ภาคีนักเรียน KKC เข้าพบ ตร.ขอนแก่น หวังให้ชี้แจงและขอโทษ กรณีไปติดตามคุกคามเยาวชนหลายรายที่บ้าน

วันที่ 9 มิถุนายน 2564 เวลา 14.00 น. ภาคีนักเรียน KKC ซึ่งเป็นกลุ่มนักเรียนในจังหวัดขอนแก่นที่ทำกิจกรรมในประเด็นปัญหาเกี่ยวกับการศึกษาและประชาธิปไตย เดินทางไปเข้าพบ พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผู้กำกับการ สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อสอบถามกรณีมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบไปติดตามเยาวชนหลายรายถึงที่บ้าน

ตัวแทนกลุ่มได้กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเยาวชนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไปติดตามที่บ้านอย่างน้อย 4 ราย เป็นเยาวชนที่อยู่ในอำเภอเมือง 2 ราย อีก 2 รายอยู่ที่อำเภอบ้านฝาง และอำเภอหนองเรือ  ในวันนี้จึงมาพบผู้กำกับเพื่อขอให้ชี้แจงถึงสาเหตุที่ไปติดตามเยาวชน และขอให้ยืนยันว่าจะไม่มีการคุกคามเช่นนี้เกิดขึ้นอีก รวมทั้งขอให้ขอโทษที่ทำให้ครอบครัวของเยาวชนเกิดความหวาดกลัว 

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ในเวลาดังกล่าว พ.ต.อ.ปรีชา ไปประชุม ไม่ได้อยู่ที่ สภ.เมืองขอนแก่น แพร (นามสมมติ) และอาเคอร์ (นามสมมติ) นักเรียนที่ถูกติดตาม พร้อมด้วยทนายความ จึงขอให้ร้อยเวรลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานถึงเหตุการณ์การคุกคามที่เกิดขึ้น 

ภาพจาก The Isaan Record

แพร เยาวชนอายุ 17 ปี เปิดเผยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า วานนี้ (8 มิถุนายน 2564) ตอนสาย เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ 4 นาย ไปที่บ้านหลังหนึ่งในเมืองขอนแก่น เป็นบ้านที่แพรมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน แต่แพรไม่ได้อยู่ที่นั่น โดยแพรทราบจากป้าเจ้าของบ้าน ซึ่งเพื่อนร่วมงานของแม่ว่า เจ้าหน้าที่กลุ่มดังกล่าวถือกระดาษที่ปริ้นท์รูปหน้าแพรไปด้วย และพยายามถามคุณยาย (แม่ของป้าเจ้าของบ้าน) ที่อยู่บ้านเพียงลำพังว่า รู้จักคนนี้หรือไม่ คนในภาพนี้อยู่ที่บ้านนี้รึเปล่า คุณยายได้ตอบเจ้าหน้าที่ไปว่า ไม่รู้จัก ไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้ ตำรวจยังไม่เชื่อ และให้เพื่อนบ้านละแวกนั้นมายืนยันต่อหน้าคุณยายว่า แพรไม่ได้อยู่ที่นั่นจริงๆ 

หลังได้รับการยืนยัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถ่ายภาพบ้านหลังดังกล่าว และบอกคุณยายว่า จะมาพบแพรอีกในภายหลัง ก่อนขับรถกลับไป โดยไม่ได้แจ้งสาเหตุที่มาติดตามหาแพร

แพรให้ข้อมูลอีกว่า ก่อนหน้านี้ไม่เคยถูกเจ้าหน้าที่ติดตามในลักษณะนี้มาก่อน แพรกล่าวว่าไม่อยากให้ตำรวจไปที่บ้านหลังนั้นอีกแล้ว เพราะคนในบ้านไม่ได้เกี่ยวข้องกับเธอ ไม่อยากให้เขาต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ หากตำรวจอยากพบตัว ควรจะติดต่อเธอโดยตรงมากกว่า

ทั้งนี้ ในบันทึกประจำวัน แพรยังให้พนักงานสอบสวนผู้รับแจ้งเรื่อง ระบุว่า อยากให้ผู้กำกับ สภ.เมืองขอนแก่น ตรวจสอบข้อเท็จจริง และหากพบว่าตำรวจทั้ง 4 นาย ที่ไปบ้านหลังนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เมืองขอนแก่น จริง อยากให้ผู้กำกับหรือตำรวจชุดดังกล่าวชี้แจงสาเหตุที่ไปติดตาม และกล่าวขอโทษ เนื่องจากถือว่าเป็นการคุกคามเยาวชน 

ในส่วนของอาเคอร์ เยาวชนอายุ 17 ปี อีกรายที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามติดต่อไปพบที่บ้านย่าน มข. เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ก็ให้ร้อยเวรลงบันทึกประจำวันเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมถ้อยความถึงผู้กำกับ สภ.เมืองขอนแก่น ในลักษณะเดียวกัน 

>>ตร.ขอนแก่น โทรตามนักเรียนมัธยมKKC -ไปที่บ้านระหว่างออกไปเรียนออนไลน์ บอกจะไปหาจนกว่าจะเจอตัว

ก่อนหน้าเข้าไปพบตำรวจ ภาคีนักเรียน KKC ได้ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์หน้ารูปปั้นตำรวจ ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้า สภ.เมืองขอนแก่น โดยถือป้าย “Stop Threatening People” มีการเทและป้ายสีบนชุดนักเรียน และมีคนนำผ้ามาคาดปิดปาก เพื่อสะท้อนถึงการคุกคามนักเรียน และบอกว่าเยาวชนกำลังถูกริดรอนเสรีภาพในการแสดงออก ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยถ่ายรูป และปรามไม่ให้ทำกิจกรรมอื่นที่นอกเหนือจากนี้ โดยใช้เวลาทำกิจกรรมราว 5 นาที 

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ยังได้รับข้อมูลจากซี (นามสมมติ) นักเรียนอาชีวะปี 3 ซึ่งเล่าว่าช่วง 11.00 น. ของวันที่ 8 มิถุนายน 2564  มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ 2 นาย ไม่ทราบสังกัด ไปตามหาตัวที่บ้านในอำเภอหนองเรือ ซึ่งเป็นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน แต่ไม่ได้พบซี เนื่องจากเขาไม่ได้อยู่บ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นายจึงกลับไป โดยก่อนกลับได้ถ่ายภาพบริเวณบ้านไว้ด้วย โดยลุงซึ่งอยู่บ้านหลังดังกล่าวเป็นคนเล่าเหตุการณ์ให้แม่ของซีทราบ อย่างไรก็ตาม ซีสงสัยว่าเหตุใดตำรวจจึงมาตามหาตัวเขา เนื่องจากเขาไม่ได้เคลื่อนไหวหรือเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 แล้ว

 

 

แม้ว่าเจ้าหน้าที่ที่ไปติดตามหาแพรและซี ไม่ได้บอกเหตุผลที่ไปติดตามกับบุคคลที่พบ แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านฝาง ได้กล่าวกับขนุน (นามสมมติ) ซึ่งไปสอบถามเหตุผลว่า เนื่องจากช่วงนี้จะมีราชวงศ์เสด็จมาขอนแก่น รวมทั้งขนุนอยู่ในรายชื่อบุคคลเฝ้าระวัง จากเหตุที่ขนุนเคยเคลื่อนไหวทางการเมืองก่อนหน้านี้ จึงคาดว่ากรณีการติดตามเยาวชนที่เคยทำกิจกรรมหรือเป็นสมาชิกภาคีนักเรียน KKC ก็มาจากสาเหตุเดียวกันนี้ 

>> นอกเครื่องแบบไปบ้านสมาชิก “ภาคีนักเรียนKKC” 2 ครั้ง ขอเบอร์ติดต่อ ก่อนโทรคุย ‘พี่เป็นตำรวจ อยากเจอจังเลย กลับบ้านกี่โมง’ – อีกราย ตร.โทรหานัดไปพบ

ทั้งนี้ กรณีการติดตามนักเรียน นักศึกษา ประชาชน ที่แสดงออกทางการเมืองโดยระบุว่า “เป็นบุคคลเฝ้าระวัง” เกิดขึ้นเป็นประจำในจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีการเสด็จของพระบรมวงศานุวงศ์ โดยเจ้าหน้าที่มักให้เหตุผลเมื่อถูกตั้งคำถามว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคง สะท้อนกรอบคิดของเจ้าหน้าที่และรัฐที่ไม่ได้มองการแสดงออกทางการเมืองของประชาชนว่าเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพที่มีตามรัฐธรรมนูญ

อีกทั้งการเข้าติดตามถึงบ้านของเจ้าหน้าที่ไม่สวมใส่เครื่องแบบ ไม่แสดงบัตรเจ้าหน้าที่ หลายครั้งมีพฤติการณ์ข่มขู่คุกคามให้ผู้ถูกติดตามหรือบุคคลใกล้ชิดเกิดความหวาดกลัว ไม่ใช่กระบวนการตามกฎหมาย ทั้งยังเปิดช่องให้บุคคลที่ไม่ใช้เจ้าหน้าที่แอบอ้างเข้าคุกคามผู้เห็นต่างทางการเมืองได้

 

X