ศาลสั่งเพิกถอนคำสั่งปิดคลิปเพลง “ปฏิรูป” ของวง R.A.D. เหตุไต่สวนกระทรวงดิจิทัลฯ ฝ่ายเดียว

23 ก.ย. 64 ศาลอาญานัดฟังคำสั่งในคดีที่นายเดชาธร บำรุงเมือง หรือ “ฮอคกี้” แรปเปอร์วง Rap Against Dictatorship (R.A.D.) ได้ยื่นคัดค้านคำสั่งศาล ที่สั่งระงับการเผยแพร่คลิปเพลง “ปฏิรูป” ตามคำร้องของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยศาลได้มีคำสั่งให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาดังกล่าว เนื่องจากเป็นการไต่สวนผู้ร้องเพียงฝ่ายเดียว จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบ

สำหรับกรณีนี้ เหตุเกิดเมื่อวง Rap Against Dictatorship เผยแพร่คลิปมิวสิควิดีโอเพลงชื่อ “ปฏิรูป” บนเว็บไซต์ยูทูป (YouTube) เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2563 มีเนื้อหากล่าวถึงปัญหาทางการเมือง โจมตีการบริหารของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และสนับสนุนการปฏิรูปเพื่อสร้างความเป็นธรรม โดยมียอดผู้ชมกว่า 9 ล้านครั้ง ต่อมาในช่วงต้นปี 2564 พบว่าคลิปวิดีโอเพลงดังกล่าวถูกปิดกั้นการเข้าถึง โดยมีข้อความระบุว่า “วิดีโอนี้ไม่สามารถเข้าถึงได้จากโดเมนในประเทศเนื่องจากมีการร้องเรียนทางกฎหมายจากรัฐบาล”

หลังจากนั้นทางวง R.A.D. ได้ตัดสินใจคัดค้านคำสั่งปิดกั้นการเข้าถึงดังกล่าว โดยพบว่าเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 ทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา ขอให้ระงับการเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสม มีเนื้อหาเข้าข่ายความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร โดยมีการระบุ URLs ของเพลง “ปฏิรูป” เป็นหนึ่งในสองเนื้อหาที่ขอให้ศาลปิดกั้น

จากนั้น ศาลได้มีคำสั่งลงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 ให้ผู้ให้บริการระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลดังกล่าวทั้ง 2 URLs โดยเป็นการไต่สวนฝ่ายผู้ร้องฝ่ายเดียว

วง R.A.D. และทนายความ ได้ยื่นคำร้องคัดค้านคำสั่งดังกล่าว โดยยืนยันว่าคำร้องให้ระงับการแพร่หลายดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาฝ่ายเดียว ฝ่ายผู้คัดค้าน ซึ่งเป็นศิลปินเจ้าของผลงาน ไม่มีโอกาสได้โต้แย้ง ทั้งคำสั่งศาลยังเป็นการจำกัดเสรีภาพของบุคคล โดยคำร้องของฝ่ายผู้ร้อง ก็ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าข้อความใดที่เข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมาย โดยผู้คัดค้านเองยืนยันว่าเนื้อหาของเพลงไม่มีลักษณะกระทบต่อความมั่นคงแต่อย่างใด จึงขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว

วันนี้ ศาลได้มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งระงับการเผยแพร่เพลง “ปฏิรูป” ดังกล่าว โดยระบุว่า “พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คำร้องคัดค้านเป็นผลสืบเนื่องมาจากศาลมีคำสั่งรับคำร้องของผู้ร้อง และไต่สวนพยานผู้ร้องฝ่ายเดียว แล้วมีคำสั่งในทันที เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบ เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม เห็นควรให้โอกาสผู้คัดค้านได้ยื่นคำคัดค้าน และเข้ามาต่อสู้คดี ในชั้นนี้จึงยังไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นอื่นตามคำร้องคัดค้าน

“อาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 วรรคหนึ่ง ให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาตั้งแต่การไต่สวนคำร้อง และคำสั่งศาลฉบับลงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2563”

คำสั่งให้เพิกถอนลงนามโดยนางสาวเปรมรัตน์ วิจารณาญาณ และนายวิทวัส ทีปประพันธ์ณี

จากนั้นศาลได้กำหนดให้ผู้คัดค้าน หากประสงค์จะคัดค้านคำร้องของกระทรวงดิจิทัลฯ ให้ยื่นคัดค้านภายใน 15 วัน นับจากวันนี้ หากไม่ยื่นถือว่าไม่ติดใจ

ขณะเดียวกันทางฝ่ายกระทรวงดิจิทัลฯ ได้แถลงว่าประสงค์จะนำพยานเข้ามาไต่สวน 2 ปาก คือนายสัจจะ โชคบุญส่งสวัสดิ์ ผู้อำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีสารสนเทศ และนางสาวปริญญา ก้อยจะบก นักวิชาการคอมพิวเตอร์ชำนาญการ ส่วนฝ่ายผู้คัดค้าน แถลงว่าประสงค์จะนำสืบพยาน คือนายเดชาธร บำรุงเมือง เอง

ศาลจึงกำหนดวันนัดไต่สวนพยานทั้งหมดในวันที่ 7 ธันวาคม 2564 เวลา 9.00 น. เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนพบว่าก่อนหน้านี้การปิดกั้นการเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ในลักษณะดังกล่าว ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 20 ศาลมักสั่งปิดกั้นโดยพิจารณาเพียงคำร้องของกระทรวงดิจิทัลฯ ซึ่งเป็นผู้ร้องขอเพียงฝ่ายเดียว ไม่ได้มีการนัดไต่สวนผู้เผยแพร่ข้อมูลที่ถูกร้องขอให้ปิดกั้น หากตั้งแต่กลางปี 2564 เป็นต้นมา ศาลได้เปลี่ยนแนวทางดังกล่าว โดยเริ่มมีการออกหมายนัดฝ่ายผู้ถูกกระทรวงดิจิทัลฯ ร้องขอให้ปิดกั้นการเข้าถึงเนื้อหา ให้มาร่วมไต่สวนคำร้องด้วย

อ่านเพิ่มเติม

ผู้ใช้เฟซบุ๊ก-ทวิตเตอร์ไม่ต่ำกว่า 7 ราย ได้หมายศาลนัดไต่สวนคำร้องของกระทรวงดิจิทัลฯ ขอปิดกั้นเนื้อหา

ศาลสั่งลบ ! ทวิตวิจารณ์ชุดครอปท็อปของ ‘เกียรติชัย’ หลังกระทรวงดิจิทัลฯ ร้องให้ระงับทวิต รวมทั้งอีก 3 URL บนเฟซบุ๊ก