จับ 4 ราย คาร์ปาร์ค #ม็อบ15สิงหา 1 ใน 2 เยาวชน ถูกยิงด้วยกระสุนยางที่ศีรษะและตัวหลายนัด ก่อนถูกแจ้งข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

15 ส.ค. 2564 หลังเหตุเผชิญหน้าระหว่างประชาชนและชุดควบคุมฝูงชนบริเวณแยกดินแดงในเวลาราว 17.00 น.ไปจนถึงหลัง 22.00 น. นอกพื้นที่กิจกรรม #ม็อบ15สิงหา Car Mob x Car Park แสดงพลังขับไล่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งยุติกิจกรรมในเวลา 18.00 น. พบผู้ถูกจับกุมหลังเคอร์ฟิวรวม 4 ราย โดยถูกจับขณะซ้อนมอเตอร์ไซค์มาถึงบริเวณปากซอยบุญอยู่ในเวลา 21.10 น. 2 ราย และบริเวณแยกโบสถ์แม่พระในเวลา 21.40 น. อีก 2 ราย ในจำนวนนี้เป็นเยาวชนชายอายุต่ำกว่า 18 ปี 2 ราย และ 1 ใน 2 ราย ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนยางหลายแห่ง 

ทั้งหมดถูกควบคุมตัวมาที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ตั้งข้อหา ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยเยาวชนชายที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ ถูกตั้งข้อหา พกอาวุธ (มีด) ไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรด้วย ระหว่างทำบันทึกจับกุม ทนายความได้แจ้งตำรวจให้นำเยาวชนรายที่บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล โดยมีผู้ปกครองเดินทางไปที่โรงพยาบาลตำรวจด้วยและรับกลับบ้านหลังแพทย์ตรวจรักษาแล้ว พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง นัดให้ไปพบที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางเพื่อตรวจสอบการจับช่วงบ่ายวันนี้ (16 ส.ค. 2564) พร้อมกับอีกรายที่ถูกคุมตัวอยู่ที่ บช.ปส.ตลอดคืน ก่อนศาลเยาวชนฯ ให้ประกันโดยไม่ต้องวางหลักประกัน 

ภาพจาก Bangkok Post

ส่วนอีก 2 ราย ถูกควบคุมตัวที่ บช.ปส.ตลอดคืน พนักงานสอบสวนได้ฝากขังต่อศาลแขวงดุสิตผ่านวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ 1 ราย ก่อนได้รับการประกันตัวด้วยเงินสด 20,000 บาท อีก 1 ราย ที่ให้การรับสารภาพ พนักงานสอบสวนได้ส่งตัวให้อัยการ และอัยการยื่นฟ้องต่อศาลแขวงพระนครเหนือในวันเดียวกัน โดยศาลพิพากษาปรับ 2,000 บาท

นอกจากพื้นที่ดินแดง ยังพบมีการดำเนินคดีกับ “ไบรท์” ชินวัตร จันทร์กระจ่าง หลังยุติกิจกรรม #คาร์ปาร์คนนทบุรี ในข้อหาตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ, ส่งเสียงอื้ออึง และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังแจ้งข้อกล่าวหา โดยชินวัตรให้การปฏิเสธ พนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ไม่ได้ควบคุมตัวชินวัตรไว้ 

นอกจากนี้ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนยังได้รับแจ้งเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ว่า มีวัยรุ่นหญิงโพสต์ว่า ถูกจับกุมและถูกนำตัวไปที่ สน.ดุสิต หลังจากนั้นเพื่อนไม่สามารถติดต่อได้ อย่างไรก็ตาม ศูนย์ทนายฯ ยังตรวจสอบไม่พบว่า บุคคลดังกล่าวถูกควบคุมตัวและถูกดำเนินคดีอยู่ที่ใด 

ทั้งนี้ จากปฏิบัติการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณแยกดินแดง ซึ่งมีการตั้งตู้คอนเทนเนอร์พร้อมกำลังชุดควบคุมฝูงชนปิดกั้นเส้นทางไปหน้ากรมทหารราบที่ 1 โดยมีทั้งการใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดน้ำจากบนทางด่วน แก๊สน้ำตา กระสุนยาง รวมทั้งมีสื่อได้ยินเสียงคาดว่าเป็นแอลแลด (LRAD) ในช่วงเย็นด้วย มีรายงานข่าวว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนยางอย่างน้อย 5 ราย และยังไม่ยืนยันสาเหตุอีก 1 ราย กรณีถูกกระสุนยางเป็นวัยรุ่นชาย 3 ราย นักข่าว 1 ราย และเป็นประชาชนบนแฟลตดินแดง 1 ราย ถูกยิงเข้าที่โหนกแก้มขณะใช้โทรศัพท์ถ่ายวิดีโอ และตะโกนบอกตำรวจว่า “อย่ายิงแก๊ส รู้ไหมว่าเขามีเด็ก” ซึ่งเป็นสิ่งยืนยันได้ว่า ชุดควบคุมฝูงชนใช้มาตรการสลายการชุมนุมโดยไม่เลือกเป้าหมาย และไม่เป็นไปตามหลักสากล 

อ่านประมวลเหตุการณ์ชุมนุมและสลายการชุมนุม>> Car Mob x Car Park แสดงพลังขับไล่ประยุทธ์ทั่ว กทม.-ดินแดงระอุก่อนกิจกรรมยุติ และ คฝ. ลุยดินแดง

.

จับ 2 ราย ที่แยกโบสถ์แม่พระ หลังเยาวชนชายถูกยิงด้วยกระสุนยางหลายนัด ก่อนตำรวจแจ้งข้อหา “ออกจากบ้านในช่วงเคอร์ฟิว”

เวลาประมาณ 22.00 น. ศูนย์ทนายฯ ได้รับแจ้งว่ามีผู้ถูกจับกุมอย่างน้อย 2 คน ถูกนำตัวไปที่ บช.ปส. ภายในสโมสรตำรวจ ต่อมา เมื่อทนายความเดินทางไปถึง บช.ปส. ในเวลา 23.20 น. พบ อิฐ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี และนิด (นามสมมติ) อายุ 41 ปี อยู่ในความควบคุมของตำรวจ โดยพบว่า อิฐถูกมัดมือทั้งสองไพล่หลังด้วยเคเบิลไทร์ ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะและตามร่างกายรวมหลายแห่ง จากการสอบถามเบื้องต้นอิฐระบุว่า ถูก คฝ.ที่อยู่บนรถกระบะยิงด้วยกระสุนยางหลายนัด ขณะที่กำลังหาทางกลับบ้านซึ่งอยู่ในซอยแถวนั้น หลังออกมาดูการชุมนุมไม่ไกลจากบ้าน ก่อนนิดขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมาและรับขึ้นรถ และถูกจับกุมทั้งคู่ 

เจ้าหน้าที่ตํารวจได้แยกทำบันทึกจับกุม เนื่องจากอิฐเป็นเยาวชน ต้องแยกดำเนินคดี แต่มีเนื้อหาในบันทึกการจับกุมเหมือนกันว่า พ.ต.ต.ชัยยุทธ ใบมงคล ผบ.ร้อย 2 กก.1.คฝ., ส.ต.ต.กริชชัย หลักหาญ ผบ.หมู่ ร้อย 1 กก.1 คฝ. และ ส.ต.ต.สุริวิชย์ แก้วคํา ผบ.หมู่ ร้อย 2 กก.1. คฝ. ได้ร่วมกันจับกุมอิฐและนิด โดยมีพฤติการณ์คือ 

เวลาประมาณ 21.40 น. ขณะที่เจ้าพนักงานตํารวจชุดจับกุมได้กระชับพื้นที่การชุมนุม หลังจากที่ได้มีการสลายการชุมนุมที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ได้พบนิดขับรถจักรยานยนต์โดยมีอิฐเป็นผู้ซ้อน ผ่านมาบริเวณแยกโบสถ์แม่พระ แขวงดินแดง ซึ่งเป็นการออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 21.00 – 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยไม่ได้รับการยกเว้นหรือมีเหตุจําเป็นอื่นๆ ฝ่าฝืนข้อกําหนดออกตามความในมาตรา 9 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ (ฉบับที่ 30) ลงวันที่ 1 ส.ค. 2564 ข้อ 2 เจ้าพนักงานตํารวจจึงเข้าจับกุมตัว 

ขณะทำการจับกุมตัว ชุดจับกุมได้ตรวจยึดโทรศัพท์ของนิดไปด้วย

เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า การกระทําของทั้งสองเป็นความผิดข้อหา “ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ (ออกนอกเคหสถานในระหว่างเวลา 21.00 – 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยไม่ได้รับการยกเว้นหรือมีเหตุจําเป็นอื่นๆฯ)”

ระหว่างทำบันทึกจับกุม ทนายความได้แจ้งตำรวจให้นำอิฐไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษา ตำรวจจึงนำตัวอิฐส่งโรงพยาบาลตำรวจ โดยมีพ่อ แม่ และทนายความเดินทางไปด้วย หลังแพทย์ทำการปฐมพยาบาล ทำแผลที่มีเลือดออก พ่อแม่ได้รับอิฐกลับบ้าน โดยพนักงานสอบสวนนัดให้ไปพบที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางเพื่อตรวจสอบการจับช่วงบ่ายวันนี้ (6 ส.ค. 2564) 

ภาพบาดแผลจากกระสุนยางที่ คฝ. ยิงใส่อิฐ ก่อนเข้าจับกุม

ที่ศาลเยาวชนฯ พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ได้ขอให้ศาลออกหมายควบคุมตัว และคัดค้านการประกันตัวด้วย ระบุว่า ผู้ต้องหากับพวกมีพฤติการณ์ชุมนุมหลายครั้ง ไม่ยำเกรงต่อกฎหมาย ประกอบกับก่อเหตุวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สินของทางราชการ และทำร้ายเจ้าพนักงาน ทั้งนี้ ที่ปรึกษากฎหมายของอิฐได้แถลงถึงอาการบาดเจ็บที่อิฐได้รับขณะเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม ซึ่งน่าจะเป็นการจับกุมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม ศาลมีคำสั่งว่าการจับกุมเป็นไปโดยชอบ และให้ออกหมายควบคุมตัว ก่อนให้ประกันโดยไม่ต้องวางหลักประกัน นัดให้ไปรายงานตัวกับพนักงานคุมประพฤติที่สถานพินิจฯ บางนา ในวันที่ 23 ส.ค. 2564 และพบเจ้าหน้าที่ศูนย์ให้คำปรึกษาในวันที่ 14 ก.ย. 2564 

ส่วนนิด ซึ่งมีอาชีพเป็นแม่บ้าน  ได้ให้การรับสารภาพทั้งในชั้นจับกุมและสอบสวน พนักงานสอบสวนได้ส่งตัวให้อัยการตั้งแต่เช้าวันนี้ และอัยการได้ยื่นฟ้องด้วยวาจาต่อศาลแขวงพระนครเหนือ ศาลพิพากษาลงโทษปรับ 2,000 บาท หลังใช้เงินส่วนตัวเสียค่าปรับแล้ว นิดจึงได้รับการปล่อยตัว

.

จับอีกเยาวชน 2 ราย ขณะขี่มอเตอร์ไซค์หลังเลิกงานไปหารุ่นพี่ที่แฟลตดินแดง อ้างร่วมจัดชุมนุม/ร่วมชุมนุม-ฝ่าเคอร์ฟิว แถมพกมีดโดยไม่มีเหตุอันควร

หลังเที่ยงคืน คฝ.สน.ทองหล่อ ได้ควบคุมตัวผู้ถูกจับกุมบริเวณปากซอยบุญอยู่ ถ.ดินแดง มาที่ บช.ปส. อีก 2 ราย เป็นเยาวชนชาย-หญิงอายุ 17 และ 18 ปี ซึ่งถูกจับขณะขับขี่มอเตอร์ไซค์ในเวลาประมาณ 21.10 น. 

ขณะควบคุมตัวมาถึง บช.ปส. ชุดจับกุมได้ทำบันทึกจับกุมมาแล้ว แยกเป็นคนละชุด โดยไม่มีทนายความเข้าร่วมกระบวนการ มีเนื้อหาเหมือนกันว่า ทำบันทึกจับกุมที่หน้าปากซอยบุญอยู่ มีกองร้อยควบคุมฝูงชน สน.ทองหล่อ 4 นาย ได้แก่ ส.ต.อ.ธีรศักดิ์ ดีสถาน, ส.ต.อ.อิสระ บุญทิพย์, ส.ต.อ.ชัยวัฒน์ สวัสดี และ ส.ต.อ.สืบพล ใยสุ่น ร่วมกันจับกุม อ้น (นามสมมติ) อายุ 17 ปี และชมพู (นามสมมติ) อายุ 18 ปี  

บันทึกจับกุมได้บรรยายพฤติการณ์ในการจับกุมว่า วันนี้ 15 ส.ค. 2564 ได้มีการนัดหมายชุมนุม โดยใช้ชื่อ : Car Park เริ่มขบวนที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ต่อมากลุ่มผู้ชุมนุมได้พยายามเคลื่อนขบวนไปยังบ้านพัก พล.อ.ประยุทธ์ ณ กรมทหารราบที่ 1 โดยใช้เส้นทางผ่านบริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง และมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตํารวจควบคุมฝูงชนที่ตรึงกําลังอยู่บริเวณถนนวิภาวดี เจ้าหน้าที่จึงได้ประกาศให้ยุติการชุมนุมและแยกย้ายกันกลับ แต่กลุ่มผู้ชุมนุมก็ยังไม่ยุติการชุมนุมและยังคงขว้างปาสิ่งของ ใช้หนังสติ๊กยิงลูกเหล็ก และปาระเบิดปิงปองใส่เจ้าหน้าที่ตํารวจควบคุมฝูงชนอย่างต่อเนื่อง 

ต่อมา เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนจึงได้รับคําสั่งให้เข้าทําการจับกุมผู้ชุมนุม และพบอ้นขับขี่รถจักรยานยนต์ โดยมีชมพูซ้อนท้าย อยู่ในพื้นที่ที่มีการชุมนุม (ปากซอยบุญอยู่) เมื่อเวลาประมาณ 21.10 น. และเมื่อพบเจ้าหน้าที่ตํารวจได้พยายามจะขับรถหลบหนี ชุดจับกุมจึงได้เรียกให้หยุด และทําการสอบถาม ทั้งสองให้การยอมรับว่าได้เข้ามาอยู่ในที่ชุมนุมจริง เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นตัวผู้ต้องหา พบอาวุธมีด จํานวน 1 เล่ม ความยาวประมาณ 30 เซนติเมตร ในกระเป๋ากางเกงขาสั้นด้านซ้าย ที่อ้นสวมใส่อยู่ จึงได้ทําการจับกุมส่งพนักงานสอบสวน 

ก่อนแจ้งข้อหาชมพูรวม 2 ข้อหา ได้แก่ ร่วมกันจัดกิจกรรมรวมกลุ่ม และร่วมกันชุมนุมหรือทํากิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค และออกนอกเคหะสถานในเวลาห้าม (21.00 – 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น) อันเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 

และแจ้งข้อหาอ้นรวม 3 ข้อหา ได้แก่ ร่วมกันจัดกิจกรรมรวมกลุ่ม และร่วมกันชุมนุมหรือทํากิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค และออกนอกเคหะสถานในเวลาห้าม (21.00 – 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น) และพาอาวุธ (มีด) ติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันควร อันเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371

ชั้นสอบสวน ชมพูให้การปฏิเสธ และจะให้การเป็นหนังสือภายใน 20 วัน โดยในวันนี้ พนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องขอฝากขังชมพูต่อศาลแขวงดุสิต ผ่านวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ ศาลอนุญาตให้ฝากขัง ทนายความจึงได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาในระหว่างสอบสวนโดยไม่มีหลักประกัน ต่อมา ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว แต่ให้วางหลักประกันเป็นเงินสด 20,000 บาท และนัดให้ชมพูมารายงานตัวในวันที่ 15 ก.ย. 2564 ทนายความได้ใช้เงินจากกองทุนราษฎรประสงค์วางประกันต่อศาล ทำให้ชมพูได้รับการปล่อยตัวในเวลาประมาณ 13.30 น.

ในส่วนของอ้น ซึ่งเป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี พนักงานสอบสวนจะนัดหมายสอบปากคำในภายหลัง แต่ควบคุมตัวอยู่ที่ บช.ปส.ตลอดทั้งคืน และนำตัวไปตรวจสอบการจับที่ศาลเยาวชนฯ ในบ่ายวันนี้ พร้อมทั้งขอให้ศาลออกหมายควบคุมตัว และคัดค้านการประกันตัว ด้วยเหตุผลเช่นเดียวกับอิฐ

ต่อมา ศาลมีคำสั่งว่าการจับกุมเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย และให้ออกหมายควบคุมตัว ก่อนให้ประกันโดยไม่ต้องวางหลักประกัน โดยนัดให้ไปรายงานตัวกับพนักงานคุมประพฤติ และพบเจ้าหน้าที่ศูนย์ให้คำปรึกษาในวันเดียวกับอิฐ ก่อนทั้งสองได้รับการปล่อยตัวในช่วงเย็น

ทั้งนี้ อ้นและชมพูให้ข้อมูลกับทนายความว่า ไม่เคยไปชุมนุม เพราะทำงานถึงค่ำทุกวัน และเมื่อคืนอ้นเพิ่งเลิกงานที่ร้านอาหารแล้วไปรับชมพูซึ่งเพิ่งเสร็จจากช่วยงานขายของที่บ้าน เพื่อจะไปที่พักของรุ่นพี่ที่แฟลตดินแดง เมื่อไปถึงแถวดินแดง ได้ถามคนที่ยืนอยู่แถวนั้นว่า ทางข้างหน้าไปได้มั้ย มีคนบอกว่าไปได้ เขาเคลียร์หมดแล้ว ทั้งสองจึงขับเข้าไปในซอยเพื่อจะไปที่แฟลต และถูกตำรวจเข้าจับกุม

 .

แจ้งข้อหา พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ – พ.ร.บ.ความสะอาด “ไบรท์” ชินวัตร หลังเคลื่อน #คาร์ปาร์คนนทบุรี 

หลังยุติ #ม็อบ15สิงหา #คาร์ปาร์คนนทบุรี เวลาประมาณ 19.00 น. ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้ติดต่อทางโทรศัพท์ถึง “ไบรท์” ชินวัตร จันทร์กระจ่าง แกนนำเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี บอกให้เขาเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ กรณีการจัดกิจกรรมในช่วงบ่ายที่ผ่านมา ซึ่งมีเคลื่อนขบวนปราศรัยไปตามถนน และหยุดปราศรับ พร้อมทั้งทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์โดยการปาสีแดงซึ่งแทนเลือดของประชาชน ใส่ป้ายกระทรวงพาณิชย์ ถนนหน้าตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี และป้ายหน้า ป.ป.ช. ตำรวจระบุว่า ภายหลังรับทราบข้อกล่าวหาแล้วจะปล่อยตัว ไม่มีการควบคุมตัว

ต่อมา ชินวัตรตัดสินใจเดินทางไปที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ ในเวลาประมาณ 20.00 น. โดยไม่ได้ติดต่อให้ทนายความเข้าร่วมรับทราบข้อกล่าวหา จากนั้น พนักงานสอบสวน ร.ต.ท.หญิงอรุณญา นุ่นขาว รอง สว.(สอบสวน) สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้แจ้งข้อเท็จจริงที่กล่าวหาให้ชินวัตรทราบว่า

ก่อนวันที่ 15 ส.ค. 2564 ชินวัตร  ได้โพสต์ข้อความนัดชุมนุมจัดกิจกรรม Car Mob ในวันที่ 15 ส.ค. 2564 ที่สถานีรถไฟฟ้า MRT สะพานพระนั่งเกล้า ต่อมาวันที่ 15 ส.ค. 2564 เวลา 13.00 น. ชินวัตรได้เดินทางมาถึงบริเวณแยกพระนั่งเกล้า อ.เมือง จังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วยกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 20 คน และรถยนต์กระบะ มีกระดาษปิดทับแผ่นป้ายทะเบียนทั้งด้านหน้าและหลัง ด้านหลังกระบะมีการติดตั้งเครื่องขยายเสียงสําหรับการพูดปราศรัย และมีการเปิดเพลงปลุกใจต่างๆ ทําให้เกิดเสียงดังรบกวนบุคคลอื่น

ภาพไบรท์ ชินวัตร จากเพจเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี

ต่อมา เวลาประมาณ 15.30 น. ชินวัตรได้ขึ้นบนรถยนต์กระบะดังกล่าว และพูดปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียง นําขบวนกลุ่มผู้ชุมนุมออกจากแยกพระนั่งเกล้า มุ่งหน้าไปที่กระทรวงพาณิชย์ เมื่อถึงบริเวณป้ายกระทรวงพาณิชย์ ริมถนนนนทบุรี 1 ได้พูดปราศรัยและอ่านแถลงการณ์ จากนั้นได้หยิบถุงพลาสติกบรรจุสารสีแดงจํานวน 3 ถุง ขว้างไปที่ป้ายกระทรวงฯ ทําให้ป้ายได้รับความเสียหายเปื้อนสีแดง

จากนั้นชินวัตรพร้อมกลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินทางไปถึงบริเวณทางเข้าตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี หลังปราศรัยและอ่านแถลงการณ์ ชินวัตรได้หยิบถุงพลาสติกบรรจุสารสีแดงขว้างไปที่บริเวณถนนทางเข้าและแผงรั้วกั้น ทําให้ถนนภายในซอยนนทบุรี 39 เปรอะเปื้อนได้รับความเสียหาย 

กลุ่มผู้ชุมนุมยังได้เดินทางไปที่สํานักงาน ป.ป.ช. หลังพูดปราศรัย ชินวัตรได้ขว้างถุงพลาสติกบรรจุสารสีแดงไปที่ป้ายชื่อสํานักงาน ป.ป.ช. เป็นเหตุให้ป้ายเปรอะเปื้อนได้รับความเสียหาย

พนักงานสอบสวนแจ้งว่า การกระทําของชินวัตรเป็นความผิดฐาน “ทําให้ปรากฏด้วยประการใดๆ ซึ่งรูปรอยใดๆ ที่กําแพง ถนน หรือส่วนของอาคารที่ติดกับถนนหรืออยู่ในที่สาธารณะ, ร่วมกันทําให้เกิดเสียง หรือกระทําการอื้ออึงโดยไม่มีเหตุอันควร จนทําให้ประชาชนตกใจหรือเดือดร้อน และร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต” อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ มาตรา 12, ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 370 และ พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาฯ มาตรา 4 โดยข้อกล่าวหาทั้งหมดมีเพียงโทษปรับ

ชินวัตรให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และไม่ลงชื่อในบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัวในเวลา 21.20 น. 

อย่างไรก็ดี เช้าวันนี้ พนักงานสอบสวน สภ. รัตนาธิเบศร์ ได้โทรศัพท์แจ้งชินวัตรว่า แจ้งข้อหากล่าวหาไม่ครบถ้วน และให้เขาเข้าไปที่สถานีตำรวจอีกครั้ง เมื่อชินวัตรไปถึง พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาครั้งใหม่ โดยมีข้อหา ร่วมกันชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพิ่มอีก 1 ข้อหา ชินวัตรให้การปฏิเสธ และไม่ลงชื่อในบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาเช่นเดิม ก่อนได้รับการปล่อยตัว 

.

X