21 ก.พ. 63 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยรายงานความคืบหน้าของการดำเนินคดีจากกรณี
#วิ่งไล่ลุงใน 4 พื้นที่ ประกอบด้วย จ.นครสวรรค์ , บุรีรัมย์ , นนทบุรี และ สมุทรปราการ
นครสวรรค์ – 21 ก.พ. 63 เวลา 10.00 น. นายกฤษฐ์หิรัญ เลิศอุฤทธิ์ภักดี เข้าพบพนักงานอัยการคดีศาลแขวงนครสวรรค์ เพื่อฟังคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง โดยในวันนี้อัยการได้มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเพิ่มเติม จึงยังไม่มีผลการพิจารณาสั่งคดี และอัยการนัดฟังคำสั่งอีกครั้งในวันที่ 30 มี.ค. 63 เวลา 10.00 น.
กรณีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2563 เวลา 17.00 มีการจัดงานวิ่งไล่ลุงที่บริเวณถนนริมเขื่อนเจ้าพระยา จ.นครสวรรค์ ซึ่งมีนายกฤษฐ์หิรัญ เลิศอุฤทธิ์ภักดี และผู้เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 200-300 คน สวมเสื้อวิ่งไล่ลุง พร้อมป้ายติดตามหน้าอก ห้อยคอ แสดงออกทางการเมืองในลักษณะไม่พอใจการบริการงานของนายกรัฐมนตรี ในงานยังมีการชูสามนิ้วเพื่อสัญลักษณ์ทางการเมือง และการตะโกนไล่ลุงตู่
กฤษฐ์หิรัญถูกตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาใน 3 ข้อหา ได้แก่ ข้อหาตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 ในมาตรา 10 จัดให้มีการชุมนุมสาธารณะ โดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อเจ้าหน้าที่ผู้รับแจ้ง ก่อนเริ่มชุมนุมไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง, ข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368 ขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นโดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันควร และข้อหาตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 108 ร่วมกันเดินเป็นขบวนในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจรและทำให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 18 ก.พ.63 พนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งฟ้องกฤษฐ์หิรัญในทั้งสามข้อหา และ
ส่งตัวกฤษฐ์หิรัญพร้อมสำนวนการสอบสวนให้อัยการ และอัยการนัดฟังคำสั่งฟ้องในวันนี้
บุรีรัมย์ – วันเดียวกันนี้ น.ส.อิสรีย์ อภิสิริรุจิภาส อดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ เขต 2 จ.บุรีรัมย์ ผู้ต้องหาคดี ไม่แจ้งการชุมนุม จากการเข้าร่วมกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” ที่สวนสาธารณะ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เข้ารายงานตัวกับพนักงานอัยการจังหวัดบุรีรัมย์ตามหมายนัด เพื่อฟังคำสั่ง หลังตำรวจมีความเห็นควรสั่งฟ้องและส่งสำนวนให้อัยการเมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ อัยการแจ้งว่า ได้ส่งสำนวนคืนให้ตำรวจสอบคำให้การผู้ต้องหาเพิ่มเติม ในประเด็นยืนยันว่า ผู้ต้องหาได้ให้การต่อพนักงานสอบสวนเป็นลายลักษณ์อักษร จึงยังไม่มีผลการพิจารณาสั่งคดี ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนนัดหมายอิสรีย์เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมและส่งสำนวนให้อัยการอีกครั้งในวันที่ 24 ก.พ. 2563
นนทบุรี – เช่นเดียวกัน วานนี้ (20 ก.พ. 63) ปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ ผู้ต้องหา “ไม่แจ้งการชุมนุม” กรณี “วิ่งไล่ลุง” นนทบุรี พร้อมทนายความเดินทางไปพบพนักงานอัยการศาลแขวงนนทบุรีเพื่อฟังคำสั่งว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง โดยในวันนี้อัยการมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเพิ่มเติม และได้นัดฟังคำสั่งอีกครั้งในวันที่ 28 ก.พ. 2563
ปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ ตกเป็นผู้ต้องหา “ไม่แจ้งการชุมนุม” กรณี “วิ่งไล่ลุง” จ.นนทบุรี จากกรณีที่มีประชาชนประมาณ 100 คน เดินทางเข้าร่วมกิจกรรม วิ่งไล่ลุง จ.นนทบุรี ที่บริเวณอุทยานมกุฎรมยสราญ (สวนสาธารณะหน้าศาลากลางจังหวัดนนทบุรี) ตั้งแต่เวลา 6.00 น. โดยในวันดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าดูแลความสงบเรียบร้อยกว่า 200 นาย ภายหลังปัญญารัตน์ถูกออกหมายเรียกผู้ต้องหา และได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาพร้อมทนายความ ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา
ออกหมายเรียก วิ่งไล่ลุง สมุทรปราการ ส่อเค้าถูกดำเนินเพิ่มอีกจังหวัด
ขณะเดียวกันที่ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2563 นายเซีย จำปาทอง ผู้เข้าร่วมงานวิ่งไล่ลุง จ.สมุทรปราการ ได้รับหมายเรียกพยานจาก สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อสอบถามถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดกิจกรรม ทั้งนี้ นายเซียยังไม่สะดวกไปให้ปากคำในวันที่ 20 ก.พ. 2563 ตามหมายเรียกและได้ขอเลื่อนไปโดยยังไม่มีกำหนดวันที่แน่ชัด
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 ม.ค. ที่ผ่านมา บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ มีประชาชนร่วมทำกิจกรรมวิ่งไล่ลุง ประมาณ 50 คน โดยกิจกรรมดำเนินไปและยุติลงด้วยความสงบเรียบร้อย
ปัจจุบันยอดตัวเลขผู้ถูกกล่าวหาว่า “ไม่แจ้งการชุมนุม” จากกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” รวมแล้ว 18 ราย นับเป็น 14 คดี ใน 13 จังหวัด ทั้งนี้ มี 13 ราย ที่ยืนยันขอต่อสู้คดี ล่าสุด อัยการยื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลแล้ว 1 ราย ที่ จ.นครพนม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
วิ่งจบคดีไม่จบ: ผู้จัด-ผู้เข้าร่วม #วิ่งไล่ลุง ทยอยถูก ตร.สั่งฟ้อง-ส่งตัวให้อัยการ
การออกวิ่งที่เต็มไปด้วยขวากหนาม: ภาพรวมการปิดกั้นสิทธิเสรีภาพในกิจกรรม #วิ่งไล่ลุง ทั่วไทย