แจ้งเพิ่ม! “ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์” 5 ประชาชน กล่าวหาทุบรถ-ป้อมตำรวจ ในเหตุการณ์สลายชุมนุม #ม็อบ20มีนา

23 เม.ย. 64 ที่ สน.นางเลิ้ง ประชาชน จำนวน 5 ราย เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมตามนัดหมายของพนักงานสอบสวนในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358 “ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์” โดยกล่าวหาจากเรื่องการทุบรถตำรวจ และป้อมตำรวจ ระหว่างการชุมนุม #ม็อบ20มีนา ที่สนามหลวง เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 64

ผู้ต้องหาที่เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมครั้งนี้ ได้แก่ สมบัติ วรครุธ ผู้ต้องหาที่ 1, ปกรณ์ สืบศรี ผู้ต้องหาที่ 2 , จิตรกร บุญฤทธิ์ ผู้ต้องหาที่ 3 , สิทธิพร อิ่มสมบูรณ์ ผู้ต้องหาที่ 4, หัสชัย สุวรรณราช ผู้ต้องหาที่ 5 

ประชาชาทั้ง 5 ราย ถูกจับกุมช่วงกลางดึก บริเวณสะพานวันชาติ หลังเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชนเข้าสลายการชุมนุม #ม็อบ20มีนา โดยรอบพื้นที่ตั้งแต่พื้นที่การชุมนุมบริเวณสนามหลวง ไปจนถึงสะพานวันชาติ ทั้งหมดถูกควบคุมตัวไปแจ้งข้อกล่าวหาที่กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 (บก.ตชด. ภาค 1)  

คลิปเหตุการณ์เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมและใช้กระสุนยางบริเวณสะพานวันชาติ
Cr.Baipat Nopnom

ที่บก.ตชด. 1 ทั้ง 5 ถูกแจ้ง 6 ข้อหา ได้แก่  ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ, มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนใช้กำลังประทุษร้าย ให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215, เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 216, ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน  และทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และไม่ยินยอมลงลายมือชื่อในบันทึกจับกุม

ทั้งนี้ มีผู้ถูกจับกุมที่สะพานวันชาติทั้งหมด 8 ราย ในจำนวนนี้มีเยาวชนอีก 2 ราย และคนไร้บ้านอีก 1 ราย ทั้งหมดได้รับการประสานงานให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา  “ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์” เพิ่มเติม โดยเยาวชน 1 ราย ได้เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหา ที่สน.นางเลิ้งแล้ว ส่วนคนไร้บ้านอีก 1 รายได้เดินทางเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในวันที่ 4 พ.ค. 64 และได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาและจะให้การเป็นหนังสือเพิ่มเติมภายใน 30 วัน เช่นกัน

แจ้งเพิ่ม “ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์” ประชาชน 5 ราย  เหตุทุบรถตำรวจ-ป้อมตำรวจ ด้านปชช.บางส่วนเผยได้รับบาดเจ็บจากการจับกุม

พ.ต.ท. อธิชย์ ดอนนันชัย รองผู้กำกับ (สอบสวน) สน.นางเลิ้ง เป็นผู้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมแก่ผู้ต้องหาทั้ง 5 ในข้อหา “ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 358 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ในบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมได้บรรยายพฤติการณ์คดีว่า ผู้ต้องหากับพวก ได้ร่วมกันทุบทำลายทรัพย์สิน ได้แก่ รถตู้และรถกระบะของ สน.พหลโยธิน รวมถึงป้อมตำรวจจราจร บริเวณแยกวิสุทธิกษัตริย์ และบริเวณแยกประชาเกษม 

เบื้องต้น ทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาที่แจ้งเพิ่มเติม และจะให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือภายใน 30 วัน แต่พนักงานสอบสวนแจ้งว่า ต้องการให้ส่งหนังสือให้การเพิ่มเติมภายใน 7 วัน แต่ทนายยืนยันจะส่งคำให้การเป็นหนังสือเพิ่มเติมภายใน 30 วัน 

ทั้งนี้ ผู้ถูกจับกุมเผยกับศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนว่า ได้รับบาดเจ็บจากการเข้าจับกุมของเจ้าหน้าที่ในคืนวันที่ 20 มี.ค. 64 โดยมีรายหนึ่งมีรอยช้ำและบาดแผลหลายแห่งจากการถูกตีด้วยกระบองบริเวณหลังซีกขวา ส่วนเยาวชนรายหนึ่งยังมีบาดแผลที่หางคิ้วข้างขวาอีกด้วย

 

ย้อนดูเหตุการณ์การสลายการชุมนุม #ม็อบ20มีนา

20 มี.ค. 64 กลุ่ม REDEM และแนวร่วมกลุ่มอื่นๆ ได้นัดหมายชุมนุม ตั้งแต่ 18.00 น. ที่สนามหลวง ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์โดยส่งสาส์นเรียกร้องให้มีการจำกัดอำนาจกษัตริย์และลงมาอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ 

ก่อนถึงเวลานัดหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำแผงเหล็กและตู้คอนเทนเนอร์มากั้นประชาชน บริเวณถนนราชดำเนินฝั่งศาลฎีกา เวลาต่อมามีกลุ่มมวลชนพยายามขยับตู้คอนเทนเนอร์ ด้านเจ้าหน้าที่ประกาศใช้มาตรการสลายการชุมนุมทางกฎหมาย ทั้งฉีดน้ำและน้ำผสมแก๊สน้ำตา และใช้กระสุนยาง รวมถึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนเข้าสลายและจับกุมผู้ชุมนุมในค่ำคืนดังกล่าว

จากเหตุการณ์ตำรวจสลายการชุมนุมของ REDEM ครั้งนี้ มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 19 (รวมผู้สื่อข่าวจำนวน 2 ราย ถูกกระสุนยางยิงขณะรายงานข่าว) และมีผู้ถูกจับกุมทั้งหมด 32 ราย (เป็นเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี จำนวน 7 คน) ซึ่งคดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีแยกเป็น 6 คดีตามพื้นที่ที่มีการจับกุม ได้แก่ ที่แยกสะพานผ่านฟ้า, แยกคอกวัว, สะพานวันชาติ, สะพานผ่านฟ้าลีลาส

>> ประมวลสถานการณ์สลายชุมนุม #ม็อบ20มีนา กลุ่ม REDEM และแนวร่วมเผชิญทั้งแก๊สน้ำตาและกระสุนยาง ก่อนถูกจับ 32 ราย

>> ศาลอาญาให้ประกันตัว 16 ผู้ถูกจับกุมจาก #ม็อบ20มีนา หลังถูกแจ้ง 6 ข้อกล่าวหา

 

X