รับปริญญาอีสานวุ่น เจ้าหน้าที่ตามติดนักกิจกรรม ไล่จับสแตนดี้ สมศักดิ์-ปวิน-จัสติน

ช่วงกลางเดือนธันวาคม หลายมหาวิทยาลัยในอีภาคอีสานมีกำหนดการพระราชทานปริญญาบัตร ทั้งมหาวิทยาลัยขอนแก่นในวันที่ 13-14 ธ.ค., มหาวิทยาลัยมหาสารคามในวันที่ 14-15 ธ.ค. และมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีในวันที่ 16 ธ.ค.  ในห้วงเวลาเดียวกันนี้เอง นักกิจกรรมทางการเมืองถูกเจ้าหน้าที่ติดตาม และสแตนดี้สมศักดิ์, ปวิน, จัสติน รวมทั้งซุ้ม “กล้ามาก เก่งมาก ขอบใจ” ก็ถูกเจ้าหน้าที่และทางมหาวิทยาลัยคุกคาม

 

ขอนแก่น

12 ธ.ค. 2563 เพจเฟซบุ๊ก  “ขอนแก่นพอกันที” ได้มีการโพสต์ข้อความว่า “พรุ่งนี้ราษฎรขอนแก่นมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ สำหรับผู้ที่ไม่ประสงค์เข้ารับพระราชปริญญาบัตร เรามีบิ๊กเซอร์ไพรส์เเก่ทุกท่านทั้งเข้ารับเเละไม่เข้ารับ เจอกันครับทุกท่าน ปริญญาประชาราษฎร์ #ไม่รับปริญญา #ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ #ราษฎรขอนแก่น

ให้ช่วงกลางคืนของวันเดียวกัน  มีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรหา ‘เซฟ’  วชิรวิทย์ เทศศรีเมือง แกนนำกลุ่ม “ขอนแก่นพอกันที” ถึง 3 ครั้ง โดยพูดคุยขอไม่ให้การทำเคลื่อนไหวในช่วงมีงานรับปริญญา เซฟจึงบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปว่า ตัวเองไม่ทำอะไร แต่ตนก็ไม่สามารถห้ามผู้อื่นไม่ได้เช่นเดียวกัน

13 ธ.ค. 2563 เซฟสังเกตเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบจอดรถจักรยานยนต์อยู่ฝั่งตรงข้ามสำนักงานกลุ่มขอนแก่นพอกันที และขับตามเซฟเมื่อเซฟขับจักรยานยนต์ออกจากสำนักงาน เมื่ออยู่ในงานรับปริญญาเซฟสังเกตเห็นเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบหลายคนติดตามถ่ายรูป

เวลา 15.00 น. กลุ่มขอนแก่นพอกันทีนำสแตนดี้รูป  สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล, ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์, จัสติน บีเบอร์ และภาพเงาปริศนา มาตั้งไว้บริเวณคณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อให้บัณฑิตและญาติเข้ามาถ่ายภาพ

ไม่นานเจ้าหน้าที่ป้องกันและรักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัย มีป้ายห้อยคอแสดงตัว เข้ามาพูดคุยกับ กลุ่มขอนแก่นพอกันที แจ้งว่าสแตนดี้เหล่านี้ไม่เหมาะสม สมาชิกกลุ่มขอนแก่นพอกันที ตั้งคำถามกลับว่า ไม่เหมาะสมอย่างไร พวกตนเคารพอาจารย์ 2 ท่านนี้ และชื่นชมจัสติน บีเบอร์ ในงานรับปริญญาทั่วไปก็มีการนำสแตนดี้ดารานักร้องมาตั้งเป็นปกติ เจ้าหน้าที่จึงบอกว่า เขาไม่รู้จักจัสติน บีเบอร์ และสแตนดี้รูปจัสติน แต่งตัวโป๊ไม่สุภาพ ทีมงานขอนแก่นพอกันที จึงนำสแตนดี้รูปจัสตินไปหลบไว้ด้านหลัง แล้วดำเนินกิจกรรมต่อไป

เจ้าหน้าที่คนเดิมยังขอดูบัตรประจำตัวนักศึกษาของบัณฑิต สมาชิกขอนแก่นพอกันทีคนหนึ่ง เมื่อบัณฑิตคนดังกล่าวยื่นบัตรให้ดู เจ้าหน้าที่พยายามดึงบัตรไปถ่ายรูป แต่เจ้าตัวไม่ยอม ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่มีสิทธิ เจ้าหน้าที่จึงยอมกลับออกไป จากนั้นจึงเริ่มมีคนเข้ามาถ่ายรูปคู่กับสแตนดี้อย่างต่อเนื่อง จนถึงเวลา 17.00 น. จึงมีการนำสแตนดี้ทั้งหมดกลับ โดยตลอดกิจกรรมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบวนเวียนเข้าออกมาถ่ายรูปบ่อยครั้ง

บรรยากาศที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น (ภาพโดย The Isaan Record)

นอกจากกรณีดังกล่าว ยังพบว่า ทิวากร วิถีตน ผู้เคยถูกควบคุมตัวไปตรวจรักษา​อาการทางจิตที่โรงพยาบาล​จิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์  หลังจากใส่เสื้อยืดที่มีข้อความว่า  “เราหมดศรัทธา​สถาบันกษัตริย์​แล้ว” ​ได้โพสต์สถานะเฟซบุ๊ก ว่า เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2563 มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. ท่าพระ เข้าหาถามหาถึงตัวเขากับพี่ชาย เนื่องจากเกรงว่าเขาจะสวมเสื้อยืด “เราหมดศรัทธา​สถาบันกษัตริย์​แล้ว” ไปรับเสด็จ ทิวากรยังระบุด้วยว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปหาเพื่อนทางเฟซบุ๊กของเขาคนหนึ่ง เพื่อถามว่ารู้จักทิวากรหรือไม่  “…แสดงให้เห็นว่าฝ่ายเผด็จการเกรงกลัวเสื้อยืดหมดศรัทธาตัวนี้เป็นอย่างมากผมขอแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้สั่งการได้ทราบว่า การโพสต์เชิญชวนให้คนใส่เสื้อเราหมดศรัทธาไปรับเสด็จ เป็นเพียงการนำเสนอไอเดียเท่านั้น ผมคิดว่าคงไม่มีใครกล้าใส่เสื้อนี้ไปรับเสด็จแน่ๆ พวกท่านสบายใจได้…”  ข้อความส่วนหนึ่งของสถานะดังกล่าว

 

มหาสารคาม

14 ธ.ค. 2563 กลุ่ม “แนวร่วมนิสิตมมส.เพื่อประชาธิปไตย” ได้นำสแตนดี้ชุดเดียวกันกับที่กลุ่มขอนแก่นพอกันทีใช้จัดกิจกรรม ไปตั้งที่ “ลาดแปดเหลี่ยม” หน้าวิทยาลัยการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยสารคาม เพื่อให้ผู้ที่มางานรับปริญญาได้ถ่ายรูป จนถึงช่วงราว 16.00 น. พงศธรณ์ ตันเจริญ หรือ ‘บอย’ สมาชิกกลุ่มแนวร่วมนิสิตมมส.เพื่อประชาธิปไตย ได้รับแจ้งว่าสแตนดี้ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยกไป บอยจึงเดินทางไปที่สำนักงานกองอาคารและสถานที่ของมหาวิทยาลัยเพื่อทวงสแตนดี้คืน เจ้าหน้าที่กองอาคารฯ ชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ไปนำสแตนดี้ดังกล่าวมาเก็บ และให้บอยไปพูดคุยกับตำรวจ

หลังจากบอยเข้าพูดคุยกับตำรวจนอกเครื่องแบบจาก สภ.เขวาใหญ่ ซึ่งปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนสั่งให้นำสแตนดี้เหล่านั้นมาเก็บ บอยจึงขอรับสแตนดี้ทั้งหมดจากเจ้าหน้าที่กองอาคารฯ นำกลับไปตั้งหน้าวิทยาลัยฯ ให้บัณฑิตถ่ายรูปเช่นเดิม

บรรยากาศที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (ภาพโดยเพจ แนวร่วมนิสิตมมส.เพื่อประชาธิปไตย)

 

อุบลฯ

13 ธ.ค. 2563 เวลาประมาณ 13.00 น. มีกลุ่มชายฉกรรจ์สวมชุดไปรเวท 5 คน เดินทางด้วยรถตู้เข้าไปที่บ้านของกิตติพล ไทยงามศิลป์ หรือ ‘ฟลุค’ นักเรียนอาชีวะ และนักกิจกรรม “คณะอุบลปลดแอก” ซึ่งขณะนั้นฟลุคไม่ได้อยู่บ้าน ออกไปทำธุระส่วนตัวข้างนอก มีแค่ยายอยู่บ้าน ชายกลุ่มนั้นถามยายว่า คนชื่อกิตติพลอยู่ไหม โดยไม่ได้แนะนำตัวว่ามาจากไหน และไม่ได้แสดงบัตรประจำตัวใด ๆ ยายบอกชายแปลกหน้าไปว่า ไม่อยู่ เมื่อกลุ่มชายฉกรรจ์พยายามถามต่อว่า ไปที่ไหน ยายก็ตอบว่า ไม่รู้ รู้แต่ออกไปข้างนอก

น้าสาวซึ่งบ้านใกล้เคียงเห็นยายคุยกับชายแปลกหน้าจึงเดินมาถามว่า เป็นใคร กลุ่มชายฉกรรจ์นั้นจึงได้แสดงตัวว่าเป็นตำรวจและยื่นเอกสารซึ่งเป็นข้อมูลส่วนตัวของฟลุคให้ดู พร้อมกับอ้างว่า ต้องการพูดคุยกับกิตติพลเท่านั้น ไม่ต้องกังวลใจ หลังจากนั้นกลุ่มชายที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจก็เดินทางกลับ

เมื่อฟลุคทราบเรื่องดังกล่าวจากพี่สาวที่โทรศัพท์มาบอกก็รู้สึกตกใจเพราะเป็นครั้งแรกที่มีตำรวจมาหาที่บ้าน และรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย ครอบครัวก็ตกใจ เนื่องจากฟลุคกับยายอยู่กันเพียงลำพังสองคน ยายเองรู้สึกกลัวและขอร้องให้เขาเลิกยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมทางการเมือง ลึกๆ ฟลุคไม่แปลกใจเท่าไรเพราะก่อนหน้านี้ คือ วันที่ 27 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่ง ร.10 เสด็จถวายผ้าพระกฐินที่วัดหนองป่าพง ฟลุครู้สึกตัวว่าถูกติดตามจากชายที่มีลักษณะน่าสงสัย ทำให้เขาระมัดระวังตัวมากขึ้น

เช้าวันที่ 16 ธ.ค. 2563 ซึ่งตรงกับวันรับปริญญาของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ฟลุคไปเรียนตามปกติ แต่เขาสังเกตเห็นตำรวจแต่งเครื่องแบบเต็มยศ 1 นาย มายืนที่ใต้ตึกเรียนทำท่าสอดส่องเหมือนมองหาอะไรสักอย่าง พร้อมกับถือวิทยุสื่อสารพูดคุยไปด้วย ตำรวจคนดังกล่าวยืนอยู่อย่างนั้นตั้งแต่ประมาณ 9 โมงเช้าถึงบ่ายสอง โดยไม่ทราบแน่ว่า เป็นตำรวจจากที่ไหน และมีวัตถุประสงค์อะไร

‘นุ่น’ นักเรียนมัธยมปลาย เป็นสมาชิก “คณะอุบลปลดแอก” อีกคนที่ถูกติดตาม นุ่นเล่าว่า เย็นวันที่ 14 ธ.ค. 2563 มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ 2 คน มาที่บ้านขณะที่นุ่นยังไม่กลับจากโรงเรียน ลุงข้างบ้านจึงเข้าไปพูดคุยด้วย เจ้าหน้าที่ได้เอ่ยชื่อนุ่นและบ้านเลขที่ และสอบถามว่าใช่เลขบ้านของบ้านหลังนี้มั้ย นุ่นอยู่ที่นี่ไหม โดยอ้างว่า พระเทพฯ จะเสด็จจึงมาดูว่านุ่นอยู่ที่นี่จริงไหม พร้อมทั้งฝากให้ลุงข้างบ้านบอกนุ่นว่า อย่าไปรบกวนขบวนเสด็จ ก่อนที่ทั้งสองจะกลับไป

16 ธ.ค. 2563 นักศึกษากลุ่ม “คบเพลิง” ได้นำซุ้ม “กล้ามาก เก่งมาก ขอบใจ” และสแตนดี้รูปสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล, ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ไปตั้งให้บัณฑิต มหาวิทยาลัยอุบลฯ ถ่ายรูป แต่ถูกกลุ่มอาจารย์และผู้บริหารมหาวิทยาลัยกดดันให้นำซุ้ม “กล้ามาก เก่งมาก ขอบใจ” ไปเก็บ โดยอ้างว่าจะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจดู กลุ่มนักศึกษาเจรจาต่อรองอยู่นาน สุดท้ายก็ยอมนำซุ้มดังกล่าวไปเก็บ แต่ก็นำกลับมาตั้งใหม่เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก

 

ขอขอบคุณภาพปกจากเพจ ขอนแก่นพอกันที

 

 

 

X