วันที่ 25 ส.ค. 64 ที่ศาลจังหวัดเชียงราย นายมงคล ถิระโคตร หรือ “บาส” พ่อค้าขายเสื้อผ้าออนไลน์และนักกิจกรรมในจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยครอบครัว เข้ารายงานตัวต่อศาลเพื่อรับฟังคำฟ้องในข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จำนวน 2 คดี หลังพนักงานอัยการจังหวัดเชียงรายได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลโดยไม่มีตัวจำเลยไปก่อนแล้ว เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ก่อนศาลจะอนุญาตให้ประกันตัวระหว่างพิจารณาคดีในทั้งสองคดี ด้วยเงินสด 1.5 แสนบาท รวมเป็น 3 แสนบาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ กำหนดเงื่อนไขห้ามกระทำใดๆ อันเป็นที่เสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ห้ามเดินทางออกนอกประเทศและให้มาศาลตามนัดหมาย
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 14 เม.ย. และ 1 พ.ค. 64 นายมงคลได้ถูกตำรวจเข้าจับกุมตัวตามหมายจับของศาล 2 ครั้ง เขาถูกแจ้งข้อกล่าวหาในสองคดี และถูกขอฝากขังต่อศาลจังหวัดเชียงรายทั้ง 2 ครั้ง โดยศาลอนุญาตให้นายมงคลได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นสอบสวนด้วยเงินจำนวนเดียวกันนี้
>> ศาลเชียงรายให้ประกันตัว “บาส มงคล” คดี ม.112 วางหลักทรัพย์ 1.5 แสนบาท
>> ศาลเชียงรายให้ประกันตัวคดี ม.112 “บาส มงคล” ตร.ยังยื่นขอเพิกถอนประกันคดีแรก แต่ศาลยกคำร้อง
หลังจากนั้นระหว่างที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นสอบสวน ช่วงเดือนมิถุนายน 2564 นายมงคลได้เดินทางไปทำกิจกรรมอดอาหารเพื่อเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จากความล้มเหลวในการบริหารงานทุกด้าน แต่กลับปรากฎว่าเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 64 ระหว่างที่นายมงคลจะเดินทางไปทำกิจกรรมที่กรุงเทพฯ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย ได้เดินทางเข้ายื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดเชียงราย เพื่อขอให้เพิกถอนการประกันตัว โดยกล่าวอ้างว่านายมงคลยังคงมีพฤติการณ์ไม่เหมาะสม พร้อมกับพยานเอกสารประกอบคำขอให้เพิกถอนประกันจำนวนหนึ่ง
ศาลจังหวัดเชียงรายได้มีคำสั่งให้มีการไต่สวนคำร้องขอให้เพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราว ในวันที่ 26 มิ.ย. 64 แต่เนื่องจากในวันดังกล่าวนายมงคลยังไม่ได้เดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯ อีกทั้งหลังกลับมาจากกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดงเข้มงวดที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้นายมงคลต้องทำการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน หลังเดินทางกลับมา ทำให้ไม่สามารถมาตามนัดหมายของศาลได้ ศาลจังหวัดเชียงรายจึงได้มีคำสั่งให้เลื่อนการไต่สวนดังกล่าวออกไปก่อน
จนกระทั่งวันนี้ เวลาประมาณ 9.00 น. นายมงคลได้เดินทางเข้ารายงานตัวที่ศาลจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยครอบครัวและทนายความ ตามนัดสอบถามคำให้การและไต่สวนคำร้องขอให้เพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราว
ทนายความของจำเลยได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้งดการไต่สวนคำร้องขอให้เพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างชั้นสอบสวน โดยระบุว่าไม่มีความจำเป็นต้องไต่สวนกรณีดังกล่าวแล้วเนื่องจากปัจจุบันนายมงคลได้ถูกส่งฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลแล้ว ทำให้อำนาจในการควบคุมตัวในชั้นสอบสวนของพนักงานสอบสวนได้สิ้นสุดลง ศาลจึงมีคำสั่งให้งดการไต่สวนตามคำร้องของทนายจำเลย
จากนั้น ศาลได้อ่านคำฟ้องของพนักงานอัยการจังหวัดเชียงรายที่ยื่นฟ้องต่อศาลทั้ง 2 คดี ให้จำเลยฟังผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยในคดีแรกนายมงคลได้ถูกกล่าวหาจากการโพสต์เฟซบุ๊กจำนวน 25 โพสต์ และคดีที่สองจำนวน 2 โพสต์ ในข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ อีกทั้งในคดีที่สอง พนักงานอัยการจังหวัดเชียงรายยังมีการขอให้นับโทษในคดีที่สองต่อจากคดีที่หนึ่งในข้อกล่าวหาเดียวกันที่ถูกฟ้องต่อศาล
เจ้าหน้าที่ศาลได้ส่งมอบคำฟ้องทั้งสองให้กับจำเลยและทนายความ ก่อนศาลจะสอบถามว่าจำเลยจะให้การอย่างไร จำเลยได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาและขอต่อสู้คดีจนถึงที่สุด
ต่อมา บิดาของนายมงคลได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวทั้งสองคดีต่อศาล ด้วยเงินสดจำนวน 1.5 แสนต่อคดี รวมทั้งหมดเป็นเงิน 3 แสนบาท โดยใช้เงินจากกองทุนราษฎรประสงค์
จนกระทั่งเวลาประมาณ 15.00 น. ศาลจังหวัดเชียงรายได้มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยตามคำร้อง โดยกำหนดเงื่อนไขไม่ให้จำเลยกระทำใดๆ อันเป็นที่เสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ห้ามเดินทางออกนอกประเทศและให้มาศาลตามนัดหมาย
ศาลได้กำหนดวันนัดคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของจำเลยในวันที่ 21 ก.ย. 64 และวันนัดตรวจพยานหลักฐานวันที่ 8 ต.ค. 64 ในทั้งสองคดี นายมงคลได้รับการปล่อยตัวจากห้องคุมขังใต้ถุนศาล ที่ถูกควบคุมตัวตั้งแต่เวลาประมาณ 10.00 น. จนถึงเวลาประมาณ 16.00 น. เป็นเวลากว่า 6 ชั่วโมง