เมื่อคืนวันที่ 11 พ.ย. 2562 มีการทำกิจกรรมวันลอยกระทงเชิงสัญลักษณ์ ของพะเยาว์ อัคฮาด ญาติผู้เสียชีวิตจากกรณี 6 ศพวัดปทุมฯ ในช่วงการสลายการชุมนุมปี 2553 โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบติดตามการทำกิจกรรมอย่างใกล้ชิด ในส่วนของกิจกรรมทางภาคเหนือ สมาชิกพรรคสามัญชนจังหวัดแพร่ได้ทำกระทงเชิงสัญลักษณ์ไปขาย ซึ่งมีภาพของ พล.อ.ประยุทธ์, พล.อ.ประวิตร, รถถัง และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยกิจกรรมดังกล่าวได้ถูกเจ้าหน้าที่สั่งให้เลิกด้วยเหตุผลเพียงว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม แต่ไม่ได้ผิดกฎหมายใดๆ ทำให้ต้องยุติการขายและสูญเสียรายได้จากการลงทุนไป
กรุงเทพฯ: เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบยังคงติดตามนักกิจกรรมอย่างใกล้ชิด แม้ทำกิจกรรมคนเดียว
ช่วงเช้าของวันที่ 11 พย. 2562 พะเยาว์ อัคฮาค โพสต์เฟซบุ๊กเชิญชวนร่วมกิจกรรมลอยกระทงที่สวน 60 พรรษา พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เคหะร่มเกล้า โดยมีข้อความในเฟซบุ๊กว่า “เรียนเชิญทุกท่านค่ะ ร่วมอนุรักษ์วัฒนธรรมอันดีงาม ลอยสาปส่งสิ่งชั่วร้าย ในวันลอยกระทงค่ะ 11 พฤศจิกายนนี้ เจอกันที่สวน 60 พรรษา เคหะร่มเกล้า เวลา 20.00 น. ค่ะ เตรียมกระทงเผด็จการมาลอยสาปส่งด้วยกันค่ะ”
ก่อนเวลานัดหมายทำกิจกรรม ในตอนค่ำเวลาประมาณ 19.00 น. ได้มีตำรวจนอกเครื่องแบบจำนวน 2 คน ได้มาที่ร้านกาแฟของพะเยาว์ซึ่งอยู่ในตลาดร่มเกล้า เพื่อมาสังเกตการณ์การทำกิจกรรมลอยกระทง จนกระทั่งเวลา 20.30 น. ทนายอานนท์ นำภา ได้ติดตามมาสมทบที่ร้านกาแฟและเริ่มถ่ายทอดสดกิจกรรมผ่านทางเฟซบุ๊ก ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินทางไปที่สวน 60 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ
เมื่อพะเยาว์และลูกชายเดินทางไปยังจุดทำกิจกรรม ตำรวจนอกเครื่องแบบสองนายได้ขึ้นรถจักรยานยนต์ขับนำหน้ารถยนต์ของพะเยาว์ และอำนวยความสะดวกในการจอดรถในสถานีตำรวจนครบาลร่มเกล้า ทั้งยังช่วยหยุดรถตอนที่พาพะเยาว์ข้ามถนนมายังสวนสาธารณะ
(ระหว่างการไลฟ์สด มีตำรวจนอกเครื่องแบบมาถ่ายวิดิโอและสังเกตการณ์จำนวนหนึ่ง)
ตลอดช่วงเวลาที่พะเยาว์เดินถือกระทงเข้าไปในสวนสาธารณะมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบของ สน.ร่มเกล้า ติดตามถ่ายภาพและวีดิโอ จนไปถึงบริเวณบึงกลางสวนสาธารณะซึ่งเป็นจุดลอยกระทง โดยมีผู้ให้ความสนใจถ่ายภาพกับกระทงและถ่ายภาพพะเยาว์ แม้กิจกรรมนี้ไม่ได้มีผู้เข้าร่วมนอกจากพะเยาว์ ลูกชาย และทนายอานนท์ แต่ก็มีตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบราว 7-8 คน ติดตามอยู่รอบบริเวณจุดลอยกระทง
การทำกิจกรรมใช้เวลา 20 นาทีโดยประมาณ ภายหลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมช่วง 21.30 น. ทางตำรวจได้เชิญพะเยาว์ไปพูดคุยและกินกาแฟ แต่พะเยาว์ปฏิเสธ โดยบอกว่าจะไปรับประทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงขับรถจักรยานยนต์ตามมายังร้านดังกล่าว และยังนั่งสังเกตการณ์อยู่ข้างๆ โต๊ะที่พะเยาว์นั่ง จนกระทั่งเวลา 22.30 น. พะเยาว์ได้เรียกพนักงานคิดเงิน แต่ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าได้จัดการจ่ายเงินให้เรียบร้อยแล้ว และยืนยันจะขับรถตามไปส่งที่บ้าน ทั้งนี้ ทนายอานนท์ซึ่งขอแยกตัวกลับไปก็ถูกเจ้าหน้าที่ถ่ายภาพคนขับรถแท็กซี่ รวมถึงป้ายทะเบียนไว้ด้วยเช่นกัน
แพร่: ตำรวจห้ามขายกระทงล้อการเมือง อ้างประเทศกำลังสงบสุข
ในวันเดียวกัน ว่าที่ร้อยตรีประเสริฐ หงวนสุวรรณ สมาชิกชุมชนนักกิจกรรมภาคเหนือเพื่อสังคมประชาธิปไตย – CAN จ.แพร่ ได้จัดทำกระทงที่มีรูปของพล.อ.ประยุทธ์, พล.อ.ประวิตร, รูปรถถัง และรูปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อเป็นกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ในการลอยสิ่งไม่ดีออกไป และชี้ให้เห็นถึงการลิดรอนสิทธิของประชาชนที่เกิดขึ้นในช่วงหลังรัฐประหาร โดยได้นำกระทงไปวางขายที่บริเวณท่าน้ำสีชุม อ.เมือง จ.แพร่ อันเป็นสถานที่ที่ทางจังหวัดได้จัดเตรียมไว้ให้ประชาชนได้เดินทางมาลอยกระทง
ก่อนเริ่มขายกระทงในวันดังกล่าว ว่าที่ร้อยตรีประเสริฐได้มีการโพสต์เชิญชวนในเฟซบุ๊กว่าจะมีการจัดทำกระทงดังกล่าวและนำไปวางขาย
เวลาประมาณ 17.15 น. ว่าที่ร้อยตรีประเสริฐพร้อมกับเพื่อนได้นำกระทงที่จัดทำขึ้นจำนวน 30 อัน ไปวางขายในราคาอันละ 30 บาท และมีการประกาศเชิญชวนให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวเข้ามาซื้อกระทง พร้อมกับมีการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กเชิญชวนให้คนมาซื้อ เมื่อวางขายไปได้ประมาณ 25 นาที ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารโทรศัพท์สอบถามว่าที่ร้อยตรีประเสริฐว่า การขายกระทงเป็นอย่างไรบ้าง เขาตอบเพียงว่าขายได้ 2 อันแล้ว เจ้าหน้าที่ทหารก็ได้วางสายไป
หลังวางขายได้ 40 นาที ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจมาจอดรถอยู่ตรงข้ามฝั่งถนนและทำการถ่ายรูปของว่าที่ร้อยตรีประเสริฐและเพื่อน ๆ ที่ขายกระทงอยู่ ต่อมา ยังได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบ 3 นาย นำรถจักรยานยนต์ 2 คัน มาจอดด้านหน้า พร้อมกับเข้ามาพูดคุยหยอกล้อเรื่องการขายกระทงดังกล่าว
จนเวลาประมาณ 18.10 น. ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบเข้ามาสอบถามเกี่ยวกับกระทงที่วางขาย และทำการถ่ายรูปกระทงอีก จากนั้นก็ได้เดินอยู่บริเวณดังกล่าว คอยถ่ายรูปการขายกระทงไว้โดยตลอด
เวลาประมาณ 18.25 น. ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ ซึ่งว่าที่ร้อยตรีประเสริฐทราบว่าเป็นสารวัตรสืบสวน สภ.เมืองแพร่ เข้ามาพูดคุยด้วย ระบุว่า เข้าใจว่าการขายกระทงเป็นลักษณะการล้อเลียนการเมือง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม และอาจจะเป็นการหมิ่นเหม่โดยการนำรูปของบุคคลเหล่านี้ คือ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร มาใช้ในกระทง ทางด้านว่าที่ร้อยตรีประเสริฐยืนยันว่าเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ และบุคคลเหล่านี้ก็เป็นบุคคลสาธารณะ
ระหว่างที่สารวัตรสืบสวนกำลังพูดคุย ก็ได้มีผู้สนใจเดินเข้ามาสอบถามซื้อกระทงดังกล่าว แต่ทางสารวัตรสืบสวนได้ห้ามไม่ให้ซื้อ โดยระบุว่ายังไม่ให้ขาย ยังไม่ให้ซื้อ จะให้ทางว่าที่ร้อยตรีประเสริฐพูดคุยกันก่อน ว่าที่ร้อยตรีประเสริฐโต้แย้งว่าการทำกระทงขายได้ลงทุนไปแล้ว จะไม่ให้ขายได้อย่างไร สารวัตรสืบสวนจึงขอดูบัตรประชาชนของทุกคนที่มาขายกระทง โดยอ้างว่าเป็นการดูว่าทั้ง 3 คน บรรลุนิติภาวะกันหรือยัง ว่าที่ร้อยตรีประเสริฐจึงได้ขอดูบัตรประจำตัวของสารวัตรด้วย
จากนั้นสารวัตรสืบสวนได้ขอถ่ายรูปกับว่าที่ร้อยตรีประเสริฐไว้ ระหว่างที่รอผู้กำกับ สภ.เมืองแพร่เดินทางมา ทางสารวัตรสืบสวนได้ขอให้ว่าที่ร้อยตรีประเสริฐและเพื่อนเก็บกระทงไว้ในถุงก่อนยังไม่ให้ขาย แต่เมื่อทีมขายกระทงขอตั้งกระทงไว้เฉย ๆ ยังไม่มีการขาย สารวัตรสืบสวนก็ยืนยันว่าไม่ได้ เดี๋ยวจะมีนักข่าวมา หากมีการออกข่าวไปแล้วทางตำรวจจะเดือดร้อน แม้จะเป็นรูปบุคคลสาธารณะ แต่เป็นผู้นำประเทศ เมื่อว่าที่ร้อยตรีประเสริฐยืนยันว่าจะขอตั้งกระทงไว้ จึงมีการถกเถียงกันมากขึ้น ทางสารวัตรสืบสวนจึงได้พูดว่า “งั้นไปสถานีตำรวจ จะไปเลยไหมตอนนี้”
ต่อมาเวลาประมาณ 18.35 น. ผู้กำกับ สภ.เมืองแพร่ได้เดินทางมาถึง พร้อมกับเข้าพูดคุยว่าการขายของแบบนี้มันไม่ควร บ้านเมืองกำลังสงบ ๆ และสอบถามว่ากำลังทำเพื่ออะไร ผู้กำกับได้ย้ำถึงความไม่เหมาะสม และอ้างว่าบ้านเมืองกำลังสงบ ขอร้องให้เก็บกระทงไป โดยมีการเอ่ยว่าทางตำรวจจะเป็นคนซื้อทั้งหมดเอง
สุดท้าย ว่าที่ร้อยตรีประเสริฐและเพื่อน จึงได้เก็บกระทงและกระดาษรูปภาพข้อความกลับ และประกาศยุติการขาย โดยขายไปได้ 5 อัน และกระทงที่เหลือ 25 อัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้มีการรับซื้อไว้อย่างที่กล่าวระหว่างการถกเถียง