ตร.แจ้งข้อหาเพิ่ม “ลูกเกด-เอกศิษฏ์” คดี #15ตุลาไปแยกราชประสงค์ หลังอัยการตีกลับสำนวน

17 ก.พ. 64 ที่ สน.ลุมพินี “ลูกเกด” ชลธิชา แจ้งเร็ว นักกิจกรรม และเอกศิษฏ์ บัวทองเอี่ยม นักศึกษาและนักกิจกรรมกลุ่มภาคีนักศึกษาศาลายา มหาวิทยาลัยมหิดล เดินทางเข้ารับทราบข้อหาเพิ่มเติม จากกรณีชุมนุม #ม็อบ15ตุลา หรือ #15ตุลาไปราชประสงค์ ที่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 63 

เดิมทั้งสองถูกแจ้งข้อหาฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความมาตรา 9 ประกอบมาตรา 11 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.​2548 โดยเอกศิษฏ์เข้ารับทราบข้อหาวันที่ 23 พ.ย. 63 และชลธิชารับทราบข้อหาวันที่ 8 ธ.ค. 63

     >> แจ้งข้อหาพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ นศ.มหิดลเพิ่มอีกหนึ่ง เหตุชุมนุม #15ตุลาไปราชประสงค์

ต่อมา พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินีมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งสองคน จึงส่งสำนวนการสอบสวนพร้อมตัวผู้ต้องหาไปยังอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 6 (ปทุมวัน) เพื่อดำเนินการต่อไป อย่างไรก็ตาม พนักงานอัยการได้ขอให้พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินีสอบสวนเพิ่มเติม พร้อมแจ้งข้อหาเพิ่มเติมจาก ฝ่าฝืนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร เป็น “ร่วมกันกระทำการ” ฝ่าฝืนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ลงวันที่ 15 ต.ค. 63 ข้อกำหนดออกตามมาตรา 9 และ 11 แห่งพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ข้อที่ 1 “ห้ามชุมนุมมั่วสุม ณ​ ที่ใดๆ ตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป หรือกระทำการใดอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย”  

ชลธิชาและเอกศิษฏ์ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และจะยื่นคำให้การเป็นหนังสือภายใน 20 วัน นับตั้งแต่วันรับทราบข้อหา 

คดีนี้มีผู้ถูกดำเนินคดีทั้งหมด 17 ราย แบ่งเป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในที่ชุมนุม 1 ราย ออกหมายจับ 12 ราย และออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อหาภายหลังอีก 4 ราย โดยอัยการได้ส่งคืนสำนวนให้พนักงานสอบสวนสอบและแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม 5 ราย ได้แก่ ปัญญา (สงวนนามสกุล), กวินทร์ พิชญภิรมย์, ชลธิชา, เอกศิษฏ์ และสุวรรณา ตาลเหล็ก ว่า เป็นผู้ร่วมกับผู้ถูกออกหมายจับ 12 ราย ฝ่าฝืนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ทั้งนี้ 4 ราย เข้ารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมตามหมายเรียกแล้ว ยังเหลือสุวรรรณา ตาลเหล็ก นักกิจกรรมกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย ซึ่งจะเข้ารับทราบข้อหาเพิ่มเติมในวันพรุ่งนี้ (18 ก.พ. 64) 

นอกจากนี้ ยังมีผู้รับจ้างขับรถเครื่องเสียงและทีมงานถูกดำเนินคดีในข้อหาเดียวกันนี้อีก 6 ราย จากการนำรถเครื่องเสียงไปในที่ชุมนุมเมื่อวันที่ 15 ต.ค. 63 หลังการสลายการชุมนุมและจับกุมแกนนำหลายคนในช่วงเช้ามืด ทั้งสองกลุ่มนี้มีนัดฟังคำสั่งอัยการว่าจะฟ้องคดีหรือไม่ในวันที่ 4 มี.ค. 64

รวมทั้งมีเยาวชน 3 รายถูกดำเนินคดีจากการชุมนุมเดียวกันนี้ด้วย ซึ่งพนักงานอัยการได้สั่งฟ้องคดีต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 64 ท่ามกลางความกังวลจากสํานักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ต่อการสั่งฟ้องคดีเยาวชน 

     >> สั่งฟ้องคดี 3 แกนนำนร. เยาวชนชี้อัยการไม่ได้พิจารณาประเด็นขอความเป็นธรรมที่ร้องไป

 

X