ฟ้อง ‘เอกชัย-โชคชัย’ ข้อหาหมิ่นประมาท เหตุไลฟ์วิจารณ์กองทัพข่มเหงชาวบ้าน-แพ้สงคราม

3 เม.ย. 2562 เวลา 10.00 น. พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด มีความเห็นสั่งฟ้อง เอกชัย หงส์กังวาน และโชคชัย ไพบูลย์รัชตะ สองนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ในข้อหาหมิ่นประมาทกองทัพบกจากการไลฟ์เฟซบุ๊กหน้ากองบัญชาการกองทัพบก

ทั้งคู่ถูกฟ้องฐานร่วมกันหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 จากการไลฟ์เฟซบุ๊กหน้ากองบัญชาการกองทัพบก เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2562 ในช่วงที่มีกระแสเลื่อนการเลือกตั้ง วิพากษ์วิจารณ์กองทัพแทรกแซงการเมืองและรบแพ้ตลอดประวัติศาสตร์หลังสงครามโลกครั้งที่ 2

ต่อมาวันที่ 22 ม.ค. 2562 พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ฝ่ายกฎหมายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าแจ้งความดำเนินคดีเอกชัยและโชคชัยต่อพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ให้เอาผิดทั้ง 2 คน ในฐานความผิดด้วหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 ก่อนถูกแจ้งข้อหาเมื่อ 12 ก.พ. 2562 ก่อนพนักงานสอบสวนจะรวบรวมสำนวนการสอบสวนให้อัยการและมีคำสั่งฟ้องคดีวันที่ 3 เม.ย. 2562

เนื้อหาในคำฟ้องส่วนที่กล่าวหาว่าจำเลยวิจารณ์กองทัพระบุ ว่า

“ตอนนี้ก็คือการเลือกตั้งมันช้าเพราะว่าทางคสช. กกต. โยนลูกกันไปมา เมื่อกี้คุยกับทางกกต. เมื่อกี้คุยกับทาง กกต. เขาบอกว่าน่าจะส่งภายในสัปดาห์นี้นะ คราวนี้ก็จะมาส่วนของกองทัพบก จะถามว่ากองทัพบกเกี่ยวอะไรด้วย กองทัพไม่ได้เกี่ยวกับการเลือกตั้งเลย”

สำหรับข้อความอันเป็นเหตุที่ คสช. เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับเอกชัยและโชคชัย คือ “ถ้าไปดูตั้งแต่ประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นบุกไทยขึ้นตรงอ่าวมะนาวที่จังหวัดประจวบ รบกันได้ไม่ถึงเดือนคุณก็ประกาศยอมแพ้ นั่นคือครั้งแรก ก็เลยเข้าร่วมกับฝ่ายอักษะ ก็คือฝ่ายญี่ปุ่นก็แพ้สงครามอีก กลายเป็นว่าประเทศเกือบเสียค่าประติกรรมสงครามในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากนั้นเป็นต้นมาไม่ว่าจะเป็นช่วงสงครามเย็น สงครามเกาหลี สงครามเวียดนาม ฝ่ายไทยอุตส่าห์ไปหนุนช่วยฝ่ายต่อต้านคอมมิวนิสต์ คุณก็แพ้เขาตลอด”

“จนมาล่าสุด ปี 31 คือสงครามร่มเกล้า คุณก็แพ้ให้กับลาวอีก ไม่ต้องไปพูดถึงต่างประเทศอะไรไกล ๆ เลย แต่กับประเทศลาวเพื่อนบ้านคุณยังไม่มีปัญญาสู้เลย เพราะฉะนั้นก็อย่างที่บอกนะ ทหารไทยเก่งแต่กับเฉพาะคนที่ไม่มีทางสู้เท่านั้น กับชาวบ้านที่ไม่มีอาวุธ ไม่มีปืน คุณก็ข่มเขา เก่งกับเขา รัฐบาลคุณก็รัฐประหารเขา แต่พอให้คุณไปรบทำสงครามจริง ๆ คุณสู้ไม่ได้เรื่องเลย”

อัยการเห็นว่า ข้อความข้างต้นมีความหมายว่ากองทัพบกของไทยรบกับใครก็แพ้ แม้แต่ประเทศลาวก็แพ้ ซึ่งไม่เป็นความจริง ความจริงแล้วการสู้รบระหว่างไทยกับลาวที่บริเวณบ้านร่วมเกล้า ฝ่ายไทยได้ใช้กองทัพอากาศโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนลาว 30-40 กิโลเมตร จนเป็นเหตุให้ฝ่ายลาวขอเจรจากับฝ่ายไทยให้หยุดยิงเมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2531 ส่วนกรณีกับญี่ปุ่น เป็นเรื่องของยุทธวิธีของรัฐบาลในขณะนั้นที่ต้องการรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติไว้ จึงไม่อาจตีความได้ว่าเป็นความพ่ายแพ้ของกองทัพบก ขณะที่สงครามอื่นๆ ที่ไทยได้ส่งทหารไปร่วมรบ ประเทศไม่ได้เป็นคู่สงครามโดยตรงแต่อย่างใด ฉะนั้นจะถือว่ากองทัพบกของไทยพ่ายแพ้สงครามไม่ได้

10.00 น. หลังอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องคดี เอกชัย และโชคชัยเดินทางมาที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ก่อนเข้าไปที่ห้องเวรชี้เพื่อถามคำให้การ ทั้งคู่ให้การปฏิเสธขอต่อสู้คดี ศาลจะอนุญาตให้ประกันตัวด้วยหลักทรัพย์คนละ 50,000 บาท และนัดตรวจพยานหลักฐานวันที่ 3 มิ.ย. 2562 เวลา 13.30 น.

สำหรับเอกชัย หงส์กังวาน และโชคชัย ไพบูลย์รัชตะ ถือเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่ออกมาตรวจสอบรัฐบาลคสช. อย่างต่อเนื่อง และต้องเผชิญกับข่มขู่ คุกคาม และถูกทำร้ายในหลายรูปแบบ กรณีเอกชัยเอง การถูกดำเนินคดีหมิ่นประมาทกองทัพครั้งนี้นับเป็น 1 ใน 8 คดีที่ทางคสช. แจ้งความเอาผิดกับเขา (อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมที่: เผารถ 2 ที โดนตี 6 หน : ประมวลข้อมูลการทำร้ายเอกชัย หงส์กังวาน)

 

X