า’ เพราะในส่วนต้นมีความยาว และใช้เวลาอ่านเพียง 10 นาที โดยในห้องพิจารณาในวันนี้มีคดีที่อยู่ระหว่างสืบพยานอยู่ด้วยหลายคดี
ทั้งนี้ คดีนี้เป็นอีกคดีที่เสงี่ยมถูกดำเนินคดีอาญาในยุค คสช. โดยมี พ.ต.ท.กังวาล ศรีวิไล เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก บก.ปอท. เป็นผู้กล่าวหา เหตุในคดีมีเหตุเพียงการจัดทำคลิปกล่าวเชิญชวนให้ประชาชนสาขาอาชีพต่างๆ ออกมาร่วมกันขับไล่ คสช. โดยกล่าววิเคราะห์อำนาจที่ไม่ชอบธรรมของ คสช. และเสนอวิธีการชุมนุมบนท้องถนน การนัดหยุดงาน หรือการเรียกให้คณะรัฐประหารไปรายงานตัวกับประชาชนแทน โดยไม่ได้มีการกระทำอื่นใด แต่กลับถูกออกหมายจับ และตั้งข้อหาอาญา “ยุยงปลุกปั่น” ซึ่งอยู่ในหมวดความมั่นคงของรัฐ คดีใช้เวลาตั้งแต่เสงี่ยมถูกจับกุม แจ้งข้อหา และศาลจะมีคำพิพากษาในที่สุด เป็นระยะเวลาเกือบ 2 ปี
ขณะที่คดีไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเรียกบุคคลให้ไปรายงานตัวกับ คสช. ซึ่งเสงี่ยมถูกฟ้องที่ศาลแขวงดุสิตอีกคดีหนึ่ง อัยการเพิ่งเสร็จกระบวนการขอถอนฟ้องคดีเมื่อช่วงเดือนมกราคม 2565 หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าประกาศเรียกรายงานตัวดังกล่าว ในส่วนของโทษขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ทำให้คดีสิ้นสุดลง
.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:
สั่งฟ้อง “เสงี่ยม” อดีตแกนนำนปช. ม.116-พ.ร.บ.คอมฯ เหตุโพสต์คลิปชวนประชาชนไล่ คสช.
.