วันที่ 8 พ.ย. 63 ที่สถานีตำรวจภูธรแม่กา จังหวัดพะเยา “เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชน ซึ่งได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากกิจกรรม #คนพะเยาบ่เอาแป้ง หน้ามหาวิทยาลัยพะเยา เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 63
ภาพจากทวิตเตอร์ @tanawatofficial
เมื่อทั้งสองเดินทางถึง สภ.แม่กา พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เพียงข้อหาเดียว โดยระบุว่า ผู้ต้องหาได้ร่วมกันทำกิจกรรมปราศรัยกล่าวโจมตีการทำงานของรัฐบาล ที่บริเวณหน้าป้ายมหาวิทยาลัยพะเยา เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 63 เวลา 17.00 น. และมีผู้เข้าชุมนุมประมาณ 200 คน ในลักษณะแออัด ไม่มีการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด ไม่มีการคัดกรองผู้ร่วมชุมนุม ไม่มีการเว้นระยะห่าง ตามมาตรการป้องกันโรค และการจัดกิจกรรมเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย
ผู้ต้องหาทั้งสองได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยที่อานนท์ให้การเบื้องต้นเกี่ยวกับคดีนี้ระหว่างการสอบปากคำกับพนักงานสอบสวนโดยสรุปว่า หน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยและคัดกรองป้องกันโรคเป็นของเป็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ, ผู้ร่วมการชุมนุมได้ใช้ความระมัดระวังป้องกันโรคตามสมควรแล้ว โดยพื้นที่กิจกรรมเป็นพื้นที่โล่งกว้างไม่แออัด ประกอบกับช่วงเกิดเหตุในคดีนี้ไม่ปรากฎว่ามีการติดเชื้อโรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดพะเยาหรือประเทศไทย, การปราศรัยโดยนักเรียน นักศึกษาที่เกิดขึ้นก็เป็นไปตามกรอบกฎหมาย สุดท้ายคือ ผู้ต้องหาไม่ได้ปราศรัยและไม่ใช่ผู้จัดกิจกรรม จึงไม่มีหน้าที่ในการคัดกรองบุคคล แต่เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องจัดการในส่วนนี้ ส่วนของนายพริษฐ์ไม่ประสงค์ให้การใดๆ ต่อพนักงานสอบสวน หรือหากมีจะขอยื่นเป็นเอกสารในภายหลัง
หลังจากรับทราบข้อกล่าวหาแล้วพนักงานสอบสวนได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อส่งไปตรวจสอบประวัติอาชญากรรม แต่พริษฐ์ไม่ยินยอมพิมพ์ลายนิ้วมือเนื่องจากเห็นว่าพนักงานสอบสวนสามารถดำเนินการด้วยวิธีการอื่นได้ พนักงานสอบสวนชี้แจงว่าจะเป็นความผิดตามกฎหมาย เรื่องขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน หลังพูดคุยกันครู่หนึ่งพริษฐ์ไม่อยากให้เกิดความยุ่งยากทางคดีจึงยอมพิมพ์ลายนิ้วมือ
ตลอดการแจ้งข้อกล่าวหามีการตั้งกล้องบันทึกวิดีโอทนายความและผู้ต้องหาระหว่างการสอบสอบไว้ตลอด อีกทั้งตลอดกระบวนการในชั้นพนักงานสอบสวนวันนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบหลายนายคอยถ่ายภาพผู้ต้องหา ทนายความและผู้ติดตามไว้เป็นระยะด้วย และบรรยากาศโดยรอบ สภ.แม่กา ก็มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบราว 10 นาย ติดตามถ่ายภาพผู้ต้องหาไว้ตั้งแต่เดินทางมาถึง
เจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบบริเวณด้านหน้าสภ.แม่กา
หลังรับทราบข้อกล่าวหาแล้วพนักงานสอบสวนได้นัดหมายเพื่อส่งสำนวนการสอยสวนให้อัยการวันที่ 23 พ.ย. 63 แต่พริษฐ์แจ้งว่าไม่สามารถเดินทางมาตามนัดได้เนื่องจากเป็นช่วงสอบของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พนักงานสอบสวนยืนยันลงวันนัดหมายไว้ พริษฐ์จึงกล่าวว่าหากไม่สะดวกเดินทางมาก็จะทำหนังสือแจ้งมาเป็นหลักฐานต่อพนักงานสอบสวนอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้ขอให้ทนายความประสานงานกับนายชินภัทร วงค์คม บัณฑิตจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา, นายธนวัฒน์ วงศ์ไชย นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและนายศิริวัฒน์ จุปะมัดถา อดีตแกนนำคนเสื้อแดงในจังหวัดพะเยา ผู้ต้องหา 3 คนที่รับทราบข้อกล่าวหาก่อนหน้านี้เดินทางมาในวันเดียวกันด้วย จากเดิมที่ได้นัดผู้ต้องหาทั้งสามคนก่อน ไว้ในวันที่ 24 พ.ย. 63