10 ก.พ.61 จากกรณีกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย และกลุ่ม START UP PEOPLE นัดหมายจัดการชุมนุม “หยุดยื้ออำนาจ หยุดยื้อเลือกตั้ง: หมดเวลา คสช. ถึงเวลาประชาชน” เพื่อเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งภายในเดือนพ.ย.61 ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลา 16.00 น.
ก่อนจัดการชุมนุม ทางผู้จัดได้มีการแจ้งการจัดการชุมนุมตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ต่อผู้กำกับ สน.สำราญราษฎร์ แล้ว แต่มีรายงานว่าตั้งแต่คืนวันที่ 9 ก.พ. เจ้าหน้าที่ได้มีการนำรั้วเหล็กมาล้อมรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ทั้งยังนำต้นไม้มาจัดแต่งในบริเวณฐานของอนุสาวรีย์
ต่อมา ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ ตั้งแต่เวลาประมาณ 7.15 น. ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบจำนวน 4 นาย เดินทางไปรออยู่ที่หน้าบ้านพักของนายเอกชัย หงส์กังวาน 1 ใน 4 ผู้ถูกออกหมายจับ จากกรณีทำกิจกรรมการชุมนุมที่บริเวณสกายวอล์คปทุมวัน หรือ คดี MBK39 นายเอกชัยได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่รอเขาทำภารกิจส่วนตัวก่อน
จนเวลา 9.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายเอกชัย จากหน้าบ้านพัก โดยมีการแสดงหมายจับที่ออกโดยศาลอาญากรุงเทพใต้ ลงวันที่ 9 ก.พ.61 ก่อนจะนำตัวไปที่สน.ลาดพร้าว เพื่อทำบันทึกการจับกุม และนำตัวไปที่สน.ปทุมวัน เพื่อทำการแจ้งข้อกล่าวหาในช่วง 12.00 น.
ต่อมา ในช่วงบ่ายที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรั้วมากั้นระหว่างถนนและทางเท้าตรงข้ามอนุสาวรีย์และด้านหน้าร้านแมคโดนัลด์ ก่อนที่ประมาณ 15.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการตั้งจุดตรวจค้นกระเป๋า ตรวจบัตรประชาชนของผู้เดินเข้าออกในบริเวณดังกล่าว พร้อมทั้งถ่ายรูปเจ้าของบัตรด้วย ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนบางส่วน ที่เริ่มทยอยมาอยู่ทั้งในและหน้าร้านแมคโดนัลด์ และต่อมาได้มีการให้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่จอดบริเวณดังกล่าวเคลื่อนย้ายออกไปด้วย
ก่อนถึงเวลานัดหมาย ตั้งแต่เวลา 15.30 น. ผู้ชุมนุมอิสระบางส่วน ได้เริ่มแสดงออกหน้าร้านแม็คโดนัลด์ โดยไม่มีแกนนำ ประชาชนมีการตะโกนเรียกร้องการเลือกตั้ง ชูป้ายข้อความ มีการแสดงสัญลักษณ์ชูสามนิ้ว และท่ามือไขว้กากบาท
ขณะที่ตำรวจยังมีการนำรถขยายเสียงมาประกาศขอความร่วมมือให้สื่อมวลชนออกจากกลุ่มผู้ชุมนุมมาอยู่หลังแนวรั้วแผงเหล็กกับตำรวจชุดควบคุมฝูงชนด้วย แต่สื่อส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในพื้นที่การชุมนุม ขณะเดียวกันยังมีการกระจายกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนไปโดยรอบ จำนวนมากกว่า 300 นาย โดยมีกำลังบางส่วนทยอยเข้าไปตรึงกำลังภายในฐานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
เวลา 16.00 น. ผู้จัดกิจกรรมกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตยได้เดินทางมาถึงหน้าร้านแม็คโดนัลด์ราชดำเนิน และได้ประกาศจะชุมนุมอย่างสงบสันติ และไม่ได้ขัดต่อกฎหมาย โดยจะมีการขยับจุดชุมนุมออกจากแนวรั้วตรงจุดทางเท้าหน้าร้านแม็คโดนัลด์ออกไป จากนั้นจึงได้พากันเคลื่อนไปยังหน้าร้านสเต็กติดมัน และได้เริ่มกิจกรรมการปราศรัย
ส่วนทางเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชนได้เคลื่อนติดตามไป พร้อมกับมีการบีบกำลังเข้ายืนล้อมทั้งสองฝั่งของทางเท้าถนนราชดำเนินที่ผู้ชุมนุมร่วมตัวกันอยู่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ที่อยู่โดยรอบก็มีการปิดกั้นประชาชนหลายกลุ่มที่รออยู่ตามจุดต่างๆ รอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไม่ให้ข้ามมายังฝั่งที่มีการจัดชุมนุมปราศรัย ทำให้มีประชาชนกระจัดกระจายรวมกันอยู่ในร้านแม็คโดนัลด์ และร้านอาหารเมธาวลัยศรแดงด้วย
จนเวลา 16.50 น. นายสิริวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ “จ่านิว” ได้เดินทางมาถึงจุดชุมนุม ก่อนร่วมปราศรัยในการชุมนุม โดยมีการเรียกร้องให้ คสช. มีการจัดการเลือกตั้งภายในเดือนพฤศจิกายน 2561 คัดค้านการขยายโรดแม็ปและการสืบทอดอำนาจของ คสช.
เวลาประมาณ 5.15 น. นายรังสิมันต์ โรม และนายอานนท์ นำภา ก็ได้เดินทางมาถึงจุดชุมนุมเช่นกัน โดยอานนท์มีการถือกล่องจำลองเป็นหีบบัตรลงคะแนนเสียงเลือกตั้งเข้ามาในที่ชุมนุมด้วย
ทั้งสามคนเพิ่งถูกศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติหมายจับ จากกรณีทำกิจกรรมการชุมนุมที่บริเวณสกายวอล์คปทุมวัน หรือ “คดี MBK39” และไม่ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก 2 ครั้ง โดยเมื่อทั้งสามคนไปถึง และเข้าร่วมการปราศรัย เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ได้มีการควบคุมตัวทั้งสามคน
หลังจากนั้น กิจกรรมการปราศรัยได้ดำเนินไป โดยมีการแจกโปสเตอร์ “หยุดวางไข่เผด็จการ หยุดยื้อเลือกตั้ง หยุดสืบทอดอำนาจ” ให้กับผู้เข้าร่วมด้วย และผู้ชุมนุมได้มีการชูโปสเตอร์นำไปยังหน้าร้านแม็คโดนัลด์ด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่มีการตั้งแถวปิดถนนดินสออยู่พักหนึ่ง ก่อนกลับมาเปิดอีกครั้ง
หลังจากนั้น กิจกรรมได้มีการผลัดกันปราศรัยวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ คสช. และเรียกร้องเรื่องการเลือกตั้ง โดยในช่วงหัวค่ำ ประมาณการณ์ผู้ร่วมชุมนุมราว 600 คน มีบางผู้ชุมนุมบางส่วนล้นออกมาบนถนนด้วย เนื่องจากทางเท้ามีพื้นที่จำกัด
เวลา 18.00 น. มีรายงานว่ามีการกักรถเครื่องเสียงที่พยายามเข้ามาในที่จัดกิจกรรม ก่อนที่เวลา 19.00 น. จะมีการเจรจาจนให้นำรถเครื่องเสียงเข้ามาที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยได้ ทำให้เริ่มมีการสลับกันปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียง
จนเวลาประมาณ 19.40 น. อานนท์ นำภา ได้ขึ้นปราศรัย และประกาศจะร่วมกับรังสิมันต์ โรม และสิริวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ เดินทางไปยังสน.ปทุมวัน เพื่อพบกับเอกชัยที่ถูกควบคุมตัวอยู่ตั้งแต่เมื่อเช้าที่ผ่านมา โดยทีี่ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการนำรถตู้มารอควบคุมตัวทั้งสามคนแล้ว
เวลา19.45 น. เมื่อรังสิมันต์ สิริวัชญ์ และอานนท์ เสร็จการปราศรัย ได้เดินมาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รออยู่ เจ้าหน้าที่ได้นำหมายจับทั้งสามคนมาแสดง และเริ่มอ่านรายละเอียดของหมายจับให้ฟัง ก่อนนำตัวขึ้นรถตู้ที่เตรียมไว้ออกไปยังสน.สำราญราษฎร์ เพื่อทำบันทึกการจับกุม และจะนำตัวไปที่สน.ปทุมวันต่อไป