ศาลแขวงพระนครใต้ยกฟ้องคดีโพสต์อิทเหตุเพราะไม่เข้าข่ายผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาด การแปะโพสต์อิทไม่ถือเป็นการโฆษณาเพื่อมุ่งประโยชน์ทางการค้าแต่เป็นกิจกรรมที่ประชาชนเรียกร้องสิทธิเสรีภาพทางการเมือง
จากกรณีที่ ฐิตารีย์ อุทยานุกูลศิริกุล ถูกพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีแขวง 4 มีความเห็นสั่งฟ้องมีความผิดฐานการโฆษณาด้วยการปิด ทิ้ง หรือโปรยแผ่นประกาศหรือใบปลิวในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 10 ของพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 เหตุเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2559 ฐิตารีย์ร่วมทำกิจกรรม “โพสต์-สิทธิ” กับกลุ่มพลเมืองโต้กลับที่บริเวณทางเดิน “สกายวอล์ค” สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสช่องนนทรี เพื่อเรียกร้องให้ประชาชนต้องมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และเรียกร้องให้ปล่อยตัวแอดมินเพจ “เรารักพล.อ.ประยุทธ์” ทั้งแปดคนที่ถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ทหาร
วานนี้ (27 ธ.ค. 2559) ที่ศาลแขวงพระนครใต้ ปิยนุช ศรุติพันธ์ เป็นผู้พิพากษานั่งบัลลังก์พิพากษาคดีดังกล่าว โดยวินิจฉัยในประเด็นเดียว คือการกระทำของจำเลยมีความผิดตามที่อัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง มาตรา 10 ของ พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ หรือไม่ เมื่อพิจารณาจากพยานหลักฐานแล้ว พบว่าพฤติกรรมของจำเลยที่เขียนข้อความใส่กระดาษ แล้วแปะลงบนพื้นที่สาธารณะ เข้าข่ายเป็นการโฆษณาหรือไม่นั้น เนื่องจากใน พ.ร.บ.ดังกล่าวมิได้นิยามคำว่า “โฆษณา” เอาไว้ จึงต้องพิจารณาจากพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน
โดยพจนานุกรมนิยามคำว่า “โฆษณา” ไว้ว่า “กระทําการไม่ว่าโดยวิธีใด ๆ ให้ประชาชนเห็นหรือทราบข้อความเพื่อประโยชน์ในทางการค้า” ดังนั้นเมื่อพิจารณาพฤติกรรมของจำเลยแล้วพบว่า การเขียนข้อความในกิจกรรมโพสต์สิทธิไม่เข้าข่ายและไม่ได้มุ่งหวังผลประโยชน์ทางการค้า แต่เป็นการแสดงออกซึ่งสิทธิ เสรีภาพทางการเมืองของประชาชนตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้จึงเป็นเหตุให้พิพากษายกฟ้อง