ศาลนัดสืบพยาน 2 คดี เหตุค้านผบ.ทบ.เปิดเพลง “หนักแผ่นดิน” ก.ค.62

จำเลยปฏิเสธข้อกล่าวหาพร้อมสืบพยาน ทนายค้านพนักงานอัยการส่งพยานเอกสารไม่ครบอาจทำให้จำเลยเสียเปรียบในการต่อสู้คดี: ใน 2 คดี “เอกชัย-โชคชัย” และ “เพนกวิ้น-บอล” กรณีค้าน ผบ.ทบ.เปิดเพลง “หนักแผ่นดิน”

22 เม.ย. 62 ที่ศาลแขวงดุสิตนัดพร้อมและสอบคำให้การใน 2 คดี ได้แก่ คดี “เอกชัย–โชคชัย” เปิดเพลงประเทศกูมี และ คดี “เพนกวิ้น–บอล” อ่านจดหมายค้าน ผบ.ทบ. ในข้อหาไม่แจ้งการชุมนุมก่อนเริ่มการชุมนุมไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง ทั้งสองกรณีสืบเนื่องจากกิจกรรมคัดค้าน ผบ.ทบ.สั่งกรมกิจการพลเรือนทหารบก นำเพลงแนวปลุกใจทหาร เช่น เพลงหนักแผ่นดิน เพื่อเปิดในสถานีวิทยุกองทัพบกที่มีกว่า 126 สถานีทั่วประเทศ ซึ่งจำเลยทั้ง 4 คน ไปทำกิจกรรมคัดค้านที่หน้า บก.ทบ. เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 62

คดีเปิดเพลงประเทศกูมี

10.00 น. ศาลแขวงดุสิต นัดพร้อมและสอบคำให้การเอกชัย หงส์กังวาน และโชคชัย ไพบูลย์รัชตะ นักกิจกรรมรณรงค์ประชาธิปไตย โดยศาลได้อธิบายข้อหาและพฤติการณ์ที่จำเลยทั้งสองถูกฟ้องตามคำฟ้องของอัยการ จำเลยยืนยันให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว คู่ความทั้งสองฝ่ายจึงแถลงต่อศาลขอนำพยานเข้าสืบ โดยพนักงานอัยการขอนำสืบพยานบุคคลจำนวน 4 ปาก ส่วนจำเลยขอนำสืบพยานบุคคลจำนวน 2 ปาก

ทั้งนี้ ในขั้นตอนการตรวจพยานหลักฐานก่อนการสืบพยาน ปรากฎว่าพนักงานอัยการไม่ได้นำส่งพยานเอกสารทั้งหมดที่ระบุไว้บัญชีพยานฝ่ายโจทก์ เช่น บันทึกรายงานประจำวัน, สำเนาหนังสือแจ้งการชุมนุม, บันทึกคำให้การพยานเกี่ยวกับคดี, ภาพและซีดีประกอบในวันเกิดเหตุ โดยให้เหตุผลว่าเอกสารเหล่านั้นเป็นเอกสารส่วนหนึ่งของคำให้การอยู่แล้ว หากไม่นำส่งในขั้นตอนการตรวจพยานหลักฐานในวันนี้ ศาลมีดุลพินิจที่จะรับฟังหรือไม่รับฟังพยานเอกสารนั้น ๆ ได้ในขั้นตอนการสืบพยาน อย่างไรก็ตาม ทนายความจำเลยได้แถลงคัดค้านการไม่นำส่งเอกสารนี้ของพนักงานอัยการ ด้วยเหตุทำให้จำเลยเสียเปรียบในการต่อสู้คดีจากการนำส่งพยานหลักฐานไม่ครบ

ทนายความจำเลยยังเห็นว่าการกระทำของพนักงานอัยการเป็นอุปสรรคทำให้ตนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เต็มที่ จึงขอถอนตนเองจากการทำหน้าที่ทนายความในคดีนี้ จำเลยทั้งสองไม่คัดค้าน ศาลจึงอนุญาตและกำชับให้จำเลยนำทนายความมาศาลในวันนัดสืบพยานต่อไป ศาลกำหนดนัดสืบพยานในวันที่ 3 และ 4 ก.ค. 62 เวลา 09.00-16.30 น.

คดีอ่านจดหมายค้านเปิดเพลงหนักแผ่นดิน

9.00. น. ศาลแขวงดุสิต ศาลนัดพร้อมและสอบคำให้การพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และ ธนวัฒน์ วงค์ไชย หรือบอล นักศึกษาและนักกิจกรรมรณรงค์ประชาธิปไตย โดยศาลได้อธิบายข้อหาและพฤติการณ์ที่จำเลยทั้งสองถูกฟ้องตามคำฟ้องของอัยการ จำเลยยืนยันให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว คู่ความทั้งสองฝ่ายจึงแถลงต่อศาลขอนำพยานเข้าสืบ โดยพนักงานอัยการขอนำสืบพยานบุคคลจำนวน 5 คน ส่วนจำเลยขอนำสืบพยานบุคคลจำนวน 3 คน

ทั้งนี้ ในขั้นตอนการตรวจพยานหลักฐานก่อนการสืบพยาน พนักงานอัยการไม่ได้นำส่งพยานเอกสารทั้งหมดที่ระบุไว้บัญชีพยานฝ่ายโจทก์เช่นเดียวกับคดีเปิดเพลงประเทศกูมี ทนายความจำเลยจึงได้แถลงคัดค้านการไม่นำส่งเอกสารนี้ ด้วยเหตุทำให้จำเลยเสียเปรียบในการต่อสู้คดีจากการนำส่งพยานหลักฐานไม่ครบ และขอให้ศาลกำหนดวันนัดตรวจพยานหลักฐานใหม่เพื่อให้พนักงานอัยการนำส่งเอกสารให้ครบตามที่ได้อ้างไว้ แต่ศาลเห็นว่าจะทำให้คดีล่าช้าออกไปจึงใช้ดุลพินิจไม่กำหนดให้ ศาลจึงกำหนดวันนัดสืบพยานในวันที่ 24 และ 25 ก.ค. 62 เวลา 09.00-16.30 น.

ทั้งนี้ นักกิจกรรมทั้งสี่รายถูกอัยการศาลแขวงดุสิตฟ้องในข้อหาจัดการชุมนุมโดยไม่แจ้งจัดการชุมนุม ตามพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะฯ พ.ศ.2558 โดยทั้งสองคดี สองคดีมีมูลเหตุมาจาก เดือนกุมภาพันธ์ 2562 หลังจากพล.อ.อภิรัตช์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ให้สัมภาษณ์ต่อกรณีที่พรรคการเมืองเสนอนโยบายยกเลิกการเกณฑ์ทหารและปรับลดงบประมาณกลาโหม โดยไล่ให้ไปฟัง “เพลงหนักแผ่นดิน” และมีการสั่งการให้เปิดเพลงนี้ตามคลื่นวิทยุของกองทัพบก ก่อนจะยกเลิกไป ทำให้นักศึกษาและนักกิจกรรม อย่างน้อย 2 กลุ่ม นัดหมายแสดงออกถึงการให้สัมภาษณ์ดังกล่าวเมื่อวันที่ 20 ก.พ. 62 โดยนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ “เพนกวิน” นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้นัดหมายไปทำกิจกรรมอธิบายว่าทำไมกองทัพไม่ควรเปิดเพลง “หนักแผ่นดิน” ที่หน้ากองบัญชาการกองทัพบก ถนนราชดำเนิน ขณะที่นายเอกชัย หงส์กังวาน และนายโชคชัย ไพบูลย์รัชตะ ได้นัดหมายไปเปิดเพลง “ประเทศกูมี” และทำกิจกรรมคัดค้านการเปิดเพลง “หนักแผ่นดิน” ที่หน้าบก.ทบ. เช่นกัน

อ่านเพิ่มเติม

ดำเนินคดีไม่แจ้งชุมนุม 4 น.ศ.-นักกิจกรรม หลังทำกิจกรรมค้านเปิดเพลง “หนักแผ่นดิน” หน้าบก.ทบ.

อัยการสั่งฟ้อง 2 คดี “เอกชัย-โชคชัย” และ “เพนกวิ้น-บอล” เหตุค้าน ผบ.ทบ.เปิดเพลง “หนักแผ่นดิน”