จับกลางดึกอีก 1 นักศึกษา แจ้งผิด พ.ร.บ.ประชามติ ร่วมกับ NDM

ตำรวจบ้านโป่งบุกกลางดึกเข้าตรวจค้นและจับกุมอีก 1 นักศึกษา ม.แม่โจ้ แจ้งเกี่ยวพัน 3 NDM และนักข่าว ร่วมกันผิด พ.ร.บ.ประชามติฯ

10 ก.ค.59 เวลา 20.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรบ้านโป่ง จ.ราชบุรี พร้อมด้วยทหาร และฝ่ายปกครอง รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 10 คันรถ เข้าล้อมบ้านนายภานุวัฒน์ ทรงสวัสดิ์ชัย นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ หนึ่งในผู้ต้องหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/58 ที่เข้ารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านโป่ง เมื่อช่วงเช้า จากกรณีจัดกิจกรรมเปิดศูนย์ปราบโกงฯ จากนั้นเข้าควบคุมตัวนายภานุวัฒน์ที่อยู่ภายในบ้าน โดยไม่มีหมายจับหรือหมายค้น นำตัวมาที่ สภ.บ้านโป่ง

การเข้าจับกุมนายภานุวัฒน์ เกี่ยวเนื่องกับการตรวจค้นรถของ ‘แมน’ หรือปกรณ์ อารีกุล นักกิจกรรมขบวนการประชาธิปไตยใหม่ (NDM) และควบคุมตัวเพื่อนนักกิจกรรมอีก 2 คน รวมทั้งผู้สื่อข่าวเว็บไซต์ประชาไท ในช่วงสาย เนื่องจากมีเอกสารรณรงค์ประชามติ และไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ไว้ในครอบครอง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุในบันทึกการจับกุมว่า ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบนายภานุวัฒน์กระทำการร่วมกันกับผู้ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ 4 ราย ดำเนินการ “ร่วมกันดำเนินการเผยแพร่ข้อความ ภาพ เสียง ในสื่อหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือในช่องทางอื่นใดที่ผิดไปจากข้อเท็จจริง หรือมีลักษณะรุนแรง ก้าวร้าว หยาบคาย ปลุกระดม หรือข่มขู่ โดยมุ่งหวังเพื่อให้ผู้มีสิทธิออกเสียงไม่ไปใช้สิทธิออกเสียงหรือออกเสียงอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือไม่ออกเสียง”

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 มาตรา 61 วรรค 2 โดยมีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะนายภานุวัฒน์ขนเอกสารรณรงค์ของ NDM ทั้งนี้ ในการตรวจค้นบ้านพักของนายภานุวัฒน์ไม่พบเอกสารรณรงค์ของ NDM แต่อย่างใด

จากนั้น ตำรวจได้ควบคุมตัวนายภานุวัฒน์ไว้ในห้องขังที่ สภ.บ้านโป่ง และจะนำตัวไปขออำนาจฝากขังต่อศาลจังหวัดราชบุรี พร้อมกับนายปกรณ์ อารีกุล และเพื่อนกลุ่ม NDM รวมทั้งผู้สื่อข่าวประชาไท รวมเป็น 5 คน ในวันนี้ (11 ก.ค.59) เวลา 09.00 น. โดยทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนจะยื่นคำร้องคัดค้านการฝากขัง

ทั้งนี้ ในบันทึกการจับกุมนายภานุวัฒน์ระบุอีกว่า ในการเข้าตรวจค้นบ้านและจับกุม มีเจ้าหน้าที่ทหารร่วมกับตำรวจ และอาศัยอำนาจตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 13/2559 เรื่องการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดบางประการที่เป็นภยันตรายต่อความสงบเรียบร้อยหรือบ่อนทำลายระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ เป็นที่น่าสังเกตว่า คำสั่งดังกล่าวให้อำนาจเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการเฉพาะในการกระทำอันเป็นความผิดตามที่กำหนดไว้ในบัญชีท้ายคำสั่ง ซึ่งไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติฯ

มีรายงานอีกว่า ผู้ถูกจับกุม 4 คนในช่วงเช้าวันที่ 10 ก.ค. ซึ่งปฏิเสธไม่ลงชื่อในบันทึกการจับกุม และพิมพ์ลายนิ้วมือ เนื่องจากยืนยันว่าพวกตนไม่ได้กระทำผิดกฎหมาย ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 25/2549 เรื่องการดำเนินการเกี่ยวกับการยุติธรรมทางอาญา ซึ่งระบุให้การฝ่าฝืนไม่พิมพ์ลายนิ้วมือตามคำสั่งเจ้าพนักงาน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเคยใช้แจ้งนักกิจกรรม NDM 8 คน ที่ไม่ยินยอมพิมพ์ลายนิ้วมือ หลังถูกจับกุมขณะแจกเอกสารรณรงค์ให้ประชาชนไปออกเสียงประชามติในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ที่ผ่านมา

เรื่องที่เกี่ยวข้อง:

จับ 3 นักกิจกรรม NDM พร้อมนักข่าว แจ้งผิด พ.ร.บ.ประชามติ หลังค้นรถเจอเอกสาร Vote No

ศาลทหารอนุญาตฝากขัง 13 นักกิจกรรมแจกเอกสารโหวตโน ผู้ต้องหา 7 รายยืนยันไม่ขอประกันตัว