13 ม.ค. 64 เวลา 11.00 น. ที่ สน.ปทุมวัน นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ “เพนกวิน” แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เข้าพบ ร.ต.ท.สิทธิกร วิจิตรโสภา สารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน หลังจากได้รับหมายเรียกจากกรณีการชุมนุมหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 63
พริษฐ์นับเป็นผู้ถูกดำเนินคดีรายที่ 3 แล้วที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาจากการชุมนุม-สาดสี บริเวณหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 13 ต.ค. 63 หลังจากก่อนหน้านี้ “ครูใหญ่” อรรถพล บัวพัฒน์ แกนนำกลุ่ม “ขอนแก่นพอกันที” และทิพอัปสร แก้วมณี นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง กลุ่ม “ลูกพ่อขุนโค่นล้มเผด็จการ” เข้ารับทราบข้อกล่าวหาไปแล้วเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 63
>> ชุมนุม-สาดสีหน้า สตช. กดดันปล่อย #คณะราษฎรอีสาน ถูกตั้งข้อหา พ.ร.บ.ชุมนุมฯ-ทำให้เสียทรัพย์
เหตุแห่งคดีนี้สืบเนื่องจากในวันที่ 13 ต.ค. 63 #คณะราษฎรอีสาน ตั้งเต็นท์ ‘นอนรอม็อบ’ เพื่อเตรียมชุมนุมในวันที่ 14 ต.ค. 2563 ที่บริเวณหน้าร้านแมคโดนัลด์ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แต่ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมตัวและ “ขอคืนพื้นที่” เนื่องจากมีขบวนเสด็จในช่วงเย็น โดยเจ้าหน้าที่ใช้กำลังอุ้มและลากตัวขึ้นรถควบคุมผู้ต้องขังของตำรวจ รวม 21 ราย เดินทางไปยัง บก.ตชด.ภาค 1
>> คุมตัว #คณะราษฎรภาคอีสาน 21 ราย พาตัวไป ตชด.ภาค 1 ก่อนส่งศาลฝากขัง ไม่ให้ประกัน
ภาพจาก The Standard
จากนั้นเวลาประมาณ 17.40 น. ได้มีการนัดหมายผู้ชุมนุมไปรวมตัวกันที่หน้าหอศิลป์กรุงเทพฯ และเคลื่อนขบวนไปยังหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ชุมนุมที่ถูกควบคุมตัวไป ผู้ชุมนุมได้มีการปราศรัย ตะโกน “ปล่อยเพื่อนเรา” “ขี้ข้าเผด็จการ” และ “หยุดคุกคามประชาชน” และมีการทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์สาดสีใส่ป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.30 น. จึงประกาศยุติการชุมนุม
ในวันนี้ ร.ต.ท.สิทธิกร วิจิตรโสภา พนักงานสอบสวนได้บรรยายพฤติการณ์กล่าวหาพริษฐ์ ว่าเมื่อวันที่ 13 ต.ค. 63 เวลาประมาณ 18.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมรวมทั้งผู้ต้องหานัดรวมตัวกันที่ลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” โดยมีพริษฐ์เป็นผู้จัดการชุมนุม มีการปราศรัยโดยใช้เครื่องขยายเสียง
ต่อมา ผู้ชุมนุมได้เคลื่อนตัวไปยังบริเวณหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อเจ้าพนักงาน ข้อกล่าวหาระบุว่าการชุมนุมนี้มีการปิดกั้นเส้นทางจราจรโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นการขัดขวางเกินสมควรต่อประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะ กลุ่มผู้ชุมนุมยังได้มั่วสุมกัน มีการใช้รถยนต์กระบะติดตั้งเครื่องขยายเสียงโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาต และทำการพ่นสีใส่ป้ายที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
จากนั้นพริษฐ์และพวกได้ทำการสาดสี และขว้างปาสิ่งของเข้าไปด้านในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝั่งหน้าประตูทางเข้า ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่อยู่ จนเป็นเหตุให้เครื่องแบบเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 3 นาย ได้รับความเสียหายจากการถูกสีน้ำ คิดเป็นความเสียหายประมาณ 7,500 บาท
พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาพริษฐ์ รวม 8 ข้อหา ดังนี้
|
พริษฐ์ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และเขียนข้อความในช่องลงลายมือชื่อผู้ต้องหาว่า “จะปฏิรูปหรือปฏิวัติ lll” โดยจะยื่นคำให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือภายใน 30 วัน หลังจากการรับทราบข้อกล่าวหาไม่มีการควบคุมตัวแต่อย่างใด
คดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 4 ราย อรรถพล บัวพัฒน์, ทิพอัปสร แก้วมณี และพริษฐ์ ชิวารักษ์ ซึ่งเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ยังคงมีผู้ต้องหาอีกหนึ่งรายคือ จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ ที่ยังไม่ได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา
ทั้งนี้ จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน พริษฐ์ถูกกล่าวหาในคดีทางการเมืองรวมแล้ว 26 คดี หากนับตั้งแต่หลังการชุมนุมเยาวชนปลดแอกเป็นต้นมา