จับตา! สืบพยานคดีสหพันธรัฐไท สวมเสื้อดำวันที่ 5 ธ.ค.61 คดีแรก ที่ศาลอาญา

ระหว่างวันที่ 16-17 และ 24 ม.ค. 63 นี้ ระหว่างเวลา 9.00-16.30 น. ของแต่ละวัน ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นัดหมายสืบพยานโจทก์และจำเลย ในคดีที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด (สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 5) เป็นโจทก์กล่าวหานายเทอดศักดิ์และนางประพันธ์ (สงวนนามสกุล) รวม 2 คน ในข้อหา “ยุยงปลุกปั่น” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และข้อหาอั้งยี่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 209 กรณีเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของสหพันธรัฐไท

คดีนี้นับเป็นคดีที่สองในชุดคดีเกี่ยวกับสหพันธรัฐไทและเป็นคดีแรกเกี่ยวกับการสวมเสื้อดำแสดงสัญลักษณ์ในวันที่ 5 ธันวามคม 2561 ที่จะเริ่มมีการสืบพยานในชั้นศาล เหตุเกิดขึ้นในวันที่ 5 ธันวาคม 2561 ซึ่งทั้งสองเข้าร่วมกับบุคคลอื่น แสดงสัญลักษณ์ขององค์กรสหพันธรัฐไท โดยการสวมเสื้อดำสกรีนลายธงสีขาวแดงและออกมาแสดงตัวต่อที่สาธาณะบริเวณห้างเดอะมอลล์ บางกะปิ  ทั้งนี้ สัญลักษณ์ดังกล่าวเป็นขององค์กรสหพันธรัฐไท ซึ่งเป็นชื่อของกลุ่มนักกิจกรรมและนักเคลื่อนไหวทางการเมืองซึ่งอาศัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านและรวมตัวกันวิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ ตลอดจนเรียกร้องในประเด็นต่างๆ ต่อรัฐผ่านการจัดรายการและเผยแพร่ในช่อง YouTube และสื่อออนไลน์อื่นภายหลังการรัฐประหารเมื่อปี 2557 ในวันดังกล่าวจำเลยทั้งสองถูกควบคุมตัวปซักถามที่สน.ลาดพร้าวโดยมีการทำบันทึกให้ถ้อยคำและลงบันทึกประจำวันก่อนถูกปล่อยตัว

ทั้งสองคนถูกติดตามและรบกวนการใช้ชีวิตประจำจากเจ้าหน้าที่ด้วยวิธีการสอบถาม ขอให้รายงานการเคลื่อนไหว และขอมิให้เข้าร่วมกับกลุ่มหรือบุคคลใดอีก สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์กลุ่มบุคคลถูกจับกุมดำเนินคดีและถูกกล่าวหาว่ามีความเกี่ยวกับกับองค์กรสหพันธรัฐไทตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน 2561 ทำให้นายเทอดศักดิ์ตัดสินใจออกจากภูมิลำเนาเดิมในกรุงเทพมหานคร และเริ่มทำงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมจากสถานที่ทำงานในวันที่ 2 เมษายน 2562 และส่งตัวกลับมายังกองบังคับการปราบปรามเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกระทำการอันเป็นความผิดฐานยุยงปลุกปั่นและเป็นอั้งยี่” นายเทอดศักดิ์ได้รับการปล่อยชั่วคราวจากการวางเงินเป็นประกันจำนวน 200,000 บาทแต่ยังคงติดอุปกรณ์ติดตามตัว หรือกำไล EM เนื่องจากเป็นเงื่อนไขในการประกันตัวจากคดีสหพันธรัฐไท ก่อนหน้านี้ 

ส่วนนางประพันธ์นั้น ถูกดำเนินคดีในความผิดฐานดังกล่าวแล้วในคดีเดียวกับเทอดศักดิ์ก่อนที่จะเดินทางไปยังประเทศมาเลเซียเพื่อขอแสวงหาที่ลี้ภัยจากองค์กร UNHCR อย่างไรก็ตาม แม้นางประพันธ์จะได้รับเอกสารในฐานะผู้แสวงหาผู้ลี้ภัยทางการเมืองจากองค์กรดังกล่าวแล้ว ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2562 ภายหลังที่ถูกจับกุมและควบคุมตัวอยู่ในสถานีตำรวจและสถานที่ควบคุมตัวของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของมาเลเซียรวมทั้งสิ้น 18 วัน นางประพันธ์ถูกส่งกลับมาเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาจากกองบังคับการป้องกันและปราบปราม เช่นเดียวกับนายเทอดศักดิ์ นับแต่นั้นนางประพันธ์ไม่ได้รับการปล่อยชั่วคราวเพราะเงินมีจำนวนไม่เพียงพอจะยื่นเพื่อประกอบการพิจารณาคำร้อง และจำนวนเครื่องติดตามอิเล็กทรอนิคส์ยังไม่เพียงพอ จนไม่อาจใช้อุปกรณ์ดังกล่าวแทนการวางเงินเป็นหลักประกันได้ ทำให้ปัจจุบันนางประพันธ์ถูกคุมขังมากว่า 8 เดือนแล้ว

อัยการได้มีการสั่งฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2562 และนัดตรวจพยานหลักฐานเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2562 และกำลังจะเริ่มสืบพยานโจทก์นัดแรกในวันที่ 16-17 มกราคม 2563 และสืบพยานจำเลย ในวันที่ 24 มกราคม 2563 ที่กำลังจะถึง 

——————————————–

อ่านรายงาน

1 ปี ความเคลื่อนไหวคดี ‘สหพันธรัฐไท’: ดำเนินคดีอย่างน้อย 20 คน ใน 11 คดี

รายงานข่าวคดีนี้ก่อนหน้านี้

ศาลนัดสืบพยานคดีสหพันธรัฐไท เดอะมอลล์บางกะปิ ม.ค. 63
สั่งฟ้องคดียุยงปลุกปั่นและอั้งยี่ 2 ผู้ต้องหาคดีสหพันธรัฐไท ใส่เสื้อดำวันที่ 5 ธ.ค.

 

 

 

X