17 มีนาคม 2563 – ศาลอาญาได้นัดพร้อมคู่ความในคดีของ “เสาร์” ผู้ป่วยจิตเวชที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มาเพื่อสอบถามความคืบหน้าเรื่องการทำสัญญาประกันตัว ซึ่งต้องทำใหม่หลังโอนย้ายคดีมาจากศาลทหาร โดยทนายจำเลยแถลงต่อศาลว่า ดำเนินการแล้วเสร็จไปเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2563
จากนั้นศาลได้ถามคำให้การของจำเลยอีกครั้ง นายเสาร์ยืนยันให้การปฏิเสธตามคำให้การเดิมที่ยื่นไว้ต่อศาลทหารกรุงเทพ ฉบับลงวันที่ 20 มิถุนายน 2559 ศาลยังถามคำให้การจำเลยเพิ่มเติมในส่วนที่อัยการศาลทหารเคยยื่นคำร้องขอแก้ไขคำฟ้องและคำขอท้ายฟ้อง เนื่องจากได้ตรวจสอบพบว่าจำเลยเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลเชียงใหม่ให้จำคุกฐานมียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครอง จึงขอให้ศาลเพิ่มโทษฐานกระทำผิดอีก ซึ่งนายเสาร์ให้การปฏิเสธเช่นกัน
ส่วนในการกำหนดวันนัดสืบพยานต่อจากศาลทหาร อัยการระบุว่า ไม่มีพยานโจทก์จะสืบเพิ่มเติม ด้านทนายจำเลยแถลงจะนำพยานเข้าสืบรวม 3 ปาก คือ ตัวจำเลย ญาติ และผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาศึกษา โดยนัดสืบพยานจำเลยในวันที่ 29 กรกฎาคม 2563 เวลา 9.00 น.
ทั้งนี้ การทำสัญญาประกันใหม่เมื่อวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา ศาลได้กำหนดเงื่อนไขในการปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยในระหว่างพิจารณา โดยห้ามเดินทางออกนอกประเทศ
เสาร์: เหยื่อมาตรา 112 ระหว่างการประกาศใช้กฎอัยการศึก
นายเสาร์ คือหนึ่งในกลุ่มของผู้ป่วยจิตเวชที่ถูกดำเนินคดีในฐานความผิดร้ายแรง กรณีของเสาร์เหตุในการถูกดำเนินคดีเกิดจากการที่เขาเขียนคำร้องยื่นต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ขอให้ช่วยทวงเงินคืนจากอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร นอกจากผู้พิพากษาศาลฎีกาฯ จะไม่รับคำร้องแล้ว ยังมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ศาลฯ ไปแจ้งความดำเนินคดีเสาร์ โดยระบุว่า คำร้องมีลักษณะดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ (อ่านความเป็นมาคดี) ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติมีประกาศให้ความผิดบางประเภทอยู่ในอำนาจพิจารณาคดีของศาลทหาร ทำให้คดีนี้ถูกพิจารณาโดยศาลทหาร และต่อมาก่อน คสช. ยุติบทบาท ได้มีการโอนย้ายคดีในศาลทหารไปยังศาลยุติธรรม โดยยังเหลือพยานจำเลยที่ศาลอาญาต้องดำเนินการสืบพยานต่อไป
บัณฑิต อาร์ณีญาญ์: มรดกคดีสมัย คสช. ที่กลายเป็นภาระของศาลยุติธรรม
ขณะเดียวกัน ในด้านคดีของ “บัณฑิต” อีกหนึ่งจำเลยในคดีฐานความผิดตามมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญา ศาลอาญา รัชดาฯ ได้นัดพร้อมคู่ความมาในวันนี้เพื่อถามคำให้การและกำหนดนัดฟังคำพิพากษา อย่างไรก็ตาม เนื่องจากจำเลยป่วย ไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ ศาลจึงได้เลื่อนนัดเป็นวันที่ 21 เมษายน 2563 แทน
ในคดีของบัณฑิตก็เช่นเดียวกัน ได้ดำเนินการทำสัญญาประกันใหม่หลังโอนย้ายคดีมายังศาลยุติธรรมแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยศาลได้กำหนดเงื่อนไขในการปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยในระหว่างพิจารณา คือ ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ
ก่อนหน้านี้ศาลทหารได้มีคำสั่งโอนย้ายคดีของ “สมอลล์” บัณฑิต อาร์ณีญาญ์ จำเลยในคดีหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ จำนวน 2 คดีมายังศาลยุติธรรม คดีแรกจากการพยายามตั้งคำถามและแสดงความเห็นเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ในงานเสวนาของพรรคการเมืองพรรคหนึ่งเมื่อปี 2557 ส่วนอีกคดีจากการแสดงความเห็นเกี่ยวกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่ควรบรรจุไว้ร่างรัฐธรรมนูญที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อปี 2558 โดยคดีที่ศาลนัดวันนี้เป็นคดีแรก ซึ่งมีการสืบพยานจนเสร็จสิ้น และศาลทหารกรุงเทพได้นัดฟังคำพิพากษาแล้ว ก่อนที่จะเลื่อนออกไป โดยระบุว่า เนื่องจากคดีมีประเด็นสำคัญต้องไตร่ตรอง จนกระทั่งต่อมา ศาลทหารสั่งงดการฟังคำพิพากษา และให้โอนย้ายคดีไปยังศาลยุติธรรม ตามที่มีคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 9/2562 ทำให้ศาลยุติธรรมต้องรับหน้าที่ในการทำคำพิพากษาทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เป็นฝ่ายสืบพยานตั้งแต่ต้น
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง:
สืบพยานคดี “เสาร์ ม.112” พยานเผยอ่านข้อความแล้วรู้สึก “หมิ่น” สืบพยานโจทก์ครั้งต่อไป 25 พ.ค.
ศาลอาญานัดสืบพยานต่อจากศาลทหารคดี 112 ‘สิรภพ’ พ.ย.นี้-ยังไม่นัดฟังคำพิพากษา ‘ลุงบัณฑิต’
คดี 112 “ลุงบัณฑิต” แสดงความเห็นเวทีปฏิรูป ยังค้างคำพิพากษา เหตุขาดเอกสารประกันตัว
ศาลนัดคดี 112 อีก 2 คดี – “ลุงบัณฑิต” สืบพยานปลายปี ขณะ “ฤาชา” รอจิตแพทย์วินิจฉัย