นักศึกษาผู้จัดชุมนุม #คนเจียงฮายก้ายคนง่าวบ่เอาคนหลายใจ รับทราบ 5 ข้อหา ให้การปฏิเสธ

วันที่ 24 ส.ค. 63 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงราย “นัท” (ไม่ประสงค์เปิดเผยชื่อสกุล) นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย ผู้จัดกิจกรรม #คนเจียงฮายก้ายคนง่าวบ่เอาคนหลายใจ เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 63 บริเวณหอนาฬิกาจังหวัดเชียงราย ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก โดยตำรวจแจ้ง 5 ข้อกล่าวหา  ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธและจะขอให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือในภายหลัง

ภาพผู้ต้องหาระหว่างถูกพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อนำไปตรวจสอบประวัติอาชญากรรม

วันนี้ นัท พร้อมด้วยทนายความ ได้เดินทางเข้าไปพบ ร.ต.อ. ศรีเดช สุวรรณ์ รองสารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงราย เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก โดยคดีมี พ.ต.ท.เทพสวัสดิ์ สุภาวรรณ เป็นผู้กล่าวหา

พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าจากการที่ผู้ต้องหากับพวก ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมือง เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 63 บริเวณหอนาฬิกาจังหวัดเชียงราย ในชื่อ “คนเจียงฮายก้ายคนง่าวปเอาคนหลายใจ” โดยได้นำรถยนต์บรรทุกหกล้อ บรรทุกเครื่องขยายเสียงเป็นเวทีปราศรัยเคลื่อนที่ จอดไว้บริเวณกลางถนนกีดขวางการจราจร ผู้ต้องหากับพวกได้ขึ้นกล่าวปราศรัยโจมตีการทํางานของรัฐบาล ปัญหาเศรษฐกิจ การดําเนินคดีที่ไม่เป็นธรรม โดยมีการเสนอข้อเรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ยุบสภา และไม่ดำเนินคดีกับผู้ชุมนุม ผู้กล่าวหาและพนักงานสอบสวนเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดใน 5 ข้อกล่าวหาจากกฎหมาย 4 ฉบับ ได้แก่

  1. “ร่วมกันจัดให้มีการชุมนุม การทํากิจกรรมหรือการมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัดหรือกระทําการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ทั้งนี้ภายในเขตพื้นที่ที่หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคงประกาศกําหนด” ตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ. 2548
  2. “เป็นบุคคลที่เป็นหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็น โรคติดต่ออันตราย ฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงราย” ตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558
  3. “ร่วมกันวาง ตั้ง ยื่น หรือแขวนสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือกระทําด้วยประการใดๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจร เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากเจ้าพนักงานจราจร ตามพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 114
  4. “กระทําด้วยประการใดๆ บนทางเท้า หรือทางใดๆ ซึ่งจัดไว้สําหรับคนเดินเท้าในลักษณะที่เป็นการกีดขวางผู้อื่นโดยไม่มีเหตุอันสมควร” ตามพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 109
  5. “ร่วมกันทําการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกําลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามพ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. 2493

เมื่อผู้ต้องหาได้รับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และขอให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือต่อพนักงานสอบสวนในภายหลัง ด้านพนักงานสอบสวนไม่มีการควบคุมตัวผู้ต้องหาระบุเพียงหากจะทำการส่งสำนวนคดีและตัวผู้ต้องหาให้พนักงานอัยการพิจารณา จะประสานงานผ่านทนายความของผู้ต้องหาอีกครั้ง

 

ทั้งนี้ คดีจากการชุมนุม#คนเจียงฮายก้ายคนง่าวบ่เอาคนหลายใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการออกหมายเรียกผู้ต้องหามาดำเนินคดีหนึ่งราย และเป็นที่น่าสังเกตว่าหลังการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอกเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 63 ในพื้นที่ต่างจังหวัด มีรายงานการดำเนินคดีเกิดขึ้นในภาคเหนือเป็นหลัก คือมีการดำเนินคดีพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ กับผู้จัดและผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย ลำปาง และพะเยา

 

X