จากกรณีเมื่อวานนี้ (17 สิงหาคม 2559) พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ได้ส่งหมายเรียกผู้ต้องหาไปยังนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ จากกรณีการจัดกิจกรรม “พูดเพื่อเสรีภาพรัฐธรรมนูญกับคนอีสาน?” ที่จัดขึ้นโดยกลุ่มพลเมืองคนรุ่นใหม่ ร่วมกับขบวนการประชาธิปไตยใหม่อีสาน (NDM) ภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 59 (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม)
ภาพกิจกรรม “พูดเพื่อเสรีภาพ รัฐธรรมนูญกับคนอีสาน?” ที่อาคารจตุรมุข คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อวันที่ 31 ก.ค.59
วันนี้ (18 สิงหาคม 2559) ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้เข้ายื่นหนังสือขอเลื่อนการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันขัดคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติตามหมายเรียก ต่อพนักงานสอบสวนสภ.เมืองขอนแก่น เนื่องจากนายจตุภัทร์ ยังถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำภูเขียวระหว่างการฝากขังในคดีแจกใบปลิวโหวตโนที่อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ จึงไม่สามารถที่จะเข้าพบตามหมายเรียกได้
ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนยังได้สอบถามพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าว เพื่อขอทราบชื่อผู้ถูกออกหมายเรียกคนอื่นๆ ในคดีด้วย จึงได้ทราบชื่ออีก 5 คนเพิ่มเติม ได้แก่ นายฉัตรมงคล เจนเชี่ยวชาญ นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นและสมาชิกกลุ่มดาวดิน, นายณรงค์ฤทธิ์ อุปจันทร์ นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นและสมาชิกกลุ่มพลเมืองคนรุ่นใหม่, น.ส.ณัฐพร อาจหาญ นักกิจกรรมขบวนการอีสานใหม่ แต่วันดังกล่าวไปในฐานะผู้สังเกตการณ์กิจกรรม ไม่ได้เป็นผู้จัดงาน, น.ส.ดวงทิพย์ ฆารฤทธิ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และน.ส.นีรนุช เนียมทรัพย์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รวมทั้งนายจตุภัทร์ รวมผู้ถูกออกหมายเรียกเป็นทั้งหมด 6 ราย
ทนายความจากศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชนจึงได้แจ้งแก่พนักงานสอบสวนเพิ่มเติมว่าผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ยังไม่ได้รับหมายเรียกจากพนักงานสอบสวน และเมื่อทราบเรื่องแล้วก็ประสงค์จะเข้าพบพนักงานสอบสวนพร้อมกับนายจตุภัทร์ จึงขอทำการเลื่อนการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาต่อพนักงานสอบสวนไปในคราวเดียวกันด้วย พนักงานสอบสวนจึงได้อนุญาตให้เลื่อนการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาไปเป็นวันที่ 31 สิงหาคม 59 เวลา 10.00 น. ตามที่ทนายความยื่นเรื่องไป
ทั้งนี้ ผู้ถูกออกหมายเรียก 2 ราย จากทั้งหมด 6 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ที่ไปสังเกตการณ์กิจกรรมในวันดังกล่าว โดยทั้งสองคนได้แขวนป้ายระบุสังกัดอย่างเปิดเผยในระหว่างสังเกตการณ์ อีกทั้ง เจ้าหน้าที่ทั้งทหารและตำรวจระดับหัวหน้าชุดปฏิบัติการในวันดังกล่าว ก็รับทราบเป็นอย่างดีว่า ทั้งสองคนไปทำหน้าที่สังเกตการณ์กิจกรรมและการละเมิดสิทธิมนุษยชน ไม่ได้เป็นผู้จัดหรือร่วมกิจกรรมดังกล่าวแต่อย่างใด ดังนั้น การออกหมายเรียกเจ้าหน้าที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เพื่อให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าว จึงถือได้ว่าเป็นการแสดงการคุกคามอย่างเปิดเผยต่อทั้งนักสิทธิมนุษยชนและประชาชนโดยทั่วไป
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
อีกคดี หมายเรียก ‘ไผ่ ดาวดิน’ ขัดคำสั่งหัวหน้า คสช. กรณีจัดกิจกรรมพูดเพื่อเสรีภาพ