อัยการสั่งฟ้อง แอมมี่-ไชยอมร “ม.112-เผาทรัพย์-พ.ร.บ.คอมฯ” คดีวางเพลิงรูป ร.10 หน้าเรือนจำ 

ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 64 ที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 5 ได้มีคำสั่งฟ้องคดีของไชยอมร แก้ววิบูลพันธ์ หรือ “แอมมี่” นักร้องวง The Bottom Blues ในคดีที่ถูกกล่าวหาในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 “หมิ่นประมาทกษัตริย์”, มาตรา 217 “วางเพลิงเผาทรัพย์” และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) จากกรณีวางเพลิงเผาพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 บริเวณด้านหน้าเรือนจำคลองเปรม ในช่วงเช้ามืดวันที่ 28 ก.พ. 64

วันนี้ (27 พ.ค. 64) ไชยอมร พร้อมครอบครัวและทนายความ ได้เดินทางเข้าฟังคำสั่งฟ้องคดีที่ศาลอาญา โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไชยอมรไปที่ห้องเวรชี้หลังทราบคำสั่งฟ้อง และศาลได้อ่านฟ้องให้จำเลยฟัง โดยไชยอมรยืนยันให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา 

ทนายจำเลยได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวระหว่างพิจารณา โดยใช้หลักทรัพย์และสัญญาประกันเดิมซึ่งใช้ประกันตัวเมื่อวันที่ 11 พ.ค. 64 รวม 2 แสนบาท 

ต่อมา ศาลอาญาอนุญาตให้ประกันตัวโดยใช้หลักทรัพย์เดิม พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยกระทำหรือเข้าร่วมกิจกรรมอันอาจทำให้เสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือมีลักษณะเช่นเดียวกันกับที่ถูกฟ้องร้องคดีนี้ ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากศาล และจะมาศาลตามกำหนดนัดโดยเคร่งครัด

ศาลอาญากำหนดวันนัดตรวจพยานหลักฐานในคดีต่อไปวันที่ 28 มิ.ย. 64 เวลา 09.00 น.

 

เปิดคำฟ้อง 3 ข้อหา “ม.112-เผาทรัพย์-พ.ร.บ.คอมฯ”

คำฟ้องในคดีนี้ พนักงานอัยการ กล่าวหาว่า จำเลยกับพวกได้ร่วมกันกระทำความผิด และจำเลยนี้ได้กระทำความผิดหลายบท หลายกรรมต่างกัน ดังนี้

1. เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 64 เวลากลางคืนก่อนเที่ยง จำเลยกับพวกสองคนที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ได้บังอาจร่วมกันวางเพลิง โดยใช้น้ำมันก๊าดราดใส่ และจุดเผาพระบรมรูปฉายาลักษณ์ของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ซึ่งได้ประดิษฐานติดตั้งบริเวณหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม อันเป็นทรัพย์สินของกลางของเรือนจำ จนไฟได้ลุกลามไหม้พระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมโครงสร้างไม้และเหล็ก และอุปกรณ์ที่ประดับจนได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 6 รายการและค่าติดตั้ง 1 รายการ รวมเป็นความเสียหายทั้งสิ้นเป็นเงิน 60,000 บาท

2. พระบรมฉายาลักษณ์ที่ประดิษฐานอยู่นั้น เรือนจํากลางคลองเปรม อันเป็นหน่วยงานราชการได้จัดทําขึ้นไว้เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดี เป็นการเฉลิมพระเกียรติ เชิดชูเกียรติ เทิดทูนพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุขแห่งรัฐและทรงเป็นที่เคารพสักการะของปวงชนชาวไทย

การกระทําของจําเลยกับพวก เป็นการกระทําอันไม่สมควร ล่วงละเมิด เป็นการแสดงออกมาด้วยประการใดว่าจะทําให้เสียหายในทางใดๆ ไม่ว่าจะเป็นภยันตรายแก่ร่างกาย ทรัพย์สิน สิทธิ เสรีภาพหรือชื่อเสียงเกียรติคุณ อันมิใช่การใช้สิทธิ์ตามปกตินิยม นับเป็นการเป็นการแสดงอาฆาตมาดร้าย ดูหมิ่น พระมหากษัตริย์ ทําให้พระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 10 ทรงเสื่อมเสียพระเกียรติ ถูกดูหมิ่น หมิ่นพระเกียรติ ถูกลบหลู่ และมีเจตนาทําลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของปวงชนชาวไทย ไม่เคารพต่อพระมหากษัตริย์ซึ่งอยู่ในฐานะที่ผู้ใดจะละเมิดมิได้

3. เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 64 เวลากลางวัน ภายหลังจากที่จําเลยกับพวก ได้กระทําความผิดตามฟ้องข้อ 1 แล้ว จําเลยได้นําเข้าและเผยแพร่สู่ระบบคอมพิวเตอร์เป็นภาพที่ไฟกําลังลุกไหม้พระบรมฉายาลักษณ์ที่ประดิษฐานติดตั้งอยู่บริเวณหน้าเรือนจํากลางคลองเปรม และมีการพิมพ์ข้อความว่า “สื่อคงไม่กล้าออก มิตรสหายท่านหนึ่งแจ้งว่าเมื่อคืนเกิดเหตุไฟไหม้พระบรมฯ ที่หน้าเรือนจําคลองเปรม คนละ 1 แชร์แด่อิสรภาพ #ปล่อยเพื่อนเรา”จําเลยนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เพื่อเผยแพร่ในบัญชีเฟซบุ๊ก ที่ใช้ชื่อว่า “The BOTTOM BLUES” ของจําเลย ซึ่งเป็นการสื่อสารทางอินเทอร์เน็ตที่เปิดเป็นสาธารณะ ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ การกระทำดังกล่าวทําให้เกิดการมัวหมองในระบอบการปกครองของรัฐ ซึ่งเป็นระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงเป็นการนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร

ต่อมาเมื่อวันที่ 3 มี.ค. 64 จับจําเลยได้นําส่งพนักงานสอบสวน ทําการสอบสวนแล้ว ในวันเวลาหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตรวจยึดไฟแช็คสีม่วง จํานวน 1 อัน และแกลลอนโลหะ (มีของเหลวภายใน) 1 แกลลอน ได้ในบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นทรัพย์ที่จําเลยกับพวก ร่วมกันใช้ในการกระทําผิดตามฟ้อง

อัยการระบุฐานความผิดที่ฟ้อง 3 ข้อหา ดังนี้

  1. หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
  2. ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 217
  3. นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3)

ทั้งนี้ ท้ายคำฟ้องอัยการได้ขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมาย และขอให้ศาลได้สั่งริบของกลาง

 

ด้านศาลอาญาได้รับฟ้องคดีนี้ไว้ เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.1199/2564 และกำหนดวันนัดตรวจพยานหลักฐานวันที่ 28 มิ.ย. 64 เวลา 09.00 น.

อนึ่ง ไชยอมร เพิ่งได้รับการประกันตัวในคดีในระหว่างชั้นสอบสวนเมื่อวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา หลังทนายยื่นประกันในคดี “วางเพลิงเผาทรัพย์” รวม 8 ครั้ง และในคดี “19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร” รวม 5 ครั้ง รวมระยะเวลาถูกคุมขัง 70 วัน

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

>>> แจ้งข้อหา “ม.112-217” เยาวชนอายุ 18 ปี คดีวางเพลิงเผาทรัพย์รูป ร.10 หน้าเรือนจำ

>>> จับกุม “แอมมี่” แจ้ง ม.112-เผาทรัพย์-พ.ร.บ.คอมฯ ก่อนไม่ให้ประกันตัว กรณีเผารูป ร.10

 

X