ความในใจ “ผู้ต้องหา-ผู้มาให้กำลังใจ” ก่อนอัยการตัดสินใจเลื่อนฟังคำสั่งฟ้องคดีม.112-116 ชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร

เช้านี้ (17 ก.พ. 64)  ความกังวลท่ามกลางหมู่เพื่อนนักศึกษา อาจารย์ และผู้มาให้กำลังใจแผ่ทั่วชั้นล่างของสำนักอัยการสูงสุด หลังมีข่าวตั้งแต่วานนี้ว่าพนักงานอัยการจะสั่งฟ้องคดีชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร ในข้อหาหลัก “หมิ่นประมาทกษัตริย์” มาตรา 112, “ยุยงปลุกปั่น” มาตรา 116 และ “มั่วสุมชุมนุมมากกว่า 10 คน” มาตรา 215 ตามประมวลกฎหมายอาญา

เพราะนี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่จะเห็นนักศึกษาและนักกิจกรรมผู้เคลื่อนไหวทางการเมืองทั้ง 18 คนมีอิสรภาพ  หากไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว และถูกคุมขังระหว่างพิจารณาคดี เช่นเดียวกับ อานนท์ นำภา, พริษฐ์ ชิวารักษ์, สมยศ พฤกษาเกษมสุข, และปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม ที่ถูกสั่งฟ้องในคดีเดียวกันเมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อน

แม้ต่อมา อัยการยังไม่มีคำสั่งฟ้องในวันนี้ และเลื่อนนัดฟังคำสั่งออกไปเป็นวันที่ 8 มี.ค. 64 แต่ความรู้สึกไม่แน่นอน เมื่อชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้ายระหว่างเรือนจำและอิสรภาพยังคงอยู่ เมื่อการเลื่อนฟังคำสั่งออกไปในเดือนหน้า ไม่สามารถรับประกันว่าอัยการจะไม่สั่งฟ้องคดี และจะไม่ถูกคุมขังในอนาคต

ชวนสนทนาถึงความในใจของผู้ต้องหาและผู้มาให้กำลังใจ ในวินาทีที่ความไม่แน่นอนของชีวิตแขวนอยู่บนเหรียญ 2 ด้านที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง: กรงขัง หรือ อิสรภาพ

“ขอให้ทุกคนเข้มแข็ง” ความในใจนศ.มธ.ผู้มาให้กำลังใจเพื่อนที่อาจถูกฟ้องคดี 

เบนจา อะปัน นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสมาชิกกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม มาร่วมให้กำลังใจเพื่อนนักศึกษาที่อาจถูกสั่งฟ้องคดีในวันนี้ ก่อนที่บ่ายนี้จะต้องไปรายงานตัวกับพนักงานอัยการที่สำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ ในคดีมาตรา 112 และมาตรา 116 จากการชุมนุม #ม็อบ26ตุลา ที่หน้าสถานทูตเยอรมนี

“วันนี้เพื่อนมธ.มากันหลายคน ส่วนมากมาจากแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม สำหรับวันนี้เราจับตาว่าจะมีการสั่งฟ้องคดีและฝากขังเพื่อนเราหรือไม่ 

“ถ้ามีการสั่งฟ้องและฝากขังจริง เราว่ามันไม่ยุติธรรม เพราะเป็นการฝากขังระหว่างรอพิจารณาคดี ซึ่งจะยาวนานแค่ไหนก็ไม่รู้”

ท่ามกลางกระแสการคุมขังแกนนำ เบนจาให้ความเห็นว่า “ช่วงนี้รัฐกำลังรีบจับกุมแกนนำ เพราะกระแสม็อบเริ่มแผ่ว เขาคงประเมินแล้วว่า ถ้าจับใครไปก็ยังคงไม่มีม็อบในเร็วๆ นี้ จึงวางเกมไว้แนวนี้

“เราอยากให้ทุกคนเข้มแข็ง แล้วสู้กันต่อ อยากให้ทุกคนออกมา ไม่ใช่เพื่อปล่อยเพื่อนเราอย่างเดียว แต่เพื่อให้สิ่งที่เราทำมาปีที่แล้วสามารถไปต่อได้ เพราะถ้าเราแผ่วเมื่อไหร่ โอกาสกลับไปอยู่จุดเดิมมันยาก”

“ต่อให้มีหรือไม่มีแกนนำ ขบวนการของประชาชนต้องไปต่อ”

“เตรียมใจเรียบร้อยแล้ว” จัสติน​ ผู้ต้องหาคดี 116 จากชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร 

ชูเกียรติ แสงวงศ์ หรือที่มักรู้จักกันในชื่อ “จัสติน” เป็นหนึ่งใน 18 ผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 116 และมาตรา 215 ที่ต้องมารายงานตัวเพื่อฟังคำสั่งฟ้องวันนี้ 

“ผมไม่ได้รู้สีกถูกกดดันอะไรมากมาย ผมคิดว่าการถูกดำเนินคดีครั้งนี้เป็นสิ่งที่ไม่ยุติธรรมสำหรับเรา 

“ก่อนหน้านี้ก็เตรียมใจเรียบร้อยแล้วว่าอาจถูกสั่งฟ้องและถูกขังในวันนี้ แต่สุดท้ายวันนี้อัยการมีคำสั่งเลื่อนนัดไปเป็นวันที่ 8 มีนาคม 

“นอกจากคดีนี้แล้ว ผมยังถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ในคดีอื่น ในระยาว ผมยังคงสู้ต่อไป แต่ก็ต้องเซฟตัวเองจากคดี ไม่อยากให้คดีสะสมเยอะ เพราะจะทำให้ต่อสู้ระยะยาวได้ยาก” 

คำพูดของชูเกียรติสะท้อนถึงมาตรการของรัฐในการดำเนินคดีทางการเมือง เพื่อให้เกิดภาระทางคดีกับนักเคลื่อนไหว รวมไปถึงประชาชนที่ใช้สิทธิเสรีภาพในการวิพากษ์วิจารณ์​รัฐบาล ตั้งแต่การชุมนุมเยาวชนปลดแอก เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 63 จนถึงวันที่ 16 ก.พ. 64 มีการดำเนินคดีประชาชนไปแล้วอย่างน้อย 358 รายใน 198 คดี สำหรับตัวชูเกียรติเอง เขาถูกกล่าวหาดำเนินคดีทางการเมืองไปแล้ว 11 คดี

X