ศาลอุดรฯ ไม่ให้ฝากขังต่อ “ครูใหญ่” คดี ม.116 หลัง พงส.รับ สอบสวนเสร็จแล้ว 

21​ ธ.ค.​ 2563 เวลา 9.30 น. ที่ศาลจังหวัดอุดรธานี “ครูใหญ่” อรรถพล บัวพัฒน์ แกนนำกลุ่ม “ขอนแก่นพอกันที” พร้อมอภิชาต ศิริสุนทร ส.ส.พรรคก้าวไกล นายประกัน เดินทางเข้ารายงานตัวครั้งที่ 2 หลังได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นฝากขังในคดีที่เกี่ยวเนื่องจากการชุมนุม #กฐินราษฎร์ตลาดหลวง เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2563 ที่อนุสาวรีย์กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรฯ ซึ่งจัดโดยกลุ่ม “อุดรพอกันที” สนับสนุน 3 ข้อเรียกร้องของคณะราษฎร 

ขณะเดียวกันทนายผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องคัดค้านคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาครั้งที่ 3 ของพนักงานสอบสวน และขอให้ศาลเรียกพนักงานสอบสวนมาไต่สวน หลังพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรฯ ยื่นคำร้องดังกล่าวเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ที่ผ่านมา ขอฝากขังผู้ต้องหาเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 20-31 ธ.ค. 2563  

คำร้องคัดค้านการขอฝากขังระบุเหตุผลว่า  นับตั้งแต่วันเกิดเหตุจนถึงปัจจุบันเป็นเวลาร่วม 2 เดือน ซึ่งมากเพียงพอสำหรับการรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีผู้ต้องหา, ข้อกล่าวหาเป็นเรื่องการใช้เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ ซึ่งได้รับการรับรองไว้ตามรัฐธรรมนูญ ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ โดยพนักงานสอบสวนได้สอบสวนผู้ต้องหาเสร็จสิ้นแล้ว, ผู้ต้องหาเป็นเพียงบุคคลธรรมดา และประกอบอาชีพสอนหนังสือ ไม่ได้มีความสามารถที่จะไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานได้ ส่วนพยานบุคคลที่พนักงานสอบสวนอ้างว่ายังสอบสวนไม่เสร็จ ผู้ต้องหาก็ไม่ทราบว่าคือผู้ใด การปล่อยตัวผู้ต้องหาจึงไม่เป็นอุปสรรค และไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวน จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเอาตัวผู้ต้องหาไว้ในอำนาจศาล     

ประมาณ 10.00 น. ศาลออกพิจารณาคดีและแจ้งให้ฝ่ายผู้ต้องหารอพนักงานสอบสวนสักครู่ ต่อมา ร.ต.ท.​ กานดิศ สีแก้วน้ำใส​ เดินทางมาถึง ศาลสอบถามว่า ที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาครั้งที่ 3​ ลงวันที่ 18​ ธ.ค. 2563​ อ้างว่าต้องสอบพยานอีก 3 ปาก​ พยานเหล่านั้นมีความเกี่ยวข้องกับคดีหรือไม่​ ร.ต.ท.กานดิศ เบิกความต่อศาลว่า ตามที่ผู้ร้องยื่นคำร้องดังกล่าว เนื่องจากจะครบกำหนดฝากขังครั้งที่ 2 ในวันที่ 19 ธ.ค. 2563 ซึ่งเป็นวันหยุด​ จึงต้องยื่นคำร้องขอฝากขังครั้งที่ 3 ล่วงหน้า แต่หลังจากยื่นคำร้องคณะพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นและสรุปสำนวนแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4​ พิจารณามีคำสั่งว่าเห็นควรสั่งฟ้องหรือไม่ ในวันนี้จึงไม่อาจถอนคำร้องของฝากขังครั้งที่ 3 ด้วยตนเองได้ 

หลังจากสอบถามเหตุผลของพนักงานสอบสวนแล้ว ศาลได้มีคำสั่งยกคำร้องขอฝากขังครั้งที่ 3 ของพนักงานสอบสวน ​โดยระบุว่า พิเคราะห์จากคำร้อง​ขอฝากขัง ​คำร้องคัดค้าน​ และคำให้​การของพนักงานสอบสวนแล้วได้ความว่า การสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว​ เพียงแต่รอการพิจารณาของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4​ จึงไม่มีเหตุให้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ในระหว่างสอบสวนอีก 

การที่ศาลมีคำสั่งยกคำร้องขอฝากขังในวันนี้ ทำให้อรรถพลไม่ต้องเดินทางมารายงานตัวต่อศาลตามสัญญาประกันอีก โดยหลังจากนี้ หากผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4​ มีคำสั่งว่าเห็นควรสั่งฟ้อง พนักงานสอบสวนจึงจะออกหมายเรียกให้อรรถพลมาพบเพื่อส่งตัวให้พนักงานอัยการจังหวัดอุดรธานีต่อไป

กิจกรรม “กฐินราษฎร์ตลาดหลวง” (ภาพโดย iLaw)

คดีนี้ มีผู้ดำเนินคดีอีก 1 คน คือ “จัสติน” หรือชูเกียรติ แสงวงค์ นักกิจกรรมกลุ่ม “ราษฎร” ซึ่งทั้งสองถูกกล่าวหาว่า ขึ้นพูดปราศรัยพาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย อันเป็นการยุยงให้ประชาชนคนทั่วไปที่ฟังแล้วอาจเกิดความเข้าใจผิดเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ซึ่งอาจเป็นการสร้างความกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนที่ไม่รู้ข้อเท็จจริงนี้ได้  อันเป็นการ “ร่วมกันยุยงปลุกปั่น” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 โดยชูเกียรติได้เข้ามอบตัวหลังอรรถพลถูกจับ จากนั้นได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นฝากขังเช่นเดียวกับอรรถพล และต้องเข้ารายงานตัวต่อศาลครั้งที่ 2 ในวันที่ 24 ธ.ค.ที่จะถึงนี้

 

X