ผู้ป่วยจิตเวชขอสู้คดี 112 ในศาลทหาร หลังถูกขังเกือบ 2 ปีก่อนได้ประกัน

ผู้ป่วยจิตเวชขอสู้คดี 112 ในศาลทหาร หลังถูกขังเกือบ 2 ปีก่อนได้ประกัน

13 ก.ค. 2561 ศาลมณฑลทหารบกที่ 14 จ.ชลบุรี นัดถามคำให้การคดีหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ที่ ‘บุปผา’ ผู้ป่วยจิตเวช ถูกฟ้องจากการโพสต์เฟซบุ๊ก 13 ข้อความ หลังถูกคุมขังเกือบ 2 ปี ในเรือนจำ จำเลยได้รับการประกันตัวและให้การปฏิเสธขอต่อสู้คดี

10.50 น. องค์คณะตุลาการประกอบด้วยตุลาการพระธรรมนูญ 1 นาย และตุลาการทหารในชุดเครื่องแบบปกติกากีแกมเขียวคอแบะออกนั่งบัลลังก์พิจารณาคดีที่ ‘นางบุปผา’ (นามสมมติ) ถูกฟ้องฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 ศาลอ่านฟ้องให้จำเลยฟังโดยละเอียด ใจความคือจำเลยโพสต์ภาพพร้อมข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวระหว่างวันที่ 25 ก.พ. 2558 – 19 พ.ค. 2559 จำนวน 13 โพสต์ พาดพิงถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9, สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร (พระยศขณะนั้น), สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี,ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี, พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ, พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา, และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ โดยมี 4 ข้อความที่โพสต์ขณะ คสช. ประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศ ทำให้ต้องห้ามอุทธรณ์-ฎีกา ตาม พ.ร.บ.พระธรรมนูญศาลทหาร

หลังอ่านคำฟ้องให้จำเลยฟัง ศาลถามจำเลยว่าเข้าใจฟ้องของโจทก์คืออัยการทหารหรือไม่ และจะให้การอย่างไร จำเลยตอบว่าเข้าใจและขอให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานวันที่ 5 ก.ย. 2561

อย่างไรก็ตาม ‘บุปผา’ เป็นผู้ป่วยจิตเวช ซึ่งแพทย์เพิ่งวินิจฉัยให้ต่อสู้คดีได้แม้จะมีอาการของโรคจิตเภท หลงผิดว่าตนเองเป็นเชื้อพระวงศ์ เป็นสายลับ และต้องรักษากฎมณเฑียรบาล โดยแพทย์จากสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์มาเบิกความต่อศาลเมื่อ 21 พ.ค. 2561 และสันนิษฐานว่าจำเลยอาจมีอาการป่วยอยู่ก่อนที่จะก่อคดี

สำหรับพฤติการณ์การจับกุม ‘บุปผา’ เล่าว่า ทหารและตำรวจในเครื่องแบบติดอาวุธ ไม่ต่ำกว่า 20 นาย มาจับกุมตัวไปจากร้านขายอาหารเสริมที่เธอทำงานอยู่ โดยไม่แสดงหมายจับ เธอจำได้ว่าเป็นวันที่ 27 พ.ค. 2559 หลังจากนั้นเธอถูกคุมขังเรื่อยมา

กระทั่งวันที่ 23 พ.ย. 2559 ศาล มทบ.14 จ.ชลบุรี นัดถามคำให้การในคดี ห้องพิจารณาคดีที่ 1 เจ้าหน้าที่ทัณฑสถานหญิงชลบุรี ควบคุมตัวจำเลยมาศาล มีพี่สาวและพี่เขยของจำเลยมาร่วมรับฟัง ศาลอนุญาตให้ทนายความจากสภาทนายความ จ.ชลบุรี เป็นทนายความจำเลยตามที่ญาติร้องขอให้ศาลติดต่อทนายความให้  หลังทนายความได้พูดคุยกับจำเลย ได้แถลงขอให้ศาลส่งตัว ‘บุปผา’ ไปตรวจรักษาอาการทางจิตที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ศาลอนุญาตและให้เลื่อนถามคำให้การไปก่อน เพื่อรอผลตรวจและประเมินความสามารถในการต่อสู้คดีจากแพทย์

8 ก.พ. 2560 คณะแพทย์สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์มีความเห็นในรอบ 45 วันแรกว่า  ‘บุปผา’ มีอาการทางจิตและยังไม่สามารถต่อสู้คดีได้ ให้รักษาต่อแบบผู้ป่วยในที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ระหว่างนี้ญาติของ ‘บุปผา’ ได้ติดต่อให้ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนช่วยเหลือทางคดี

ผ่านมามากว่า 8 เดือนหลังศาลได้รับผลการวินิจฉัยจากแพทย์แต่ก็ยังไม่กำหนดวันนัดไต่สวนแพทย์ 12 ต.ค. 2560 กองทุนเพื่อการเข้าถึงความยุติธรรมของนักโทษการเมืองจึงยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ‘บุปผา’ ให้มาอยู่ในความดูแลของพี่สาว เนื่องจากน่าจะเป็นผลดีต่อการรักษาอาการจิตเวชของเธอมากกว่า ศาลมีคำสั่งให้ยกคำร้องไว้ก่อน โดยแจ้งแก่ทนายความและผู้ประกันว่าจะยกคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวมาพิจารณาใหม่วันหลัง

ศาลทหารนัดฟังคำสั่งคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยต้องการให้มีการไต่สวนแพทย์ผู้ตรวจรักษาและประเมินความสามารถในการต่อสู้คดีของจำเลย ระหว่างนี้ต้องเลื่อนนัดไต่สวนแพทย์และฟังคำสั่งขอประกันตัว 3 ครั้งภายในเวลา 7 เดือน เนื่องจากปัญหาการประสานงานระหว่างศาลทหาร สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ และเรือนจำ ทำให้บางนัดแพทย์ติดภารกิจ และบางนัดไม่สามารถนำตัวจำเลยมาศาลได้

อย่างไรก็ตาม ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ‘บุปผา’ โดยใช้หลักทรัพย์ 400,000 บาท เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2561 หลังแพทย์ยืนยันว่าเธอมีอาการป่วยจริง แต่ปัจจุบันได้รับการรักษาจนสามารถกลับมาต่อสู้คดีได้ และหากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการรักษา

X