ตร.ทองหล่อ แจ้งข้อหา พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 5 นักกิจกรรมเฟมินิสต์ปลดแอก เหตุ #คาร์ม็อบ10สิงหา ส่วนอีกรายถูกปรับเหตุฝ่าฝืนเคอร์ฟิว หลังตร.กล่าวหาว่าอยู่ในเหตุทำลายป้อมยามวิกาล

วันที่ 6 ก.ย. 64 ที่ สน.ทองหล่อ 5 นักกิจกรรมจากกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากการจัดกิจกรรมคาร์ม็อบ “ขบวนกี2” #อัยจะขยี้ยูวให้แหลกคึ เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 64 ซึ่งมีการเคลื่อนขบวนไปยังหน้าอาคารของชิโน-ไทย

ด้านที่ สน.ปทุมวัน “มายด์ ภัสราวลี” ก็ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในคดีชุมนุม #ม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์2 เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 64 และ ที่ สน.นางเลิ้ง “ฟิวส์” เยาวชนอายุ 16 ปี ก็ได้เดินทางเข้ารับทราบ 6 ข้อหา จากการร่วมชุมนุม #ม็อบ16สิงหา ทะลุฟ้าไล่ล่าทรราช

ส่วนที่ สน.บุปผาราม มีผู้เข้าร่วมชุมนุมช่วงคืนวันที่ 18 ส.ค. 64 ถูกตำรวจออกหมายเรียกไปแจ้งข้อหา ฝ่าฝืน “มาตรการเคอร์ฟิว” โดยถูกกล่าวหาว่าอยู่ร่วมในช่วงเหตุการณ์ทำลายป้อมจราจรแยกบ้านแขก ก่อนรับสารภาพและถูกศาลสั่งปรับ 2,500 บาท

แจ้ง “พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” 5 นักกิจกรรม เหตุร่วม คาร์ม็อบ #10สิงหาไล่ทรราช

ที่ สน.ทองหล่อ นักกิจกรรม 5 ราย ได้แก่ “แอมป์” ณวรรษ เลี้ยงวัฒนา, ธารารัตน์ ไพบูลย์ธนสมบัติ, แทนฤทัย แท่นรัตน์ นักกิจกรรมกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก เยาวชนอายุ 16 ปี และ อายุ 15 ปี เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกในข้อหา ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากการจัดกิจกรรมคาร์ม็อบของกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก เพื่อไปเข้าร่วม “คาร์ม็อบใหญ่ ไล่ทรราช” เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 64 จัดโดยแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม บริเวณแยกราชประสงค์

เจ้าพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ได้แจ้งข้อหา ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ “ร่วมกันชุมนุมทํากิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคฯ ที่มีจํานวนมากกว่า 5 คน และร่วมกันจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด” แก่ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน

ทั้งห้าคนได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา บางรายปฎิเสธลงลายมือชื่อ โดยเขียนถ้อยคำอื่นแทน อาทิ “ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ”, “เบื่อสน.นี้” และ “สาวน้อยมหัศจรรย์เบื่อสน.นี้” และจะขอยื่นคำให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือภายในวันที่ 29 ก.ย. 64 พนักงานสอบสวนยังนัดมารายงานตัวที่ สน.ทองหล่อ ในวันเดียวกันนี้

หลังเสร็จสิ้นกระบวนการ พนักงานสอบสวนได้ปล่อยผู้ต้องหาที่เป็นผู้ใหญ่ไป เนื่องจากมาปรากฎตัวต่อหน้าตามหมายเรียก ไม่มีเหตุให้ควบคุมตัวไว้

เวลา 16.10 น. ด้านเยาวชนอีก 2 ราย ที่มารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก ได้ถูกพนักงานสอบสวนควบคุมตัวส่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายควบคุม

ต่อมาเพจเฟซบุ๊ก Secure Ranger ไลฟ์สด ขณะเยาวชนทั้งสองถูกควบคุมตัวไปยังศาลเยาวชนฯ โดยเยาวชนระบุว่าในวันนี้มาเพียงรับทราบข้อกล่าวหาเท่านั้น ไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่จะพาไปฝากขัง และต้องจำยอมต้องขึ้นรถ ไม่สามารถทวงติงได้ เนื่องจากศาลเยาวชนฯ ใกล้ถึงเวลาปิดทำการ หากล่าช้าอาจจะต้องมาใหม่ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะทำให้ผู้ปกครองของทั้งสองต้องเสียเวลา ทั้งๆ ที่ตนมาสน.ตั้งแต่ช่วงเช้า

เยาวชนระบุต่อว่า ขณะอยู่บนรถผู้ต้องขัง มีความรู้สึกเหมือนถูกดำเนินคดีร้ายแรง ทั้งที่เป็นเพียงผู้ที่ออกมาเรียกร้องสิทธิ และต้องการพัฒนาประเทศให้ดีขึ้น

ก่อนจะทิ้งท้ายว่า “เราต้องแข็งแกร่ง เพื่อให้เขารู้ว่ากระบวนการมันทำอะไรเราไม่ได้” โดยตลอดการถ่ายทอดไลฟ์ เยาวชนทั้งสองมีเสียงสั่นเครือเป็นระยะ

ต่อมา ศาลเยาวชนฯ ได้อนุญาตให้ประกันตัว โดยเยาวชนอายุ 15 ปี ให้วางหลักทรัพย์ 5,000 บาท ส่วนเยาวชนอายุ 16 ปี ที่เคยถูกกล่าวหาดำเนินคดีจากการชุมนุมทางการเมืองมาแล้ว ให้วางหลักทรัพย์ 15,000 บาท พร้อมนัดให้ทั้งสองไปสอบปากคำที่สถานพินิจฯ ในวันที่ 21 ก.ย. 64 ต่อไป

ขณะเดียวกันคดีนี้ ยังมีผู้ถูกกล่าวหาอีกสองราย ได้แก่ เบนจา อะปัญ นักกิจกรรมจากกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ และปพัดชา บู่สังข์ ที่นัดหมายเดินทางเข้ารับข้อกล่าวหาในวันที่ 7 ก.ย. 64

“มายด์ ภัสราวลี” รับทราบข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เหตุปราศรัยม็อบแฮร์รี่ พ็อตเตอร์ 2

ส่วนที่ สน.ปทุมวัน “มายด์” ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล ได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาจากการปราศรัยในการชุมนุม #เสกคาถาปกป้องประชาชน หรือ #ม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์2 เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 64 ที่หน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ

พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ภัสราวลีให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และจะให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือต่ไป

การชุมนุมนี้ นอกจากอานนท์ นำภา ที่ถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 แยกออกไป ตำรวจยังออกหมายเรียกนักกิจกรรมและประชาชนรววม 20 ราย ในข้อหาตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยนักกิจกรรมได้ทยอยเข้ารับทราบข้อกล่าวหา

เยาวชนอายุ 16 ปี ถูกแจ้งข้อหา 6 ข้อหา เหตุร่วมชุมนุม #ม็อบ16สิงหา ทะลุฟ้าไล่ล่าทรราช

ที่ สน.นางเลิ้ง “ฟิวส์” เยาวชนอายุ 16 ปี จากกลุ่มปฏิวัติการศึกษาไทย ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในคดีร่วมชุมนุม #ม็อบ16สิงหา ไล่ล่าทรราช จัดโดยกลุ่มทะลุฟ้า ซึ่งมีการเคลื่อนขบวนจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไปยังทำเนียบรัฐบาล ก่อนมีเหตุปะทะกับเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชนบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยราชมงคลพระนคร

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 64 ผู้ร่วมชุมนุมที่เป็นผู้ใหญ่อีก 4 ราย ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อหาในกรณีนี้ไปแล้ว โดยฟิวส์เดินทางไปด้วย แต่พนักงานสอบสวนไม่ได้เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาเยาวชน จึงให้เดินทางมาใหม่ในวันนี้

พ.ต.ท.สำเนียง โสธร พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ได้แจ้ง 6 ข้อกล่าวหา ได้แก่ ข้อหาตามป.อาญา มาตรา 215, มาตรา 216, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, กีดขวางการจราจร, พ.ร.บ.ความสะอาดฯ, ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยฟิวส์ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

ต่อมาพนักงานสอบสวนยังนำตัวฟิวส์ไปยังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เพื่อให้ศาลออกหมายควบคุม ก่อนศาลจะให้ประกันตัวผู้ต้องหา โดยไม่ต้องวางหลักประกัน และนัดหมายไปสอบปากคำที่สถานพินิจฯ ในวันที่ 13 ก.ย. 64 ต่อไป

ศาลลงโทษปรับ 2,500 บาท ผู้ชุมนุมฝ่าฝืนเคอร์ฟิว หลังตร.กล่าวหาว่าอยู่ในเหตุการณ์ทำลายป้อมยามวิกาล

ในวันเดียวกันนี้ที่ สน.บุปผาราม กุลธิดา ภูบุญมี ผู้ร่วมชุมนุมวัย 19 ปี ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกข้อหาฝ่าฝืนเคอร์ฟิว โดยถูกกล่าวหาว่าอยู่ในระหว่างเหตุการณ์ทำลายป้อมจราจรแยกบ้านแขก ในช่วงคืนวันที่ 18 ส.ค. 64

ร.ต.อ.วริทธิ์ธร อ่อนคล้าย รองสารวัตรสอบสวน สน.บุปผารราม ได้แจ้งข้อหาฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เรื่องการออกนอกเคหสถานในช่วงเวลา 22.00 – 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่

ผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ก่อนได้ถูกพนักงานสอบสวนส่งสำนวนให้อัยการ และสั่งฟ้องในวันนี้ทันที ก่อนที่ศาลแขวงธนบุรีจะได้ลงโทษปรับเป็นเงิน 2,500 บาท ทำให้คดีสิ้นสุดลง