“ราษฎร” โดนอีก 4 ข้อหา #ม็อบซ้อมต้านรัฐประหาร ที่ห้าแยกลาดพร้าว

14 ม.ค. 2564 “รุ้ง” ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, “ไมค์” ภาณุพงศ์ จาดนอก, “ครูใหญ่” อรรถพล บัวพัฒน์ และนักกิจกรรมกลุ่ม “ราษฎร” อีก 3 คน เดินทางไปที่ สน.พหลโยธิน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาคดีฝ่าฝืน พ.ร.บ.ชุมนุมฯ, พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต และกีดขวางทางสาธารณะ  จากเหตุชุมนุมที่ห้าแยกลาดพร้าวเมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2563 #27พฤศจิกาไปห้าแยกลาดพร้าว #ม็อบซ้อมต้านรัฐประหาร ทั้งหมดให้การปฏิเสธ 

คดีนี้มีผู้ถูกออกหมายเรียก 9 ราย โดยอานนท์ นำภา, “ไผ่” จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา และไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่  The Bottom Blues ขอเลื่อนเข้ารับทราบข้อกล่าวหาภายหลัง 

พ.ต.ต.ศักดินาถ หนูฉ้ง พนักงานสอบสวน แจ้งพฤติการณ์ที่ถูกกล่าวหาแก่นักกิจกรรมทั้งหกว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2563 ซึ่งมีการชุมนุมที่หน้าอาคารสำนักงานใหญ่ไทยพาณิชย์ รุ้ง ปนัสยา ได้ขึ้นเวทีชุมนุมพร้อมนัดหมายชุมนุมอีกครั้งในวันที่ 27 พ.ย. 2563 ต่อมาทวิตเตอร์บัญชี “ธรรมศาสตร์และการชุมนุม” โพสต์เชิญชวนให้ประชาชน ร่วมชุมนุมบริเวณห้าแยกลาดพร้าว เพื่อซ้อมการต้านรัฐประหาร จนถึงวันเกิดเหตุประชาชนมีการรวมตัวและนำแผงเหล็กปิดถนนบริเวณห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งผู้จัดชุมนุมไม่แจ้งการชุมนุม ทั้งไม่แจ้งผ่อนผันกำหนดเวลาต่อผู้บัญชาการตำรวจนครบาล 2 ก่อนเริ่มการชุมนุม และในวันดังกล่าวเจ้าพนักงานได้ประกาศให้เลิกการชุมนุม แต่ผู้ชุมนุมยังคงทำกิจกรรมต่อไป มีการนำรถขยายเสียง และตั้งเวทีปราศรัย โดยไม่ได้รับอนุญาต

พนักงานสอบสวนยังระบุว่า ผู้ต้องหาได้ขึ้นปราศรัยบนเวที จึงเชื่อได้ว่าผู้ต้องหาได้ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะโดยได้มีการตกลงคบคิด แบ่งหน้าที่กันทำ และเชิญชวนให้ประชาชนเข้าร่วม ซึ่งการชุมนุมดังกล่าวมีประชาชนเข้าร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมาก โดยผู้ชุมนุมบางคนไม่ได้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากทางเลือก และเว้นระยะห่างทางสังคม มีโอกาสสัมผัสกันได้ง่ายเสี่ยงต่อการติดโรคระบาดโควิด-19

สำหรับ 4 ข้อหาที่พนักงานสอบสวน แจ้งต่อผู้เข้าร่วมชุมนุมบริเวณห้าแยกลาดพร้าวในวันที่ 27 พ.ย. 2563 ทั้งหก มีดังนี้

1.ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะโดยไม่แจ้งการชุมนุม ก่อนเริ่มชุมนุมไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ มาตรา 10 มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท

2.ร่วมกันจัดกิจกรรมชุมนุมโดยไม่ได้ให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาตรา 9 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

3.ร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่อขยายเสียงฯ มาตรา 4 มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 200 บาท

4.ร่วมกันวางสิ่งกีดขวางทางสาธารณะจนเป็นอุปสรรคต่อความสะดวกในการจราจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 385 มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท

รุ้ง, ไมค์, ครูใหญ่, นันทพงศ์ ปานมาศ, สหรัฐ สุขคำหล้า (สามเณรโฟล์ค) และ “ฟ้า” พรหมศร วีระธรรมจารี  ผู้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาทุกคนให้การปฏิเสธ และจะให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือภายในวันที่ 4 ก.พ. 2564 โดยไมค์ไม่ลงชื่อในบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา พร้อมทั้งเขียนหมายเหตุไว้ว่า “ข้าพเจ้าไม่ประสงค์ลงลายมือชื่อ เนื่องจากการชุมนุมเป็นสิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็นของพลเมืองตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” 

ในส่วนของ อานนท์, ไผ่ และแอมมี่ ขอเลื่อนเข้ารับทราบข้อกล่าวหาภายหลัง คาดว่าจะเป็นวันที่ 21 ม.ค. 2564

ม็อบ27พฤศจิกาที่ห้าแยกลาดพร้าว (ภาพโดย ประชาไท)

#ม็อบซ้อมต้านรัฐประหาร เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2563 เป็นการนัดชุมนุมของกลุ่ม “ราษฎร” เพื่อซ้อมต้านรัฐประหารที่ห้าแยกลาดพร้าว หลังมีข่าวลือการประกาศกฎอัยการศึก และความกังวลว่าอาจมีการรัฐประหารเกิดขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากมีการเคลื่อนย้ายกำลังพล อาวุธยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะของกองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน โดยผู้ชุมนุมใช้เป็ดยาง, เอเลี่ยน, นกยูง, ม้ายูนิคอน, และพิซซ่า มาเป็นตัวแทนคณะรัฐประหารสำหรับซ้อมหากมีการรัฐประหาร โดยซักซ้อมชู 3 นิ้ว ต่อและโห่ใส่กองทัพเป็ดดังกล่าว ผู้ชุมนุมให้สัญญากันว่าจะต่อต้านการกระทำรัฐประหารไม่ว่าโดยฝ่ายใดในทุกรูปแบบ และสัญญาว่า จะไม่ยินยอมให้ฉีกรัฐธรรมนูญโดยเผด็จการอีกต่อไป และตลอดไปจนกว่าจะสิ้นแแผ่นดินไทย

 

เกิดเหตุวุ่น เมื่อกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน ดักพบ “ไมค์” ที่ สน.พหลโยธิน

ที่ สน.พหลโยธิน ในช่วงบ่ายระหว่างที่นักกิจกรรมกลุ่มราษฎรเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ก็มีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้น มติชน รายงานว่า กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน ราว 20 คน เดินทางมาสังเกตการณ์ ไมค์ ภาณุพงศ์ ในการเข้าแจ้งความ ที่ สน.พหลโยธิน เรื่องที่ เต้ บุรณพนธ์ จากกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน ทำการไลฟ์สด พูดข่มขู่และยุยงปลุกปั่น ปรักปรำว่าไมค์เป็นคนไปติดป้ายที่สถาบันแห่งหนึ่งย่านปทุมวัน  

ท่ามกลางการ์ดอาชีวะ และกลุ่ม Wevo คอยรักษาความปลอดภัย  ทั้งสองฝ่ายมีการตะโกนด่าทอเป็นระยะ มีรายงานว่าเกิดการกระชากคอเสื้อมวลชนฝั่งราษฎร 2 ราย รวมถึง นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อีกหนึ่งนักกิจกรรมที่เดินทางมาให้กำลังใจกลุ่มราษฎร ก็โดนปาขวดน้ำใส่ บริเวณทางเดินเท้าฝั่งตรงข้าม สน.พหลโยธิน พร้อมถูกพูดจาชวนทะเลาะ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าระงับเหตุ

ประชาไทรายงานด้วยว่า ตั้งแต่เวลา 12.00 น. พบกลุ่มคนสวมเสื้อช็อปประมาณ 20-30 คน แถว สน.พหลโยธิน เข้าใจว่าเป็นกลุ่มการ์ดอาชีวะ จึงเข้าไปพูดคุย คนในกลุ่มกล่าวว่าตั้งใจมารอกระทืบไมค์

อย่างไรก็ดีหลังเหตุวุ่นวายมีการจับกุมลัทธพร ทองสว่าง, ศิวัฒน์ คล้ายสิทธิ์ และวีรภาพ วงษ์สมาน กลุ่มการ์ดอาชีวะและการ์ด มธ. ในข้อหาพกอาวุธมีดไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร เจ้าหน้าที่นำตัวไป สน.สุทธิสาร และเปรียบเทียบปรับคนละ 100 บาท ขณะเดียวกันมีรายงานว่าการ์ดกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน ไม่ถูกค้นตัวหรือดำเนินคดีใดๆ

 

ขอบคุณภาพปกจากเพจ ครูใหญ่ อรรถพล บัวพัฒน์

 

X