อัยการสั่งฟ้อง ม.112-116 “ธนกร” เยาวชนปราศรัยท่าน้ำนนท์ปี 63 ตั้งคำถาม ‘กษัตริย์ยังเป็นสถาบันยึดเหนี่ยวจิตใจหรือไม่’

เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2565 พนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัวมีความเห็นสั่งฟ้อง “เพชร” ธนกร (สงวนนามสกุล) นักกิจกรรมทางการเมือง LGBTQ+ อายุ 18 ปี ต่อศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนนทบุรี ใน 2 ข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และมาตรา 116 จากการขึ้นปราศรัยในการชุมนุม #คนนนท์ท้าชนผด็จการ บริเวณท่าน้ำนนทบุรี เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2563 และศาลรับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ ยชอ.1/2565 

ขณะเกิดเหตุธนกร มีอายุ 17 ปีเศษ ถูกดำเนินคดีพร้อมกับนักกิจกรรมอีก 4 ราย ได้แก่ “รุ้ง” ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, “ไมค์” ภาณุพงศ์ จาดนอก, “ไบร์ท” ชินวัตร จันทร์กระจ่าง และ “เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์ ซึ่งทั้ง 4 ราย ถูกแยกไปดำเนินคดีอีกชุดหนึ่ง  โดยในตอนแรก ธนกรถูกแจ้งเฉพาะข้อหาตามมาตรา 116 แต่เมื่อเดือนกันยายน 2564 ทางพนักงานอัยการได้สั่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ได้แจ้งข้อหาตามมาตรา 112 เพิ่มเติมด้วย

ในคดีนี้ นายธีรนนท์ ไหวดี อธิบดีอัยการภาค 1 ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อัยการสูงสุด ได้ส่งหนังสือเป็นคำสั่งอนุญาตให้พนักงานอัยการเจ้าของสำนวนฟ้องธนกรได้ มายังสำนักงานอัยการภาค 1 เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2564  

อัยการบรรยายฟ้องมีเนื้อหาโดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2563 จําเลยกับพวกที่ถูกแยกดําเนินคดีต่างหาก ได้ร่วมกันกล่าวปราศรัยบนเวทีลานท่าน้ํานนทบุรี โดยพนักงานอัยการระบุว่าเป็นการปราศรัยด้วยถ้อยคําซึ่งมีลักษณะให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน มีสาระสําคัญเกี่ยวกับการโจมตีการทํางานของรัฐบาล เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก แก้ไขรัฐธรรมนูญ และปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์

จําเลยกับพวกได้ใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกําลังไฟฟ้าโฆษณากล่าวปราศรัยบนเวที ซึ่งจําเลยได้กล่าวปราศรัยว่า “เราคือมนุษย์คนหนึ่ง เราขอสนับสนุนและยืนยันว่าไม่ควรมีการใช้คําราชาศัพท์แบ่งชนชั้นเกิดขึ้นในประเทศไทยค่ะ ขนาดที่พระมหากษัตริย์ในต่างประเทศเนี่ยยังคงใช้ ยูกับไอ แล้วทําไมประชาชนประเทศไทยอย่างเราจะใช้คุณกับฉันกับลูกหลานศักดินาไม่ได้คะ 

“เราจะไม่ให้ความเชื่อผิดๆ มาครอบงําเรา เราจะไม่ให้ศาสนามาครอบงําเราอีกต่อไป เพราะศาสนาเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ไม่ใช่เอาไปครอบงําใครแบบผิดๆ เราควรมองความเป็นจริง เราจะยอมเป็นฝุ่นใต้ละอองธุลีพระบาทหรือจะยอมเป็นฝุ่นใต้ตีนใครอีกหรือเปล่า ในยุคนี้เราคงเชื่อได้หรือเปล่าว่าพระมหากษัตริย์คือสถาบันที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ แต่ว่าพระมหากษัตริย์ตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่ไทย แต่อยู่ที่เยอรมัน เสวยสุขท่ามกลางภาษีของประชาชน แล้วเราจะเชื่อได้อย่างไรว่าสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันที่ยึดเหนี่ยวจิตใจประชาชนคนไทยอย่างเรา” 

พนักงานอัยการระบุว่าข้อความดังกล่าวที่จําเลยได้กล่าวปราศรัยนั้นเป็นความเท็จ และเป็นการจาบจ้วงล่วงเกิน ดูหมิ่น ใส่ความ หมิ่นประมาท หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ โดยประการที่น่าจะทําให้พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เสื่อมเสียพระเกียรติ ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง ทําให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา ไม่เคารพต่อพระมหากษัตริย์ ซึ่งอยู่ในฐานะที่ผู้ใดจะละเมิดมิได้ และมิใช่เป็นการกระทําภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญหรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต โดยจําเลยกับพวกมีเจตนาร่วมกันบิดเบือนใส่ร้ายพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 โดยจําเลยกับพวกมีเจตนาทําลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของประชาชนชาวไทย

ทั้งนี้ ท้ายคำฟ้องอัยการยังได้ร้องขอให้ศาลนับโทษจําคุกหรือระยะเวลาฝึกและอบรมของจําเลยในคดีนี้ เรียงติดต่อกับโทษจําคุกหรือระยะเวลาฝึกและอบรมของจําเลยในคดีที่ธนกร ถูกฟ้องจากการชุมนุม #ม็อบ1พฤศจิกา63 ที่บริเวณแยกอุดมสุข – บางนา ของศาลเยาวชนและครอบครัวกลางอีกด้วย 

อัยการได้ฟ้องธนกร ในสองข้อกล่าวหา ได้แก่

  1. “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 
  2. “ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่วาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 

หลังศาลรับฟ้อง ทนายความได้ยื่นประกันตัวธนกรระหว่างพิจารณาคดี ด้วยหลักทรัพย์จำนวน 20,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ ก่อนศาลอนุญาตให้ประกัน พร้อมทั้งนัดตรวจพยานหลักฐานวันที่ 1 มี.ค. 2565 เวลา 09.00 น.

สำหรับการจัดกิจกรรม #คนนนท์ท้าชนเผด็จการ  ที่ท่าน้ำนนท์ จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2563 มีการจัดกิจกรรมแสดงดนตรี และการกล่าวปราศรัยจากผู้ชุมนุมในประเด็นต่างๆ เช่น ความเท่าเทียมทางเพศ ข้อเรียกร้องตามคณะประชาชนปลดแอก ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ แก้ไขรัฐธรรมนูญ และให้ประยุทธ์ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ โดยมีนักเรียน นักศึกษา และประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก 

ทั้งนี้ “เพชร” ธนกร ถูกกล่าวหาดำเนินคดีทางการเมืองรวมแล้ว 8 คดี โดยเป็นคดีมาตรา 112 จำนวน 3 คดี โดยสองคดีก่อนหน้านี้ พนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัวก็ได้มีคำสั่งฟ้องคดีต่อศาลไปแล้ว คือคดีปราศรัยในการชุมนุม #ม็อบ6ธันวา63 ที่วงเวียนใหญ่ และคดี #แต่งครอปท็อปเดินห้างสยามพารากอน เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 63

.

อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง

รัฐต้องฟังเสียงของเยาวชน: บทสนทนากับ ‘ธนกร’ เยาวชนรายแรกที่ถูกตั้งข้อหา ม.116

คดี 112, 116 เพนกวิน-รุ้ง-ไมค์-ธนกร (เยาวชน) ปราศรัยม็อบ10กันยา #คนนนท์ท้าชนเผด็จการ

สถิติเยาวชนถูกดำเนินคดีจากการแสดงออกและการชุมนุม ปี 2563-64

X