ตร.ปอท.แจ้งข้อหา ม.112 ‘อรรฆพล’ หลัง ‘แน่งน้อย’ กล่าวหาโพสต์พาดพิง ร.9 ให้เสื่อมเสีย

วานนี้ (31 ส.ค. 64) เวลา 11.00 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) อรรฆพล (สงวนนามสกุล) หรือ “บีม” หนุ่มวัย 25 ปี ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกในข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) 

คดีนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 11 ม.ค. 64 นางแน่งน้อย อัศวกิตติกร ประธานศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ หรือ “ศชอ.” ได้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดําเนินคดีต่ออรรฆพล โดยอ้างว่าได้โพสต์ข้อความพาดพิงพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 ก่อนที่อรรฆพลจะเพิ่งได้รับหมายเรียกลงวันที่ 23 ส.ค. 64 ให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา

.

แจ้ง “ม.112 – พ.ร.บ.คอม” ระบุโพสต์พาดพิงถึงสถาบันฯ โดยมีเจตนามุ่งหมายให้ปปช. ดูหมิ่นเกลียดชังพระมหากษัตริย์

เวลา 11.00 น. อรรฆพล พร้อมทนายความและบุคคลผู้ไว้วางใจ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.หญิงสุธัญดา เอกเอก สารวัตร (สอบสวน) กก.7 บก.ปอท. และ ร.ต.ท.นัฐพล ทะเลน้อย รองสารวัตร (สอบสวน) ปรก.กก.7 บก.ปอท. ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานสอบสวนผู้แจ้งข้อกล่าวหาและพฤติการณ์แก่อรรฆพล

พนักงานสอบสวนบรรยายพฤติการณ์คดีโดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 64 นางแน่งน้อย อัศวกิตติกร ผู้กล่าวหา ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดําเนินคดีกับผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง

สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 64 เวลา 22.42 น. บัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าวได้โพสต์ข้อความว่า “พิมรี่พายขึ้นดอยครั้งเดียวเด็กมีไฟฟ้าใช้ แต่บางคนขึ้นดอยมา 70 ปี…//ไม่พูดดีกว่า” รวมถึงได้มีการแสดงความคิดเห็นในโพสต์ดังกล่าวอีกด้วยว่า “สงสัยจะมองไม่เห็น มีตาเดียว” 

ผู้กล่าวหาอ้างว่า โพสต์และข้อความดังกล่าว เป็นการหมิ่นประมาท และดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ ทำให้พระมหากษัตริย์เสื่อมเสียพระเกียรติ เสียชื่อเสียง ทรงถูกดูหมิ่นและถูกเกลียดชัง ซึ่งผู้กล่าวหาได้อนุมานว่าโพสต์กับข้อความดังกล่าวหมายถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ที่ได้ครองราชย์มาจนครบ 70 ปี 

ยิ่งไปกว่านั้น ผู้กล่าวหาได้ตรวจสอบข้อความและข้อมูลในไทมไลน์ของบัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าว ก็พบว่ามีการโพสต์ข้อความที่พาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่เป็นนิจ แต่ใช้เนื้อหาข้อความที่เลี่ยงไม่ได้กล่าวถึงโดยตรง ผู้กล่าวหาจึงมากล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดําเนินคดีตามกฎหมาย โดยเห็นว่าการกระทําดังกล่าว เป็นการเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เป็นข้อความที่มีเนื้อหาเป็นการกล่าวหา ใส่ความพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อพระมหากษัตริย์และสถาบันพระมหากษัตริย์ และมีเจตนามุ่งหมายเพื่อให้ประชาชนที่เข้ามาอ่าน เกิดความรู้สึกดูหมิ่น เกลียดชังพระมหากษัตริย์และสถาบันพระมหากษัตริย์ 

พนักงานสอบสวนระบุว่าจากการสืบสวนสอบสวน น่าเชื่อว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว คืออรรฆพล จึงแจ้ง 2 ข้อกล่าวหา ได้แก่ ข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) 

ด้านอรรฆพลได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และจะให้การเป็นหนังสือเพิ่มเติมภายในวันที่ 30 ก.ย. 64 โดยได้ลงลายมือชื่อในบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาไว้

ทั้งนี้ อรรฆพลได้ขอให้พนักงานสอบสวนเรียกนางแน่งน้อย อัศวกิตติกร ผู้กล่าวหามาให้การเพิ่มเติมว่า  ข้อความตามที่มากล่าวโทษนั้น มีความหมายอย่างไร และมีข้อความตรงไหนและอย่างไรที่หมิ่นประมาท ดูหมิ่น อาฆาตมาดร้ายต่อองค์พระมหากษัตริย์ฯ และขอให้พนักงานสอบสวนสอบคำให้การแน่งน้อยว่า ข้อความดังกล่าวเป็นภัยต่อความมั่นคง ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) อย่างไร

หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการ อรรฆพลได้รับการปล่อยตัว โดยไม่ถูกควบคุมตัวไว้

จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน นับตั้งแต่เริ่มมีการเผยแพร่รายชื่อผู้ถูกดำเนินคดีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อวันที่ 24 พ.ย. 63 มีผู้ถูกดำเนินคดีจากการแสดงออกและการชุมนุมทางการเมืองในข้อหาตามมาตรา 112 แล้วทั้งสิ้นอย่างน้อย 124 ราย ใน 126 คดี โดยในจำนวนนี้มี 61 คดีแล้วที่มี “ประชาชน” เป็นผู้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษ

>> สถิติผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ปี 2563-64

.

X