แถลงการณ์  ขอให้ปล่อยตัวนางสาวกริชสุดา คุณะแสนในทันที

แถลงการณ์ ขอให้ปล่อยตัวนางสาวกริชสุดา คุณะแสนในทันที

แถลงการณ์

 ขอให้ปล่อยตัวนางสาวกริชสุดา คุณะแสนในทันที

                                     เผยแพร่วันที่ 21 มิถุนายน 2557

ตามที่ปรากฏว่า น.ส. กริชสุดา คุณะแสน  ถูกควบคุมตัวตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม 2557  จากจังหวัดชลบุรีโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร โดยระหว่างการควบคุมตัวไม่มีบุคคลใดสามารถติดต่อน.ส. กริชสุดาได้และไม่ทราบว่า น.ส. กริชสุดา ควบคุมตัวอยู่ที่ใด ต่อมาเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2557  มีการเรียกนางสาวกริชสุดา ให้ไปรายงานตัวตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับที่ 68/2557 ทั้งที่ยังไม่ปรากฏว่ามีการปล่อยตัว น.ส.กริชสุดา และยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ ต่อมาเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2557 พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ได้ออกมายอมรับว่ามีการควบคุมตัว น.ส. กริชสุดา จริงนั้น

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน มีความกังวลและเห็นว่าการกระทำดังกล่าวของเจ้าหน้าที่เป็นการใช้อำนาจโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและละเมิดต่อหลักการพื้นฐานด้านสิทธิมนุษยชนด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

1. การควบคุมตัว น.ส. กริชสุดา จนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 24 วัน โดยไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหานั้น เกินกว่าระยะเวลาตามมาตรา15 ทวิ พ.ร.บ.กฎอัยการศึก พ.ศ. 2447 ซึ่งให้อำนาจกักตัวบุคคลไว้ได้เพียงเท่าที่จำเป็นแต่ต้องไม่เกิน 7 วัน ดังนั้น การควบคุมตัว น.ส.กริชสุดาตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน 2557 เป็นต้นมาจึงเป็นการควบคุมตัวโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่ดำรงอยู่อย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยที่ น.ส. กริชสุดา ยังคงอยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ทหาร

การที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งเรียก น.ส.กริชสุดา ไปรายงานตัวในวันที่ 17 มิถุนายน 2557 จึงเป็นการซ้ำซ้อน คำสั่งดังกล่าวจึงไม่มีผลบังคับกับ น.ส.กริชสุดา ได้อีก  เจ้าหน้าที่จึงไม่มีอำนาจใดๆ ในการควบคุมตัว น.ส.กริชสุดาอีกต่อไป

แม้การควบคุมตัวดังกล่าวจะอาศัยอำนาจตามกฎอัยการศึก  แต่เมื่อฟังได้ว่าเจ้าหน้าที่ใช้อำนาจโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย  ละเมิดสิทธิเสรีภาพของบุคคล   เจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมตัวหรือหน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ที่ใช้อำนาจควบคุมตัวบุคคล  ย่อมมีความรับผิดตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539  โดยไม่อาจปฏิเสธได้ตามกฎหมาย  และบุคคลที่ถูกควบคุมตัวดังกล่าวต้องได้รับการเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น

2. การละเมิดสิทธิมนุษยชนในรูปแบบที่เลวร้ายที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการละเมิดสิทธิในชีวิต การซ้อมทรมาน และการบังคับให้บุคคลสูญหาย มักเกิดขึ้นในภาวะที่บุคคลถูกทำให้สูญเสียอิสรภาพ ดังนั้น แม้เป็นการควบคุมตัวบุคคลโดยอาศัยอำนาจตามกฎอัยการศึก หลักการสิทธิมนุษยชนสากลจึงกำหนดให้ยังต้องคงไว้ซึ่งหลักประกันขั้นพื้นฐานที่สุดเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและร่างกายของผู้ถูกควบคุมตัว กล่าวคือ กล่าวคือ สถานที่ควบคุมตัวจะต้องเป็นสถานที่เปิดเผย ห้ามการควบคุมตัวในสถานที่ลับ และรัฐต้องแจ้งการควบคุมตัวและให้ญาติสามารถเยี่ยมได้ทันที

อย่างไรก็ตาม ปรากฎว่า คสช. กลับปฏิเสธที่จะเปิดเผยสถานที่ควบคุมตัว น.ส. กริชสุดา ทั้งยังไม่อนุญาตให้พบทนายความ และไม่ปรากฎว่าได้รับอนุญาตให้ติดต่อญาติหรือมีบุคคลอื่นใดสามารถติดต่อ น.ส.กริชสุดา ได้แต่อย่างใด และไม่มีความชัดเจนว่า น.ส. กริชสุดา จะได้รับการปล่อยตัวเมื่อใดแม้จะควบคุมตัวเกิน 7 วันตามที่กฎอัยการศึกอนุญาตแล้วก็ตาม

ภาวการณ์ดังกล่าวจึงเป็นที่น่าห่วงกังวลอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยในชีวิตและร่างกายของ น.ส. กริชสุดา เนื่องจากการควบคุมตัวในสถานที่ลับโดยไม่มีกำหนดระยะเวลา (secret and indefinite detention) นอกจากไม่ชอบด้วยกฎหมาย หลักนิติธรรม และหลักสิทธิมนุษยชน ยังสุ่มเสี่ยงต่อการก่อให้เกิดการทรมานอันเป็นการละเมิดต่ออนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรีซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีและมีพันธกรณีในการกำหนดการป้องกันมิให้เกิดการละเมิดอนุสัญญาดังกล่าว

3. เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า น.ส. กริชสุดา ไม่ได้รับการปล่อยตัว แต่เจ้าหน้าที่ทหารกลับยังควบคุมตัว น.ส.กริชสุดา ต่อไปโดยไม่มีกฎหมายใดให้อำนาจ ทั้งยังไม่มีการนำตัว น.ส. กริชสุดา มาส่งยัง พนง.สอบสวน เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา จึงเป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัว น.ส. กริชสุดาฯ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และละเมิดต่อพันธกรณีของไทยตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ข้อ 9 ซึ่งรับรองว่าบุคคลมีสิทธิในเสรีภาพและความปลอดภัยในร่างกายและจะถูกจับกุมหรือควบคุมโดยอำเภอใจมิได้ และในขณะจับกุมต้องได้รับแจ้งถึงเหตุผลในการจับกุมและต้องได้รับแจ้งข้อหาที่ถูกจับกุมโดยพลัน

.

ด้วยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายดังกล่าวศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนจึงขอเรียกร้องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติดำเนินการดังต่อไปนี้

1.ปล่อยตัว น.ส. กริชสุดา คุณะแสน โดยทันที พร้อมทั้งชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากการควบคุมตัวโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากเป็นการควบคุมตัวเกินกว่า 7 วัน โดยไม่มีกฎหมายอนุญาตให้กระทำได้

2.แจ้งสถานที่ควบคุมตัวของผู้ไปรายงานตัว และผู้ถูกกักตัวทุกราย พร้อมทั้งให้ญาติสามารถเข้าเยี่ยมได้ในทันที และตลอดช่วงเวลาที่ถูกควบคุมตัว ทั้งนี้เพื่อความโปร่งใส ลดความห่วงกังวล และเพื่อเป็นหลักประกันสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล

ด้วยความเคารพต่อสิทธิเสรีภาพ

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

X