ในวันที่ 8 ธันวาคม 2563 เวลา 9.00 น. เป็นต้นไป นางสาวสิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ จะไปให้การกับตุลาการผู้ไต่สวนคดีศาลกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ตามหมายเรียกคดีอาญาหมายเลข 4832 ในคดีที่นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ น้องชาย ซึ่งเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองจากประเทศไทย ได้ถูกคนร้ายใช้อาวุธบังคับขึ้นรถยนต์และหายไป เหตุเกิดกลางกรุงพนมเปญ เวลาบ่ายสี่โมงเศษเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2563
จนถึงบัดนี้ นับเป็นเวลา 6 เดือนเศษแล้วที่ทางการกัมพูชาและทางการไทย ซึ่งมีหน้าที่ในการคุ้มครองคนไทยแม้อยู่ในต่างแดน ยังไม่สามารถให้คำตอบกับญาติและสังคมไทยเกี่ยวกับชะตากรรมของนายวันเฉลิมได้ ทั้งนี้นายวันเฉลิมได้พักอาศัยอยู่ในกรุงพนมเปญมาตั้งแต่เขาหลบหนีภัยการเมืองออกมาจากประเทศไทย หลังรัฐประหารโดยกองทัพไทยเมื่อปี พ.ศ. 2557 โดยเขายังมีบทบาทในการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลทหารและกองทัพไทยอย่างต่อเนื่อง
หลังจากนายวันเฉลิมถูกบังคับให้หายตัวไปและไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินการสืบสวนสอบสวนของทางการไทย นางสาวสิตานันจึงได้ให้ทนายความกัมพูชายื่นคำร้องต่ออัยการกัมพูชาให้เสนอเรื่องให้ศาลกรุงพนมเปญไต่สวนคดีนี้ ตามกระบวนการดำเนินคดีอาญาของกัมพูชาที่ใช้ระบบไต่สวน กล่าวคือ เมื่อมีการกระทำความผิดอาญาเกิดขึ้นและได้รับหนังสือร้องทุกข์จากผู้เสียหาย พนักงานอัยการ (Royal Prosecutor) มีอำนาจดำเนินการสอบสวนคดีได้ เมื่อได้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำผิดตามสมควรแล้ว จะยื่นเรื่องต่อตุลาการผู้ไต่สวนคดี (Investigating Judge) โดยตุลาการผู้ไต่สวนคดีก็จะทำหน้าที่ไต่สวนให้ได้ข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำผิดและตัวผู้กระทำผิด
นางสาวสิตานันได้เดินทางมากรุงพนมเปญตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน 2563 พร้อมกับทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนและทนายความจากมูลนิธิผสานวัฒนธรรม จากการปรึกษาหารือกับทนายความกัมพูชา ในวันที่ 8 ธันวาคมดังกล่าว นางสาวสิตานันสามารถให้การต่อตุลาการผู้ไต่สวนคดีได้ทั้งโดยวาจาและจัดส่งเอกสารเกี่ยวกับข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานต่างๆ ประกอบ เพื่อยืนยันว่าวันเฉลิมได้อยู่อาศัยในกรุงพนมเปญ และได้ถูกคนร้ายใช้กำลังบังคับให้สูญหายไปจากหน้าคอนโดมีเนียมที่เขาพักอาศัยอยู่ นับตั้งแต่ที่เขาได้ลี้ภัยการเมืองมาจากประเทศไทย แม้ในขณะนี้ไม่สามารถระบุตัวคนร้ายได้ก็ตาม
นางสาวสิตานัน กล่าวว่า “ขอขอบคุณตุลาการศาลกัมพูชาที่ได้มีหมายเรียกให้มาให้การ ดิฉันเชื่อมั่นว่ามีข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานต่างๆ ที่สามารถยืนยันว่าวันเฉลิมพักอาศัยในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา และถูกกลุ่มบุคคลที่ใช้อาวุธบังคับตัวขึ้นรถสูญหายไป โดยนายวันเฉลิมไม่มีสาเหตุขัดแย้งกับผู้ใดทั้งในเรื่องส่วนตัวและธุรกิจในประเทศกัมพูชา แต่นายวันเฉลิมยังคงวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล คสช. นายพลในกองทัพ และรัฐบาลปัจจุบันของไทยมาโดยตลอด”
“เนื่องจากอาชญากรรมร้ายแรงนี้เกิดขึ้นข้ามแดนในดินแดนของประเทศกัมพูชา จากข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่มีอยู่ ดิฉันขอเรียกร้องให้ทางการกัมพูชาดำเนินการด้วยความเต็มใจ และจะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการสืบสวนสอบสวนเพื่อคลี่คลายคดีนี้ ดิฉันและครอบครัวหวังว่าจะได้รับความยุติธรรม ทราบชะตากรรมของนายวันเฉลิม และทางการกัมพูชาจะนำตัวผู้กระทำผิดจริงมาดำเนินคดีได้ในไม่ช้า” นางสาวสิตานัน กล่าว