28 ต.ค. 60 นายเอกชัย หงส์กังวาน กลับถึงบ้านแล้ว หลังทหาร-ตำรวจคุมตัวอยู่ที่กาญจนบุรี 5 วัน ตำรวจให้เซ็นเอกสารระบุ ไปด้วยความเต็มใจ ไม่มีการบังคับขู่เข็ญและได้รับการปฎิบัติอย่างดี ก่อนส่งตัวกลับ
วันนี้ เวลา 8.44 น. นายเอกชัยได้โทรศัพท์ติดต่อทนายความของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ระบุว่าตอนนี้ตนถูกพากลับมาที่อำเภอเมืองกาญจนบุรีแล้ว และเที่ยงวันนี้เจ้าหน้าที่ทหารจะพามาส่งที่กรุงเทพฯ แต่จะพาตัวไปกินอาหารกลางวันกับ ผบ.ก่อนโดยไม่ทราบยศหรือสังกัด ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านสามเสน ก่อนจะส่งตัวกลับบ้าน
จากนั้นเวลาประมาณ14.40 น. นายเอกชัย หงส์กังวานได้โทรแจ้งทนายความของศูนย์ทนายความฯ อีกครั้งว่า ตนเดินทางกลับถึงบ้านพักในกรุงเทพฯแล้ว หลังถูกควบคุมตัวไปที่จังหวัดกาญจนบุรีตั้งแต่วันที่ 24-28 ต.ค.2560 รวมเป็นเวลา 5 วัน
เหตุจากที่ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 20 ต.ค.2560 นายเอกชัยได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวในลักษณะว่าจะใส่เสื้อสีแดงในวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นในเช้าวันต่อมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปพบที่ร้านซึ่งเขาทำงานอยู่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามสอบถามถึงสิ่งที่เอกชัยโพสต์ และเตือนให้ระมัดระวัง โดยทางเอกชัยยืนยันว่าตนไม่ได้จะกระทำสิ่งที่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด
ต่อมาวันที่ 24 ต.ค.60 เวลาประมาณ 08.24 น. นายเอกชัยได้แจ้งกับทนายความของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนว่า ถูกทหารราว 11 นาย ไม่แจ้งยศและสังกัด คุมตัวไปจากบ้านพักในกรุงเทพฯ ซึ่งขณะจับกุมไม่มีการแสดงหมายค้น หรือหมายจับ ไม่มีการแสดงบัตรประจำตัว และทำการยึดโทรศัพท์มือถือของนายเอกชัย โดยให้นายเอกชัยเลือกว่าระหว่างไป “เที่ยว” ที่จังหวัดกาญจนบุรี หรือไปอยู่ในค่ายทหาร ซึ่งนายเอกชัยเลือกไปที่จังหวัดกาญจนบุรีกับเจ้าหน้าที่ทหาร เพื่อความสบายใจในช่วงงานพระราชพิธีฯ นายเอกชัยยังระบุว่าในการควบคุมตัวได้มีความพยายามฉุดกระชากตัวให้ไปขึ้นรถ ทำให้เอกชัยล้มศอกซ้ายกระแทกพื้นจนได้รับบาดแผลถลอก ซึ่งยังปรากฎรอยจนถึงวันนี้
จนกระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น. นายเอกชัยได้ติดต่อทนายความอีกครั้งและแจ้งว่าถูกนำตัวไปที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรีแล้ว ต่อมาทนายความของศูนย์ทนายความฯ ได้รับการติดต่อจากนายเอกชัยอีกครั้งในตอนสายของวันที่ 26 ต.ค. โดยแจ้งว่าตนถูกย้ายไปที่รีสอร์ตอีกแห่งในอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี และทหารจะปล่อยตัวในวันที่ 28 ต.ค. ก่อนจะขาดการติดต่อไป
(ภาพรอยแผลขณะถูกควบคุมตัว ที่นายเอกชัยโพสลงเฟสบุ๊กส่วนตัวภายหลังจากได้รับการปล่อยตัว)
นายเอกชัยได้เล่าเหตุการณ์ระหว่างถูกควบคุมตัวว่า (24 ต.ค.)หลังจากถูกพาตัวออกจากบ้านพักในกรุงเทพฯ ตนได้ถูกพาตัวขึ้นรถกระบะของตำรวจโดยมีตำรวจสันติบาล 3 นาย และทหาร 1 นาย คุมตัวไปจนถึงรีสอร์ทแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรีประมาณเที่ยงวันนั้น โดยที่รีสอร์ตมีตำรวจนอกเครื่องแบบ 4 นายรอรับอยู่แล้ว แต่ไม่แจ้งยศสังกัด นายเอกชัยทราบเพียงชื่อเล่นของพวกเขา
นายเอกชัยเล่าอีกว่า ระหว่างถูกควบคุมตัวในจังหวัดกาญจนบุรีเขาถูกย้ายที่พักสองครั้งด้วยกันครั้งแรกถูกพาไปรีสอร์ตแห่งหนึ่งในอ.ทองผาภูมิ และครั้งที่สองนายเอกชัยถูกนำตัวกลับมาที่พักแห่งแรก
นอกจากนั้นเขายังถูกพาไปที่สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในจังหวัดกาญจนบุรี เช่น น้ำตกไทรโยค, หมู่บ้านปิล็อก, โป่งน้ำร้อน,สะพานข้ามแม่น้ำแคว เป็นต้น โดยระหว่างที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในจังหวัดกาญจนบุรี นายเอกชัยมีตำรวจนอกเครื่องแบบและเจ้าหน้าที่ทหารคอยติดตาม มีการถ่ายภาพและส่งรายงานทางแอพพลิเคชั่นไลน์อยู่ตลอดเวลา
จากนั้นในช่วงเช้าวันที่ 28 ต.ค. นายเอกชัยถูกนำตัวออกจากจังหวัดกาญจนบุรีกลับมาถึงกรุงเทพฯในช่วงสาย ก่อนจะถูกนำตัวไปพบกับตำรวจนายหนึ่งไม่ทราบยศหรือสังกัด ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านสามเสน โดยเอกชัยกล่าวถึงเนื้อหาการสนทนาว่า ตำรวจคนดังกล่าวถามนายเอกชัยว่าทำไมต้องออกมาเคลื่อนไหวแบบนี้ และหากยังไม่เลิกเคลื่อนไหวก็จะเอาข้อมูลที่รวบรวมมาดำเนินคดีกับนายเอกชัย และยังได้บอกกับเอกชัยอีกว่า การโพสต์ว่าจะสวมเสื้อแดงเข้าข่ายเป็นความผิดฐานยุยงปลุกปั่นตามประมวลกฎหมายอาญา ม.116
หลังการสนทนาเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าว ได้ให้เอกชัยลงชื่อในเอกสารที่ระบุว่าการนำตัวไปจังหวัดกาญจนบุรีครั้งนี้เอกชัยยินยอมไปด้วยความเต็มใจ ไม่ได้มีเจ้าหน้าที่บังคับขู่เข็ญและได้รับการปฏิบัติอย่างดีจากเจ้าหน้าที่ แต่นายเอกชัยระบุว่าตน ได้ขีดฆ่าข้อความที่ว่าเขาได้รับการฏิบัติอย่างดีทิ้ง และเขียนว่า ยกเว้นเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นายที่เข้าจับกุมเขาในวันที่ 24
จากนั้นตำรวจจึงนำตัวเขาส่งถึงบ้านพักในเวลาประมาณบ่ายโมงกว่าและคืนโทรศัพท์มือถือคืนให้นายเอกชัย
อย่างไรก็ตาม ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเห็นว่าการกระทำการดังกล่าวของเจ้าหน้าที่นั้น กระทำไปโดยไม่ได้อาศัยฐานอำนาจใดทางกฎหมาย และเอกชัยไม่ได้เข้าร่วมโดยสมัครใจเนื่องจากไม่มีเสรีภาพในการเลือก การเลือกว่าจะไปเที่ยวกาญจนบุรีหรือค่ายทหาร และมีเจ้าหน้าที่ควบคุมตลอดเวลาโดยไม่อาจติดต่อสื่อสารบุคคลภายนอกได้โดยอิสระนั้น ไม่นับว่าเป็นทางเลือกหรือความยินยอม การกระทำดังกล่าวจึงละเมิดต่อเสรีภาพของประชาชน และเจ้าหน้าที่อาจถูกดำเนินคดีได้ในภายหลัง
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ทหาร-ตำรวจบุกคุมตัว ‘เอกชัย’ จากบ้าน ยังไม่ทราบสถานที่ควบคุมตัว
แถลงการณ์ เรียกร้องให้ปล่อยตัวนายเอกชัย หงส์กังวาน จากการควบคุมตัวโดยมิชอบด้วยกฎหมาย