อัยการยังไม่รับสำนวนคดี ม.110 “ประทุษร้ายเสรีภาพราชินี” หลังมีผู้ต้องหาเพิ่มอีก 2 ราย

22 ม.ค. 64 เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก สามผู้ถูกดำเนินคดีในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 110 หรือคดี “ประทุษร้ายเสรีภาพพระราชินี” ได้แก่ เอกชัย หงส์กังวาน, บุญเกื้อหนุน เป้าทอง หรือ “ฟรานซิส” และสุรนาถ แป้นประเสริฐ หรือ “ตัน” ได้เดินทางเข้ารายงานตัวตามนัดของพนักงานสอบสวนสน.ดุสิต เพื่อส่งสำนวนคดีให้กับอัยการ

ก่อนหน้านี้ทั้งสามคนได้รับหมายเรียกจาก พ.ต.ท.จตุพร พลภักดี ผู้กำกับสน.ดุสิต ลงวันที่ 18 ม.ค. 64 ให้มาพบ พ.ต.ท.พิชัย มีอัฐมั่น พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เพื่อส่งตัวให้กับอัยการในวันนี้

แต่เมื่อทั้งสามคนเดินทางไปที่สำนักงานอัยการสูงสุด แต่เมื่อพนักงานสอบสวนส่งสำนวนให้อัยการ พนักงานอัยการยังไม่รับสำนวนไว้ เนื่องจากผู้ต้องหาในคดีเดียวกันยังมาไม่ครบ เหตุเพราะในคดีนี้ยังมีผู้ถูกกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 2 ราย โดยมีรายงานว่าทั้งสองได้รับหมายเรียกให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2563 และได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาไปแล้ว แต่ในวันนี้ไม่ได้รับหมายเรียกให้มาพบอัยการ จึงไม่ได้เดินทางมา

พนักงานสอบสวนจึงได้รับสำนวนกลับคืนมา และแจ้งว่าจะนัดหมายมาส่งสำนวนคดีให้กับอัยการใหม่อีกครั้ง โดยจะแจ้งวันเวลาให้ทราบต่อไป

คดีนี้มีนายศรายุทธ สังวาลย์ทอง และ พ.ต.ท.พิทักษ์ ลาดล่าย เป็นผู้กล่าวหา เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 63 ในระหว่างการชุมนุม #ม็อบ14ตุลา ของ “คณะราษฎร” โดยผู้ถูกกล่าวหาอยู่ในเหตุการณ์ที่มีขบวนเสด็จของสมเด็จพระราชินีและสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าทีปังกร โดยรถยนต์พระที่นั่งผ่านถนนพิษณุโลก มุ่งหน้าแยกนางเลิ้ง โดยมีการเสด็จผ่านกลุ่มผู้ชุมนุมแต่ไม่ได้มีหมายกำหนดการล่วงหน้า

แต่ผู้กล่าวหาได้อ้างว่าผู้ถูกกล่าวหาได้พูดปลุกระดมและยุยงให้ผู้ชุมนุมโดยรอบทําการขวางกั้นบริเวณขบวนเสด็จ ปิดกั้นขัดขวางขบวนเสด็จ และมีการตะโกนด่าทอพร้อมทําสัญลักษณ์ชูสามนิ้ว จึงกล่าวหาว่ากระทำความผิดในฐาน “ร่วมกันพยายามกระทําการประทุษร้ายต่อเสรีภาพของพระราชินี” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 110 ต่อมาพนักงานสอบสวนยังมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีกสามข้อหา ได้แก่ ข้อหามั่วสุมกันให้เกิดการวุ่นวายฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215, กีดขวางทางสาธารณะ และกีดขวางการจราจร

ในช่วงกลางเดือนตุลาคม 2563 เอกชัย, บุญเกื้อหนุน และสุรนาถ ได้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุม ทั้งที่กำลังเดินทางไปรายงานตัวหลังทราบข่าวว่ามีการออกหมายจับ และแจ้งข้อกล่าวหาภายในบก.ตชด.ภาค 1 ก่อนบุญเกื้อหนุนจะได้รับการประกันตัว ด้วยหลักทรัพย์มูลค่า 200,000 บาท แต่เอกชัยและสุรนาถไม่ได้รับการประกันตัวในช่วงแรก โดยถูกคุมขังอยู่ 18 วัน และ 13 วันตามลำดับ จนศาลอาญาไม่อนุญาตให้ฝากขังทั้งสองคนต่อเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 63

ต่อมายังมีรายงานว่ามีผู้ถูกดำเนินคดีเพิ่มเติมอีกสองราย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม รวมทำให้รวมมีผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด 5 ราย

สำหรับคดีนี้ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายในส่วนของบุญเกื้อหนุน เป้าทอง นักศึกษาปี 2 สาขาวิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและกิจการทั่วโลก วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล และสุรนาถ แป้นประเสริฐ นักกิจกรรมด้านการพัฒนาชุมชนและเยาวชน

อ่านรายงานข่าวก่อนหน้านี้

“น.ศ.มหิดล” มอบตัวคดี ม.110 หลังร่วมม็อบระหว่างขบวนเสด็จ ด้าน “เอกชัย” ถูกจับ เตรียมขอฝากขังพรุ่งนี้

จับเพิ่มรายที่สาม – นักกิจกรรมเยาวชน ขณะจะเข้ามอบตัวคดี “ประทุษร้ายเสรีภาพราชินี” เหตุร่วม #ม็อบ14ตุลา

สน.ดุสิตแจ้งเพิ่มอีก 3 ข้อหา “ฟรานซิส” ผู้ต้องหา ม.110 เหตุร่วม #ม็อบ14ตุลา

อ่านเรื่องราวของสุรนาถเพิ่มเติม

ขอบคุณและยังมีหวัง แม้ถูกขังเดี่ยวและถูกสอดส่องตลอด 24 ชั่วโมง: เสียงจากตัน สุรนาถ

“อยู่ในนี้มันลดทอนศักยภาพ” เสียงตัน สุรนาถ ผ่านห้องขังเดี่ยว

ชีวิตก่อนต้องคดีประทุษร้ายราชินีของ’ตัน สุรนาถ’ผู้พาเยาวชนออกจากทางตัน

X