การ์ด WeVo จากจิตอาสาเก็บกู้ลวดหนาม สู่การเป็นผู้ต้องหาคดีมั่วสุม-ขัดขวางเจ้าพนักงาน ก่อนได้รับการปล่อยตัว

8 ธ.ค. 2563 เวลา 05.20 น. ทีมการ์ดอาสา We Volunteer หรือ “วีโว่” (WeVo) รวม 19 ราย ได้รับการปล่อยตัวจาก สน.พญาไท หลังพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป, มาตรา 216 เจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก และมาตรา 138 ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน หลังจากที่ทั้งหมดถูกตำรวจ สน.พญาไท และชุดควบคุมฝูงชนของกองบัญชาการตำรวจนครบาลกว่า 200 นาย เข้าจับกุม และควบคุมตัวขึ้นรถผู้ต้องขังในเวลาประมาณ 23.00 น. ของวันที่ 7 ธ.ค. 2563 จากเหตุการณ์ที่ “โตโต้” ปิยรัฐ จงเทพ นำทีมทำกิจกรรมเก็บกู้ลวดหนาม (หีบเพลง) ที่เจ้าหน้าที่ใช้สกัดกั้นผู้ชุมนุมในการชุมนุมทางการเมืองก่อนหน้านี้ และได้ทิ้งไว้บริเวณแยกอุรุพงษ์ ทำให้มีผู้ร้องเรียนว่า กีดขวางและเป็นอันตรายต่อประชาชนที่ใช้ทางสัญจรในละแวกนั้น

หลังผู้ถูกจับกุมทั้งหมด ประกอบด้วยชาย 17 ราย หญิง 1 ราย และ LGBTQ 1 ราย ถูกควบคุมตัวมาในรถผู้ต้องขังถึง สน.พญาไท ต่อมา เวลาประมาณเที่ยงคืน พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบ.ช.น.) เดินทางมาถึง กล่าวกับทนายความอาสาของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนที่เพิ่งได้รับอนุญาตจากตำรวจให้เข้าไป สน. แต่ยังรอเข้าพบผู้ถูกจับกุมทั้ง 19 ว่า จะใช้อำนาจแยกสอบสวน 3 สน. โดยไม่จำเป็นต้องให้ผู้ถูกจับกุมยินยอม เนื่องจากมีมวลชนมารวมตัวที่หน้า สน.พญาไท ซึ่งจะทำให้ประชาชนทั่วไปเดือดร้อน และจะส่งตัวฝากขังที่ศาลตอนเช้า พร้อมทั้งเข้าพูดคุยกับผู้ถูกจับกุมทั้งหมดโดยไม่ให้ทนายความอยู่ร่วม

เบื้องต้น พ.ต.อ.บวรภพ สุนทรเรขา ผกก.สน.พญาไท แจ้งกับทนายความว่า จะแยกสอบปากคำที่ สน.พญาไท, ตลิ่งชัน และห้วยขวาง โดยจะแจ้งข้อหาทีมวีโว่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 และ 216 รวมทั้งให้เตรียมหลักทรัพย์ประกันตัวคนละ 50,000 บาท

เวลาประมาณ 00.30 น. ทนายความจึงได้เข้าพูดคุยกับโตโต้และเพื่อน จากนั้นทนายความแจ้งต่อ ผกก.สน.พญาไท ทั้งหมดยืนยันให้ตำรวจทำบันทึกจับกุมและสอบปากคำที่ สน.พญาไท ซึ่งเป็น สน.ที่มีรับผิดชอบพื้นที่เกิดเหตุ ไม่ยินยอมไป สน.อื่น หากตำรวจจะใช้อำนาจแยกไปสอบสวนที่ สน.อื่น ก็ให้ลงบันทึกประจำวันไว้ว่า ผู้ถูกจับถูกควบคุมตัวไปสอบสวนไม่ได้เต็มใจไป รวมทั้งจะไม่ขอประกันตัวในชั้นสอบสวน ยกเว้นพนักงานสอบสวนจะปล่อยโดยไม่มีหลักประกัน

ขณะที่ด้านหน้า สน.พญาไท มีประชาชนมารวมตัวกันให้กำลังใจทีมวีโว่ เวลาประมาณ 01.20 น. ผกก.สน.พญาไท เข้าแจ้งกับทีมทนายความและผู้ถูกจับกุมว่า จะสอบสวนที่ สน.พญาไท ทั้งหมด และจะปล่อยตัวโดยไม่ต้องใช้หลักประกัน หลังจากก่อนหน้านี้ ผกก.เสนอให้ทนายความยื่นประกันโดยใช้ตำแหน่ง ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่เข้าร่วมสังเกตการณ์กระบวนการอยู่ด้วยในขณะนั้น แต่ผู้ถูกจับกุมยืนยันไม่ประกันตัว

เวลาประมาณ 04.30 น. กระบวนการพิมพ์ลายนิ้วมือ ทำบันทึกการจับกุม แจ้งข้อกล่าวหา และยื่นประกันตัวจึงเสร็จสิ้น โดยทั้งหมดไม่ลงชื่อในบันทึกจับกุม เนื่องจากมีข้อความที่ไม่ตรงความจริง

ทั้งนี้ บันทึกการจับกุมระบุพฤติการณ์การจับกุมว่า “เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2553 เวลา 21.00 น. เจ้าหน้าที่ตํารวจได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุรามาว่ามีกลุ่มคนกําลังรื้อถอนลวดหีบเพลงและแผงกั้นซึ่งเป็นของทางราชการ จัดตั้งไว้เพื่อป้องกันเหตุ บริเวณแยกอุรุพงษ์ ถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ จึงได้นําเรียนผู้บังคับบัญชาและเดินทางไปตรวจสอบพบกลุ่มบุคคลจํานวนประมาณ 50 คนชุมนุมอยู่บริเวณดังกล่าว โดยกลุ่มผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งกําลังรื้อถอนลวดหีบเพลงและแผงกั้นเหล็กออกจากจุดดังกล่าว จากการตรวจสอบกลุ่มคนดังกล่าวมิใช่เจ้าหน้าที่ทางราชการผู้มีอํานาจรื้อถอนหรือดําเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินดังกล่าว

ต่อมาได้มีกลุ่มประชาชนได้มาบริเวณดังกล่าวมากขึ้น จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตํารวจควบคุมฝูงชนและเจ้าหน้าที่ตํารวจ สน.พญาไท ได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุและป้องกันเหตุสุดวิสัยโดยได้มีการเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ออกจากพื้นที่ และให้ผู้ที่ทํารื้อถอนทรัพย์สินลวดหีบเพลงและแผงเหล็กวางทรัพย์สินไว้ที่เกิดเหตุ แต่กลุ่มผู้ชุมนุมขัดขืนไม่ปฏิบัติตามและไม่ยินยอมวางทรัพย์สินไว้ที่เกิดเหตุ โดยพยายามนําทรัพย์สินดังกล่าวออกจากที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงได้เข้าทําการจับกุมกลุ่มผู้ชุมนุมที่ขัดขืนและไม่ปฏิบัติตามคําสั่งเจ้าพนักงาน โดยสามารถจับกุมได้จํานวน 19 คน โดยระหว่างเจ้าหน้าที่ตํารวจทําการจับกุมกลุ่มผู้ถูกจับกุมได้ต่อสู้ ขัดขวางไม่ยินยอมให้จับกุม แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตํารวจจับกุมไว้ได้”

พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ถูกจับกุมทั้ง 19 ว่ากระทําความผิดฐาน “ร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยใช้กําลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กําลังประทุษร้าย หรือกระทําการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง, ร่วมกันไม่เลิกมั่วสุมเพื่อกระทําความผิดตามมาตรา 215 เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้ผู้ที่มั่วสุมเลิกไป, ร่วมกันต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติตามหน้าที่ และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่”

ทีมวีโว่ผู้ถูกจับกุมทั้ง 19 คน ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยจะยื่นให้การเป็นหนังสือในวันที่ 28 ธ.ค. 2563 พนักงานสอบสวนให้ประกันตัวโดยไม่มีหลักประกัน และนัดรายงานตัวในวันที่ 28 ธ.ค. เช่นเดียวกัน

เวลา 05.20 น. ผู้ถูกจับกุมทั้งหมดจึงได้รับการปล่อยตัว แยกย้ายกันออกจาก สน.พญาไท

2 คน ถูกทำร้ายขณะจับกุม

ทั้งนี้ มีข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในจำนวนผู้ถูกจับกุมดำเนินคดีทั้ง 19 คน นอกจากเป็นทีมการ์ดวีโว่แล้ว ยังมี 1 ราย เป็นประชาชนที่ทราบข่าวกิจกรรมจากเฟซบุ๊กของ We Volunteer จึงเดินทางมาสมทบภายหลังและถูกจับกุมด้วย อีกทั้ง 8 ราย ยังเป็นนักเรียนหรือนักศึกษา

นอกจากนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกทำร้ายในระหว่างการเข้าจับกุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ จำนวน 2 ราย มีข้อมูลเบื้องต้นดังนี้

1. เดชา (นามสมมติ) อายุ 21 ปี ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 ในมหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง

เวลา 22.00 น. เดชาเดินทางมาบริเวณแยกอุรุพงศ์ร่วมกับเพื่อนอีก 2 คน โดยเขายังไม่ได้ร่วมเข้ารื้อลวดหนาม แต่ได้พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ ตชด. ล้อมเพื่อนการ์ดกลุ่มใหญ่ไว้อยู่ จึงพยายามจะเข้าไปหากลุ่มเพื่อนในวงล้อม ก่อนที่ตำรวจจะมีการประกาศเรื่องการห้ามเคลื่อนย้ายลวดหนามทั้งหมด เพราะเป็นของหลวง และใครไม่เกี่ยวข้อง ขอให้ออกจากบริเวณนี้ ก่อนเจ้าหน้าที่จะมีการกดดันทีมการ์ดให้เข้าไปในซอย

เดชาระบุว่าระหว่างนั้นเขาได้ถูกเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบไม่ทราบหน่วยและสังกัดมากระชากตัว ก่อนมีเจ้าหน้าที่รวมประมาณ 4-5 นาย มาล็อกคอไว้ประมาณ 2-3 นาที และช่วยกันลากตัวเขา โดยมีการนำกุญแจมือเหล็กมาล็อกข้อมือเขา โดยระหว่างที่ล็อกลงพื้นนี้ เขายังรู้สึกว่ามีเท้ามาเตะเข้าที่ใบหน้าด้วย โดยเดชาไม่ได้โต้ตอบใดๆ ต่อเจ้าหน้าที่ โดยคิดว่าเขาถูกจับกุมตัวเป็นคนแรก

เมื่อถูกพาตัวมาถึง สน.พญาไท ทีมการ์ดผู้จับกุมคนอื่นๆ ซึ่งไม่ได้ถูกใส่กุญแจมือ และผู้ติดตามมาให้กำลังใจได้ช่วยกันเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ถอดกุญแจมือออก ทางตำรวจจึงยินยอมไขกุญแจออกจากข้อมือเขา

2. ณรงค์ชัย อายุ 31 ปี เป็นกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ

เวลา 21.00 น. ณรงค์ชัยเผยว่าได้เห็นไลฟ์สดในเฟซบุ๊กกรณีทีมการ์ด Wevo เก็บลวดหนามบริเวณแยกอุรุงพงศ์ จึงได้เดินทางมาร่วมราว 22.00 น.

ต่อมาได้พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาล้อมทีมการ์ดอยู่ โดยกล่าวหาว่าทีมการ์ดกระทำผิดเรื่องลักทรัพย์ ตนได้พยายามเข้าไปช่วยกันน้องทีมการ์ด แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่เข้ามากระชาก ล็อกแขน และถูกต่อยที่ใบหน้าและที่ต้นคอ ประมาณ 2-3 ครั้ง ก่อนจะถูกพาตัวขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหาของทางตำรวจ มายัง สน.พญาไท ด้วย

ผู้ถูกจับกุมที่เป็นนักศึกษาอีกรายยังให้ข้อมูลว่า ถูกเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบหัวเกรียน สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ ใส่แมสค์ดำ ใช้มือผลักอกตนเองขณะเข้าจับกุม ทำให้ตนเองตกใจ และจุกชั่วขณะ แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บ

ลำดับเหตุการณ์เก็บกู้ลวดหนามและการจับกุม (อ้างอิงบางส่วนจากประชาไท)

21.00 น. การ์ดอาสาวีโว่เข้าเก็บลวดหนามและรั้วสังกะสีใต้สะพานข้ามแยกอุรุพงษ์ หลังประกาศผ่านเพจ We Volunteer หลังเริ่มกิจกรรมตำรวจนำแผงเหล็กเข้าปิดกั้นเส้นทางบางส่วน

21.45 น. พ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (บก.น.1) เดินเข้าจับแผงเหล็กกั้นถนนเปิดออก รวมทั้งสั่งให้กลุ่มการ์ดที่เฝ้าอยู่เปิดถนนและให้นำลวดหนามและรั้วสังกะสีไว้ข้างทาง เจ้าหน้าที่จะมาเก็บในภายหลัง ปิยรัฐยืนยันจะเก็บเอง พร้อมกับตั้งแนวกั้นตำรวจ ที่กำลังจะเข้ามายึดคืนพื้นที่

ราว 22.00 น. ปิยรัฐให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวในพื้นที่ว่า ตอนนี้ตำรวจประมาณ 1 กองร้อยกำลังล้อมพื้นที่ไว้และกำลังเพิ่มกำลังพล

ต่อมามีการเจรจากันโดยปิยรัฐยืนยันว่า มีชาวบ้านแจ้งผ่านทางเพจและเขาได้แจ้งต่อสาธารณะแล้วว่า จะมาเก็บที่จุดนี้ตั้งแต่ 21.00 น. ให้ตำรวจมาเก็บ ถ้าไม่มาจะเอาไปคืนถึงที่ ด้าน พ.ต.อ.อรรถวิทย์ ระบุว่าสิ่งที่ปิยรัฐทำผิดกฎหมาย

ขณะที่ปิยรัฐ ระบุว่าทางตำรวจจะดำเนินคดีกับทีมวีโว่ทั้งหมด โดยที่ ปิยรัฐ ยืนยันว่าไม่มีเจตนาจะยึดครองลวดหนามแต่ต้องการส่งคืนเจ้าของเท่านั้น

จากนั้นราว 22.20 น. พ.ต.อ.อรรถวิทย์แจ้งว่า เบื้องต้นจะแจ้งร่วมกันลักทรัพย์ ด้านปิยรัฐตอบว่า ฝั่งตนจะแจ้ง ม.157 กลับเหมือนกัน

ต่อมาเวลา ราว 22.40 น. ตำรวจใช้เครื่องขยายเสียงประกาศว่า สิ่งของเป็นของหลวง ใครไม่เกี่ยวข้องขอให้ออกจากบริเวณนี้ ให้เวลา 5 นาทีให้เคลื่อนย้ายออกจากบริเวณนี้ อุปกรณ์เป็นสิ่งของราชการ แต่ไม่ถึง 5 นาที เจ้าหน้าที่เดินไล่กลุ่มการ์ดที่รวมตัวอยู่ใน ซ.เพชรบุรี 2 เข้าไปด้านใน ช่วงจังหวะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการล็อคตัวจับกุมการ์ดไป 2 ราย ทำให้ปิยรัฐและกลุ่มการ์ดรวมตัวกันเดินกลับมาปากซอย เพื่อให้ตำรวจจับกุม

23.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวกลุ่มการ์ดอีก 17 คน รวมทั้งปิยรัฐนำตัวไป สน.พญาไท