แจ้งข้อหาพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ นศ.มหิดลเพิ่มอีกหนึ่ง เหตุชุมนุม #15ตุลาไปราชประสงค์

วันนี้ (23 พ.ย. 63) เวลา 13.00 น. ที่สถานีตำรวจนครบาลลุมพินี เอกศิษฏ์ บัวทองเอี่ยม อายุ 23 ปี นักศึกษาและนักกิจกรรมภาคีนักศึกษาศาลายา มหาวิทยาลัยมหิดล เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ตามหมายเรียก จากกรณีชุมนุม “ม็อบ15ตุลา” หรือ “15ตุลาไปราชประสงค์” ที่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 63 

เหตุของคดีนี้สืบเนื่องมาจากการนัดหมายชุมนุม #15ตุลาไปราชประสงค์ ช่วงเย็นวันที่ 15 ต.ค. 63 ที่แยกราชประสงค์ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน เพื่อเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีลาออก และปล่อยตัวประชาชนที่ถูกจับกุมจากการสลายการชุมนุมบริเวณทำเนียบรัฐบาลเมื่อเช้ามืดของวันเดียวกัน 

ร้อยตำรวจเอกสุทวัฒน์ ศรีพรวรรณ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สน.ลุมพินี แจ้งข้อกล่าวหาเอกศิษฏ์ “ฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความ มาตรา 9 ประกอบมาตรา 11 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 โดยชุมนุมหรือมั่วสุม ณ ที่ใดๆ ตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปหรือกระทำการใดอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย” 

เอกศิษฏ์ ภาคีนักศึกษาศาลายา

บันทึกแจ้งข้อกล่าวหาบรรยายโดยสรุปว่า สืบเนื่องจากการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยหนึ่งในข้อกำหนดคือข้อกำหนดห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุมกัน ณ สถานที่ใดๆ ตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป หรือกระทําการใดอันเป็น การยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ผู้บัญชาการตํารวจนครบาลจึงได้มอบหมายให้สถานีตํารวจนครบาลลุมพินีเฝ้าระวัง สืบสวนหาข่าว และติดตามความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองและกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการจัดการชุมนุม ซึ่งต่อมา สน.ได้มอบหมายให้ฝ่ายสืบสวนต่อไป

จากการสืบสวนพบว่าเอกศิษฏ์เป็นหนึ่งในผู้ปราศรัย ในบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาระบุว่า เขาขึ้นรถปราศรัยบนรถเวทีบริเวณพื้นที่ชุมนุมบริเวณแยกราชประสงค์ ในวันที่ 15 ต.ค.63 เวลาประมาณ 20.42 น. จากการกระทำดังกล่าว ถือเป็นผู้ร่วมกระทําให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือเป็นผู้ใช้ ผู้โฆษณา ผู้สนับสนุนการกระทําความผิดเช่นว่านั้น หรือปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับการกระทําให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน อันเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ 1 ของประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ออกตามมาตรา 9 ประกอบมาตรา 11 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ผู้กํากับการสถานีตํารวจนครบาลลุมพินีจึงให้ พ.ต.ท.วรินทร เศรษฐะ สารวัตรป้องกันปราบปราม สน.ลุมพินี มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความร้องทุกข์ต่อไป

เอกศิษฏ์ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาและจะให้การเป็นหนังสือภายในวันที่ 8 ธ.ค. 63 ส่วนพนักงานสอบสวนนัดส่งสำนวนให้อัยการวันที่ 8 ธ.ค. 63 เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานอัยการศาลแขวงปทุมวัน

สำหรับคดีการชุมนุม “15ตุลาไปราชประสงค์” ก่อนหน้านี้ศาลมีการออกหมายจับแกนนำนักกิจกรรม 12 ราย และตำรวจทยอยจับกุมและแจ้งข้อหาในช่วงที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงไปแล้วรวม 10 ราย รวมทั้งภายหลัง อรรถพล บัวพัฒน์ ได้เดินทางเข้ามอบตัว  หลังจากนั้นยังมีการออกหมายเรียกผู้ชุมนุมเพิ่มเติมหลายราย อาทิ กรณีของกวินทร์ พิชญภิรมย์ นักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล และสุวรรณา ตาลเหล็ก กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย และยังมีการออกหมายเรียกเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี อีก 3 ราย ได้แก่ ได้แก่ ลภนพัฒน์ หวังไพสิฐ หรือ “มิน” อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6, เบญจมาภรณ์ นิวาส หรือ “พลอย” อายุ 16 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ “ภูมิ” (สงวนชื่อและนามสกุล) อายุ 16 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ทั้งสามทยอยได้รับหมายเรียกผู้ต้องหาจากสถานีตำรวจนครบาลลุมพินี ให้ไปรับทราบข้อหาฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกตามความใน 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

ทำให้ปัจุจบัน มีผู้ต้องหาที่เข้ารับทราบข้อกล่าวหาในคดีนี้ทั้งหมด 21 คน และได้ส่งสำนวนให้อัยการแล้ว 18 คน เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 63 โดยผู้ต้องหาร้องขอความเป็นธรรม ต่ออัยการศาลแขวงปทุมวัน โดยขอให้พิจารณาสั่งไม่ฟ้องคดีทั้งหมด ส่วนอีก 3 คน ได้แก่ อรรถพล บัวใหญ่, สุวรรณา และเอกศิษฏ์ ยังอยู่ในชั้นตำรวจ 

X