ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน กักขัง 10 วัน 6 นักกิจกรรม คดีละเมิดอำนาจศาล เห็นว่าถูกดำเนินคดีจำนวนมาก ส่อไม่มีสำนึก-ไม่กลับใจ ไม่มีเหตุรอลงอาญา ก่อนให้ประกันระหว่างฎีกา

21 มิ.ย. 2566 เวลา 13.30 น. ศาลจังหวัดธัญบุรีนัดฟังคำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ในคดีของนักกิจกรรม 6 ราย ได้แก่ “ฟ้า” พรหมศร วีระธรรมจารี, “ปูน” ธนพัฒน์ กาเพ็ง, “ต๋ง” ปนัดดา ศิริมาศกูล, “บอย” ชาติชาย แกดำ, “ณัฐ” ณัฐชนน ไพโรจน์ และ “ฮิวโก้” สิริชัย นาถึง ที่ถูกศาลตั้งเรื่องพิจารณาข้อหาละเมิดอำนาจศาล

เหตุในคดีนี้สืบเนื่องจากกรณีการแสดงออกในห้องควบคุมผู้ต้องขังของศาลจังหวัดธัญบุรี หลังศาลไม่ให้ประกันตัวนักกิจกรรม 9 คน ในคดีชุมนุมหน้า บก.ตชด. ภาค 1 เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 64 โดยในระหว่างรอฟังคำสั่ง นักกิจกรรมทั้ง 9 ราย ถูกกล่าวหาว่าได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก เขียนข้อความที่ไม่เหมาะสมบริเวณฝาผนังห้อง ส่งเสียงดังก่อให้เกิดความรำคาญ และมีการทำลายทรัพย์สินของราชการได้รับความเสียหาย

ย้อนไปเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2564 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งลงโทษจำคุกผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 9 คน คนละ 20 วัน แต่ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 9 รายให้การรับสารภาพ จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือโทษจำคุกคนละ 10 วัน ทั้งนี้เห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาหลายคนยังศึกษาเล่าเรียนอยู่และเคยถูกคุมขังมาก่อนแล้ว จึงมีคำสั่งให้เปลี่ยนเป็นโทษกักขังเป็นระยะเวลา 10 วัน

เนื่องจากในขณะนั้น “เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์, “ไมค์” ภาณุพงศ์ จากนอก และแซม ซาแมท อยู่ในระหว่างถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทนายไม่ได้ยื่นคำร้องขอประกันตัว หลังศาลชั้นต้นมีคำสั่งในคดีนี้ จึงถูกย้ายตัวไปกักขังต่อที่สถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานี ครบระยะเวลา 10 วันแล้ว จึงมีเพียงผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 6 คนที่อุทธรณ์คดีต่อ

เวลา 14.10 น. ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 8 ผู้พิพากษาอ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 1 ให้ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 6 คนฟัง สามารถสรุปได้ดังนี้

เห็นว่า คดีนี้มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่ามีเหตุให้รอการลงโทษผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 6 คนหรือไม่

ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ในขณะที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดระหว่างรอฟังคำสั่งประกันตัวในศาลชั้นต้น ผู้ถูกกล่าวหาได้ใช้ปากกาขีดเขียนถ้อยคำหยาบคาย มีการเผยแพร่ภาพถ่ายทอดสด ตะโกนด่าทอเจ้าหน้าที่ด้วยถ้อยคำหยาบคาย เจ้าหน้าที่ตักเตือนก็ไม่ฟัง

เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาฝ่าฝืนข้อกำหนดศาล ทำลายทรัพย์สินราชการ พฤติกรรมส่อเป็นนักเลงอันธพาล ก่อความเสียหายต่อศาลยุติธรรม

ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 6 คน ถูกดำเนินคดีในความผิดดูหมิ่นศาล, ความผิดฐานหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามป.อ. มาตรา 112 และความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จำนวนมากหลายคดี ส่อว่าไม่มีสำนึกรับผิดชอบ ไม่กลับใจ ไม่มีเหตุให้รอลงอาญา โทษกักขัง 10 วันที่สถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานีเหมาะสมแล้ว ไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม อุทธรณ์ของผู้ถูกกล่าวหาฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน

หลังศาลมีคำสั่งลงโทษกักขัง เจ้าหน้าที่ศาลให้นักกิจกรรมทั้ง 6 คนเขียนคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวและรอฟังคำสั่งประกันตัวในห้องพิจารณา

ก่อน เวลา 18.00 น. ศูนย์ทนายฯ ได้รับแจ้งว่า ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวผู้ถูกกล่าวหาในระหว่างฎีกา โดยใช้หลักทรัพย์เดิมที่วางไว้ระหว่างอุทธรณ์ คือเงินสดคนละ 10,000 บาท ซึ่งเป็นเงินจากกองทุนราษฎรประสงค์ และไม่มีเงื่อนไขในการปล่อยตัวชั่วคราวใดๆ