ถอดความจากบันทึกของทนายความ
ไต่สวนคำร้องขอฝากขัง 13 ขบวนการประชาธิปไตยใหม่รณรงค์ประชามติ
คดีหมายเลขดำที่ ฝพ.21/2559 วันที่ 24 มิถุนายน 2559 ศาลทหารกรุงเทพ
เวลาประมาณ 15.30 น.
- ทนายกฤษฎางค์ ทนายความนายรังสิมันต์ โรม ขออนุญาตศาลถามพนักงานสอบสวนผู้ยื่นคำร้องขอฝากขัง
ถาม : ที่ระบุในคำร้องขอฝากขังว่า คัดค้านการปล่อยชั่วคราว เพราะจะไปกระทำผิดซ้ำ เพราะอะไร
ตอบ : ทราบจากเจ้าหน้าที่ผู้จับกุมว่าผู้ต้องหามีการเคลื่อนไหวในท้องที่มาก่อนแล้ว ทราบว่ามีการจะทำกิจกรรมอีก และเจ้าพนักงานไม่มีการขอระงับ และไม่ให้มีการเคลื่อนไหว
ถาม : คำร้องฝากขังที่ระบุว่าเป็นอุปสรรคในการสอบสวนดำเนินคดีเพราะอะไร
ตอบ : ต้องสอบพยานบุคคลและพยานแวดล้อม ซึ่งมีการแจกเอกสารบริเวณที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบุคคลทั่วไป พฤติการณ์เป็นการกระทำผิดเป็นกลุ่มและลักษณะมีบุคคลรอบข้างสนับสนุน อุ้มชูในการกระทำความผิดอยู่
ถาม : คดีนี้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษหรือไม่
ตอบ : เป็นการนำจับของทหารเป็นเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามคำสั่ง คสช. ไม่ได้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษ
- นายรังสิมันต์ โรม ผู้ต้องหาที่ 1 ขอแถลงคัดค้านการฝากขังด้วยวาจา
ประเด็นแรก พลเรือนไม่ควรขึ้นศาลทหาร และเรื่องของพวกเราเป็นเรื่องรณรงค์ให้คนไปออกเสียงประชามติ ไม่เป็นความผิดกฎหมาย
รังสิมันต์ยืนยันว่า เรารณรงค์ให้คนไปออกเสียง ไม่ได้รณรงค์ให้คนไม่ไปออกเสียง ดูจากเอกสารที่มีการแจกเอกสารไปใช้สิทธินอกเขตจังหวัด ซึ่งเป็นแบบฟอร์มที่ดาวโหลดมาจากเว็ปไซด์ของกกต. และเอกสารเรื่องการ ลงทะเบียนประชามติออนไลน์
การกระทำของพวกเราเป็นการรณรงค์อีกแง่มุมหนึ่งให้ประชาชนตัดสิน ไม่ได้เป็นการจูงใจให้ประชาชนตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เป็นนำเสนอข้อมูลอีกด้านหนึ่งเท่านั้น เรารณรงค์ให้ประชาชนไปใช้สิทธิออกเสียงประชามติให้มากที่สุดและเป็นการให้ความรู้ต่อประชาชน การกระทำของพวกเราจึงไม่ทำผิดอะไรเลย
ในวันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารยอมให้จัดกิจกรรมได้ แต่ให้จัดที่บริเวณสะพานเท่านั้น เราก็ปฏิบัติตาม แต่พอจัดได้ประมาณ 15 นาที เจ้าหน้าที่ก็มาขอให้ยุติกิจกรรม แล้วมาจับพวกเรา การควบคุมตัวเจ้าหน้าที่กระทำด้วยความรุนแรง ไม่แจ้งว่าทำอะไรผิด บอกแค่ว่าจะเชิญตัวมาเฉย ๆ
ข้อหาผิดประกาศ คมช. ฉบับที่ 25/2549 เรื่องไม่พิมพ์ลายนิ้วมือ ขอเรียนว่า ประกาศ คมช. สิ้นสุดไปพร้อมกับรัฐธรรมนูญปี 50 เมื่อ คสช. มีประกาศยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 50 เนื่องจาก ม.309 รัฐธรรมนูญดังกล่าวได้รับรองความชอบด้วยกฎหมายของประกาศ คำสั่ง การกระทำของ คมช. ดังนั้นเมื่อยกเลิกรัฐธรรมนูญ 50 ม.309 ก็ถูกยกเลิกไปด้วย ประกาศคมช.ที่ 25/2549 จึงไม่มีผลบังคับใช้อีก
ข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.ประชามติ กฎหมายฉบับนี้กำหนดให้ต้องเป็น กกต. มาร้องทุกข์กล่าวโทษกับตำรวจเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ เราจัดกิจกรรมที่สำโรง เจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยการให้เราแจกใบปลิวจนแล้วเสร็จ ไม่มีการดำเนินคดี
หลักกฎหมาย ผู้ต้องหาต้องได้รับการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาจนถึงที่สุดว่าเป็นผู้กระทำความผิด การดำเนินคดีและนำตัวพวกเรามาฝากขังคดีนี้ และคัดค้านการปล่อยชั่วคราว จึงขัดกับหลักดังกล่าว
พวกเราเป็นนักศึกษาและแรงงาน ไม่มีพฤติการณ์ที่จะหลบหนี และไม่มีความจำเป็นต้องให้เสรีภาพของเราสูญสลายไป การปล่อยเราไปในระหว่างสอบสวนจะไปกระทบกับรูปคดีอย่างไร
- นายวรวุฒิ บุตรมาตร ผู้ต้องหาที่ 11 ขออนุญาตแถลง
การลงประชามติทั่วโลกจะเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เปิดพื้นที่รณรงค์เรื่องประชามติได้อย่างเต็มที่ สิ่งที่พวกเราทำคือส่งเสริมให้คนไปลงประชามติ มิได้ต้องการไม่ให้คนไปลงประชามติ
- ทนายถาวร ขออนุญาตศาลถามพนักงานสอบสวนผู้ร้องขอฝากขัง
ถาม : ที่ระบุในคำร้องว่าประสงค์จะสอบพยาน 10 ปาก ยังไม่ทราบใช่ไหมว่าเป็นใคร ชื่ออะไรบ้าง
ตอบ : ทราบ แต่จำชื่อไม่ได้ ที่จำได้คือเจ้าหน้าที่รัฐ ปลัด นายอำเภอ เจ้าหน้าที่ทหารชุดจับ และประชาชนที่อยู่บริเวณเกิดเหตุ
ถาม : ผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นนักศึกษาและแรงงาน จะไปมีอิทธิพลที่จะไปข่มขู่พยานได้อย่างไร ขนาดท่านยังไม่ทราบชื่อเลยว่าพยานคือใครบ้าง ผู้ต้องหาทั้งหมดก็ย่อมไม่ทราบว่าใครเป็นพยานบ้าง นอกจากนี้ พยานที่ท่านกล่าวมาก็เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้ต้องหาทั้งหมดย่อมไม่สามารถไปมีอิทธิพลหรือยุ่งเหยิงกับพยานบุคคลดังกล่าวได้อยู่แล้ว
สิ่งที่พวกเขาทำเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะจัดทำขึ้น คือ ทำประชามติเอง เป็นการกระทำที่ไม่เป็นความผิด ไม่สมควรจะต้องขังเขา จำกัดเสรีภาพเขาถึง 12 วัน ท่านได้ตระหนักเรื่องพวกนี้บ้างไหม
เรื่องตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือ หน่วยงานที่ตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติอาชญากรรมเป็นหน่วยงานตำรวจใช่หรือไม่ ท่านทำหนังสือสอบถามได้อยู่แล้ว เป็นเรื่องการประสานงานภายในของท่านเอง ไม่เกี่ยวกับผู้ต้องหา
การปล่อยตัวเขาไปจะเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนอย่างไร ที่ท่านระบุในคำร้องว่า คัดค้านการปล่อยชั่วคราว เนื่องจากจะเป็นอุปสรรคในชั้นสอบสวนและการพิจารณาคดีในชั้นศาล คดีนี้ยังไม่ได้ยื่นฟ้องต่อศาล จะเป็นอุปสรรคต่อการพิจารณาคดีในชั้นศาลได้อย่างไร
ตอบ : ยังไม่ยื่นฟ้อง
- ศาลถามพนักงานสอบสวนผู้ร้องขอให้ฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 13 คน
ถาม : พฤติการณ์จับกุมเป็นอย่างไร
ตอบ : ผู้ถูกจับมีการขัดขวางการจับกุม
ถาม : ลักษณะการกระทำของของผู้ต้องหาเป็นอย่างไร
ตอบ : มีผู้สนับสนุน ฮึกเหิมขึ้น
ถาม : ถ้าไม่ขังเป็นอุปสรรคอย่างไร
ตอบ : มีพยานแวดล้อมเป็นบุคคลที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เจ้าพนักงานผู้จับกุมโยงว่า ผู้ต้องหามีบุคคลรอบข้างสนับสนุนด้วย น่าจะมีคนอื่นกระทำผิด หรือช่วยเหลือเป็นอุปสรรคในการสอบสวนได้ ทำให้การสอบสวนของพนักงานสอบสวนไม่สะดวก
- คำสั่งศาล
พนักงานสอบสวนมีพยานหลักฐานพอสมควรว่าผู้ต้องหาทั้งสิบสาม น่าจะได้กระทำความผิดและเพิ่งเริ่มการสอบสวน คำคัดค้านของผู้ต้องหาทั้งสิบสาม มีลักษณะต่อสู้คดี อนุญาตให้ฝากขัง