นศ.ร่วมคาร์ม็อบเพชรบูรณ์ #ไล่ประยุทธ์ ถูกแจ้งข้อหา พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ-ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน

วันที่ 24 พ.ย. 64 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเพชรบูรณ์ นายศุภวิทษ์ ประสินทอง นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งได้รับหมายเรียกผู้ต้องหา จากการเข้าร่วมกิจกรรมคาร์ม็อบเพชรบูรณ์ครั้งที่ 2 “ลบรอยรถถังเผด็จการ ด้วยขบวนรถประชาชน” #ไล่ประยุทธ์ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2564 ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา โดยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาและให้การเพิ่มเติมภายใน 15 วัน

ก่อนหน้านี้ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. 64 ศุภวิทษ์ ได้รับหมายเรียกผู้ต้องหาในคดีที่มี พ.ต.ท.อดิศร สมานทร กับพวก เป็นผู้กล่าวหา โดยนัดหมายให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาวันที่ 16 พ.ย. 64 ซึ่งเป็นวันรุ่งขึ้น ศุภวิทษ์จึงได้ขอเลื่อนการรับทราบข้อกล่าวหาออกมาก่อนเนื่องจากเวลาอันกระชั้นชิด

วันนี้ ศุภวิทษ์ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาพร้อมด้วยทนายความ โดยมี ร.ต.อ.สานิตย์ สัญนิชาติ พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบสำนวนคดี ได้แจ้งพฤติการณ์และข้อกล่าวหาระบุว่า  

เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2564 เวลาประมาณ 16.00 น.- 17.30 น. ที่บนถนนบริเวณหน้าองค์พระพุทธมหาธรรมราชและที่บริเวณลานจอดรถ หน้ากองพลทหารม้าที่ 1 ค่ายพ่อขุนผาเมือง ศุภวิทษ์ได้เข้าร่วมชุมนุมกิจกรรมทางการเมืองซึ่งเป็นกลุ่มที่เห็นต่างกับรัฐบาล ระหว่างเวลาที่ศุภวิทษ์เข้าร่วมทํากิจกรรมนี้ไม่ได้สวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า อันเป็นการดําเนินการใดๆ ที่อาจทําให้เกิดความไม่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งอาจทําให้เกิดโรคระบาดแพร่ออกไป ทั้งในการชุมนุมในครั้งนี้ศุภวิทษ์ได้ใช้โทรโข่งซึ่งเป็นเครื่องขยายเสียง กล่าวปราศรัยอยู่ตลอดเป็นระยะโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต

ต่อมาระหว่างที่เข้าร่วมชุมนุมอยู่นั้น ศุภวิทษ์ได้เข้าไปทุบกระจกรถยนต์สายตรวจ ซึ่งมี พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ บางเขียว สารวัตรสืบสวน กองกํากับการสืบสวนตํารวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ ปฏิบัติหน้าที่สารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งกําลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ และได้นั่งอยู่ภายในรถยนต์สายตรวจคันนั้น จากนั้นผู้ต้องหาได้กล่าวถ้อยคำด่าทอ พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ โดยมีการเรียกร้องให้เปิดกระจกมาคุยกัน และแสดงความไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่มาถ่ายรูป

นอกจากนี้ผู้ต้องหายังได้ด่าทอ ร.ต.อ.เกษม จันทร์ศูนย์ รองสารวัตรสืบสวน สภ.เมืองเพชรบูรณ์ กับพวก ซึ่งกําลังปฏิบัติหน้าที่อยู่เช่นเดียวกัน การกระทําของผู้ต้องหามีพฤติกรรมการแสดงออกถึงความรุนแรงขัดต่อความสงบเรียบร้อย อันเป็นการฝ่าฝืนประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทํากิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019

ผู้กล่าวหาและพนักงานสอบสวนเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดในข้อกล่าวหา “ชุมนุมหรือมั่วสุมอันเป็นการให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย, ดําเนินการใดๆ ที่อาจทําให้เกิดความไม่ถูกสุขลักษณะ (โดยการไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า) อันอาจทําให้เกิดโรคระบาดแพร่ออกไป, ทําการโฆษณาใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต และดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทําการตามหน้าที่”

ด้านศุภวิทษ์ได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และจะขอให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือภายใน 15 วัน ก่อนจะได้รับการปล่อยตัวกลับโดยไม่มีการควบคุมตัวแต่อย่างใด

คดีนี้นับเป็นคดีจากการชุมนุมทางการเมืองคดีแรกในจังหวัดเพชรบูรณ์ กิจกรรมที่ถูกกล่าวหาเป็นกิจกรรมคาร์ม็อบครั้งที่ 2 ในจังหวัด หลังจากมีการจัดครั้งแรกพร้อมกับจังหวัดอื่นๆ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2564 แต่เท่าที่ทราบข้อมูล ไม่มีผู้จัดหรือผู้เข้าร่วมถูกดำเนินคดีแต่อย่างใด จนกระทั่งการจัดครั้งที่ 2 ในโอกาสครบรอบ 15 ปี การรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 นี้ ทำให้มีผู้ถูกออกหมายเรียก 1 ราย

X