วันที่ 23 ก.ค. 63 นายประสิทธิ์ ครุธาโรจน์ นักศึกษาชั้นปีที่ 6 สาขาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้รับหมายเรียกในข้อกล่าวหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากการทำกิจกรรมแฟลชม็อบ #คนเชียงใหม่จะไม่ทนtoo บริเวณประตูท่าแพ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา, ให้เจ้าหน้าที่รัฐหยุดคุกคามประชาชนในรูปแบบต่างๆ และให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 63
วันนี้ นายประสิทธิ์เปิดเผยว่าได้รับหมายเรียกผู้ต้องหา ลงวันที่ 21 ก.ค. 63 ส่งไปถึงบ้านของเขาโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ในจังหวัดกำแพงเพชร ในหมายเรียกระบุข้อกล่าวหา “ร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรม หรือมั่วสุม ณ ที่ใดๆ อันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบ” โดยมี พ.ต.ท.มนัสชัย อินทร์เถื่อน รองผู้กำกับสืบสวนสภ.เมืองเชียงใหม่ เป็นผู้กล่าวหา
หมายเรียกระบุให้ผู้ต้องหาเข้ารับทราบข้อกล่าวหากับ พ.ต.ท.สมยศ วังเวียง รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ในวันที่ 29 ก.ค. 63 เวลา 9.30 น.
เบื้องต้น ประสิทธิ์ระบุว่าจากการสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่ามีนักศึกษาถูกออกหมายเรียกรวม 4 ราย โดยปัจจุบันทราบรายชื่อผู้ถูกกล่าวหามีนายประสิทธิ์ ครุธาโรจน์ และนายธนาธร วิทยเบญจางค์ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 ของคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยจะพิจารณาเรื่องวันที่จะเข้ารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป
ดูลำดับเหตุการณ์การชุมนุม น.ศ.-ปชช.ชุมนุมเรียกร้องยุบสภาประตูท่าแพ ตร.เตือนฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 3 รอบ ท่ามกลางเสียงโห่
ทั้งนี้นับตั้งแต่มีการประกาศใช้อำนาจ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และกำหนดมาตรการต่างๆ ออกมา ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเคยมีข้อสังเกตเกี่ยวกับมาตรการห้ามชุมนุม และการจัดกิจกรรม ในข้อกำหนดข้อ 5 ซึ่ง “ห้ามมิให้มีการชุมนุม การทำกิจกรรม หรือ การมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัด หรือกระทำการดังกล่าว อันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย” อาจเป็นการอาศัยอำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ กำหนดมาตรการที่เกินกว่าจำเป็นเพื่อป้องกันโรคระบาด เนื่องจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ นั้นให้อำนาจไว้อย่างกว้างขวางเพื่อให้ครอบคลุมสถานการณ์ที่เกี่ยวกับความมั่นคง แต่เมื่อนำมาใช้ในสถานการณ์การป้องกันโรคระบาดใหญ่นี้ รัฐต้องกำหนดเพียงเท่าที่จำเป็น เพื่อให้เหมาะสมกับการแก้ไขเหตุการณ์ตามประกาศเท่านั้น
จนถึงปัจจุบัน ศูนย์ทนายฯ พบว่ามีการดำเนินคดี ต่อการทำกิจกรรมชุมนุมทางการเมืองหรือแสดงความคิดเห็นต่อการทำงานของรัฐบาล โดยอาศัยข้อกำหนดดังกล่าวแล้วอย่างน้อย 8 คดี โดยมีคดีนี้เป็นคดีที่ 9 รวมผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดีทั้งหมดจนถึงปัจจุบัน 28 คน