2 จำเลย 2 คดี พ.ร.บ.ชุมนุมฯ ลำพูน ขับไล่รัฐบาล ยืนยันสู้คดี ศาลนัดสืบพยานพ.ค. 64

วันที่ 18 ม.ค. 64 เวลา 9.00 น. ศาลจังหวัดลำพูนนัดพร้อมสอบถามคำให้การและตรวจพยานหลักฐานในคดีพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะฯ 2 คดี จากการชุมนุมของประชาชนในจังหวัดลำพูน เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 63 บริเวณหน้าวัดมหาวัน และการชุมนุมเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 63 บริเวณสะพานท่านาง จำเลยทั้ง 2 คดี ยืนยันให้การปฏิเสธ ขอต่อสู้คดีถึงที่สุด ก่อนศาลนัดหมายสืบพยาน ในคดีที่ 1 วันที่ 5-6 พ.ค. 64 และ คดีที่ 2 วันที่ 18-19 พ.ค. 64

คดีที่ 1 คดีของน.ส.อุทัยวรรณ บุญลอย อดีตนักศึกษาวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปัจจุบันประกอบอาชีพเกษตรกรออร์แกนิคฟาร์มและการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ในจังหวัดลำพูน ซึ่งถูกฟ้องด้วย 3 ข้อกล่าวหา ได้แก่ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ, พ.ร.บ.จราจรฯ และพ.ร.บ.เครื่องขยายเสียง จากการชุมนุมของประชาชนในจังหวัดลำพูน เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 63 บริเวณหน้าวัดมหาวัน ศาลได้สอบถามคำให้การของจำเลยอีกครั้งว่ายังให้การปฏิเสธใช่หรือไม่ ด้านจำเลยยืนยันให้การปฏิเสธ ขอต่อสู้คดีจนถึงที่สุด

อัยการฝ่ายโจทก์จึงได้ยื่นบัญชีระบุพยานบุคคลจำนวน 3 ปาก ประกอบกับพยานเอกสารจำนวน 9 ฉบับ ส่วนทนายความจำเลยได้ยื่นบัญชีระบุพยานบุคคลจำนวน 4 ปาก ศาลจังหวัดลำพูนจึงได้กำหนดให้ทำการสืบพยานโจทก์และจำเลยฝ่ายละ 1 นัด คู่ความทั้งสองฝ่ายตกลงนัดหมายสืบพยานในวันที่ 5-6 พ.ค. 64 เวลา 9.00 น. เป็นต้นไป

คดีที่ 2 คดีของน.ส.รตี ช่วงแก้ว อดีตนักเขียน และปัจจุบันประกอบอาชีพศิลปินงานฝีมือในจังหวัดลำพูน ที่ถูกฟ้องด้วย 3 ข้อกล่าวหาเดียวกันกับอุทัยวรรณ จากการชุมนุมของประชาชนในจังหวัดลำพูนเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 63 บริเวณสะพานท่านาง ศาลได้สอบถามคำให้การของจำเลยอีกครั้งว่ายังให้การปฏิเสธใช่หรือไม่ ด้านจำเลยยืนยันให้การปฏิเสธ ขอต่อสู้คดีจนถึงที่สุดเช่นเดียวกัน

อัยการฝ่ายโจทก์จึงได้ยื่นบัญชีระบุพยานบุคคลจำนวน 3 ปาก ประกอบกับพยานเอกสาร ส่วนทนายความจำเลยได้ยื่นบัญชีระบุพยานบุคคลจำนวน 4 ปาก ศาลจังหวัดลำพูนจึงได้กำหนดให้ทำการสืบพยานโจทก์และจำเลยฝ่ายละ 1 นัด คู่ความทั้งสองฝ่ายตกลงนัดหมายสืบพยานในวันที่ 18-19 พ.ค. 64 เวลา 9.00 น. เป็นต้นไป

สำหรับการชุมนุมทั้ง 2 วัน เป็นการออกมาแสดงความคิดเห็นเรียกร้องให้รัฐบาลหยุดใช้ความรุนแรงกับประชาชน หลังการสลายการชุมนุมของนักเรียน นักศึกษา และประชาชน ที่บริเวณสี่แยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 63  อีกทั้งมีการชูภาพแกนนำคณะราษฎร 2563 ที่ถูกจับกุมตัวและถูกคุมขังในขณะนั้นอีกด้วย

ทั้งสามข้อกล่าวหาที่มีการแจ้งต่อจำเลยทั้ง 2 คดี มีเพียงอัตราโทษปรับ คือข้อหาไม่แจ้งการชุมนุม มีโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท, ข้อหากีดขวางการจราจร มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท และข้อหาใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษปรับไม่เกิน 200 บาท

>> แจ้งข้อหา 2 คดี พ.ร.บ.ชุมนุมฯ หลังปชช.ลำพูนชุมนุมประณามรัฐสลายชุมนุม-จับกุมแกนนำ

>> ส่งฟ้องคดี พ.ร.บ.ชุมนุมฯ ขับไล่รัฐบาล จ.ลำพูน 2 คดี ศาลนัดถามคำให้การ 18 ม.ค. 64

X