เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 62 นายวชิรวิทย์ เทศศรีเมือง นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยว่าตนกับรุ่นพี่ในจังหวัดชัยนาท และเพื่อนนักศึกษาหญิงอีก 3-4 คน ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมตั้งโต๊ะล่ารายชื่อถอดถอน กกต. ที่บริเวณเขื่อนเรียงหิน หน้าศาลากลางจังหวัดชัยนาท ซึ่งมีการจัดถนนคนเดินในช่วงเย็น ก่อนถูกเจ้าหน้าที่รัฐจำนวนกว่า 20 นาย คอยเฝ้าติดตามจับตากดดันการทำกิจกรรม
นายวชิรวิทย์ระบุว่าเดิมกิจกรรมจะมีการตั้งโต๊ะล่ารายชื่อ ให้ประชาชนที่ผ่านไปมาร่วมลงชื่อถอดถอนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และมีกระดาษให้ร่วมเขียนแสดงความคิดเห็นต่อการทำงานของ กกต. โดยกำหนดเวลาตั้งโต๊ะราว 2 ชั่วโมงในช่วงเย็น แล้วจึงมีการเดินรณรงค์ให้ประชาชนรับทราบปัญหาการทำงานของ กกต. บริเวณถนนคนเดิน โดยได้มีการประชาสัมพันธ์กิจกรรมทางโลกออนไลน์ก่อนแล้ว
แต่ตั้งแต่ก่อนเริ่มการตั้งโต๊ะ พบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐนอกเครื่องแบบคอยเฝ้าจับตาและกระจายอยู่รอบบริเวณดังกล่าวจำนวนมาก ต่อมาเมื่อได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ พบว่ามีกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 15 นาย มีทั้งตำรวจหน่วยสืบสวนของจังหวัด ตำรวจจากสภ.เมืองชัยนาท และเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล รวมทั้งยังมีเจ้าหน้าที่ทหารนอกเครื่องแบบประมาณ 3 นาย และมีเจ้าหน้าที่ อส. อีกประมาณ 2-3 คน
เมื่อนายวชิรวิทย์และเพื่อนเริ่มเข้าไปตั้งโต๊ะล่ารายชื่อ ก็มีกลุ่มเจ้าหน้าที่เข้ามาพูดคุยด้วย โดยแสดงตนเป็นตำรวจ และพยายามสอบถามข้อมูลส่วนตัว ทั้งข้อมูลชื่อสกุล เดินทางมาจากที่ไหน เรียนที่ไหน หรือมาจากกลุ่มไหน เจ้าหน้าที่ยังพยายามกดดันไม่ให้มีการตั้งโต๊ะล่ารายชื่อ โดยอ้างเพียงว่า “นาย” ไม่อยากให้ทำ และเจ้าหน้าที่ยังระบุว่าไม่อยากให้มีการเดินรณรงค์ เนื่องจากอาจจะมีปัญหาข้อกฎหมายตามมา ทางผู้จัดกิจกรรมจึงต้องตัดสินใจยกเลิกการเดินรณรงค์ในช่วงท้ายกิจกรรม
ระหว่างการตั้งโต๊ะจะมีเจ้าหน้าที่ประมาณ 4-5 คน คอยตามประกบผู้ทำกิจกรรมตลอดเวลา ส่วนเจ้าหน้าที่ที่เหลือจะกระจายตัวเป็นกลุ่มๆ อยู่รอบๆ หรือตามมุมต่างๆ นอกจากนั้นยังมีเจ้าหน้าที่ที่เป็นช่างภาพคอยตามถ่ายรูป และมีการถ่ายคลิปขณะนายวชิรวิทย์กับเพื่อนทำการไลฟ์สดทางเฟซบุ๊กเชิญชวนประชาชนให้มาร่วมลงชื่อด้วย
ภาพขณะนายวชิรวิทย์และเพื่อนไลฟ์เชิญชวนประชาชนเข้าร่วมลงชื่อ และเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบที่เข้าติดตามถ่ายรูปกิจกรรม
เจ้าหน้าที่ยังมีการพยายามเข้ามาพูดคุยกับเพื่อนนักศึกษาหญิง โดยพยายามถามข้อมูลส่วนตัวเช่นกัน ทั้งที่อยู่บ้าน เบอร์ติดต่อของครอบครัว และมีการจะขอคุยโทรศัพท์กับครอบครัวของเพื่อนนักศึกษาหญิงรายหนึ่ง ทำให้เธอเกิดความกังวลและหวาดกลัว จนถึงกับร้องไห้ออกมาด้วย
นายวชิรวิทย์ระบุว่าแม้เจ้าหน้าที่จะพูดคุยด้วยดี แต่ก็ได้สร้างความรำคาญและสร้างความไม่สะดวกในการทำกิจกรรม เป็นการกดดันให้ประชาชนไม่กล้าเข้ามาร่วมลงชื่อ และมีลักษณะเป็นการใช้จิตวิทยาคุกคาม ทั้งที่ตนเห็นว่ากิจกรรมล่ารายชื่อนี้ก็เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ผิดกฎหมาย โดยกิจกรรมในครั้งนี้สามารถรวบรวมรายชื่อประชาชนได้ราว 20 คน
ช่วงอาทิตย์ที่ผ่าน กลุ่มนักศึกษาในหลายมหาวิทยาลัยเผชิญกับการปิดกั้นการใช้สถานที่ทำกิจกรรมตั้งโต๊ะล่ารายชื่อถอดถอน กกต. หรือการเข้าคุกคามขัดขวางการทำกิจกรรมจากเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจด้วย (ดูตัวอย่างใน ผจญภัยตั้งโต๊ะถอดกกต. ที่ มน.: ผู้บริหารสั่งห้ามล่าชื่อ ทหาร-ตร.เข้ากดดันร้านถ่ายเอกสาร และสันติบาลไปถึงที่ทำงานพ่อนศ.มอ.ปัตตานี ฝากปรามลูกยุ่งการเมือง หลังร่วมล่าชื่อถอด กกต.)
อ่านเพิ่มเติม การล่าชื่อถอดถอน กกต. เป็นสิทธิ – พื้นที่มหาวิทยาลัยควรเปิดกว้างต่อเสรีภาพการแสดงออก