ตร.สกัดนักข่าว – กันกลุ่มอนุรักษ์ฯ อุดรฯ ไม่ให้ยื่นหนังสือค้านโปแตซกับประยุทธ์ หวั่นชูป้ายด่า 

2 มี.ค. 2566 บอส (นามสมมติ) อายุ 29 ปี นักข่าวอิสระ เดินทางไปที่หอประชุม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (ศูนย์สามพร้าว) เพื่อทำข่าวกรณีชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานีเตรียมยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คัดค้านเหมืองแร่โปแตซที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ อ.เมือง และ อ.ประจักษ์ศิลปาคม ในระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการสัมมนา “บทบาทท้องถิ่นไทยกับการกระจายอำนาจเพื่อการไปต่ออย่างยั่งยืน” 

เมื่อไปถึงจุดหมายช่วง 08.30 น. ขณะรับประทานอาหารอยู่ด้านข้างหอประชุม  มีตำรวจจาก สภ.เมืองอุดรธานี เดินเข้ามาสอบถามบอสว่า มาที่นี่เพื่ออะไร และขอตรวจดูบัตรประชาชน ก่อนบอสจะยื้อไม่ให้บัตรประชาชนแก่ตำรวจ แต่ก็แจ้งชื่อไป พร้อมกับบอกว่า วันนี้มาในฐานะผู้สื่อข่าว ต้องการสื่อสารเรื่องนี้ลงเพจ สำนักข่าวชายขอบ และเฟซบุ๊กเพจกอผือรื้อเผด็จการ โดยกลุ่มทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้ชาวบ้านในการคัดค้านเหมืองแร่โปแตซ 

อย่างไรก็ตาม ตำรวจพยายามให้บอสตอบคำถามว่า วันนี้มาทำกิจกรรมทางการเมืองหรือไม่ รวมไปถึงมีกิจกรรมในลักษณะปั่นป่วนให้เกิดความไม่สงบหรือไม่ ตำรวจยังพยายามบอกบอสว่า ไม่ให้ชูป้ายในงาน 

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบก็คอยประกบบอสอยู่ตลอดเวลา ตำรวจนายหนึ่งกล่าวกับบอสว่า ถ้าเขาถ่ายภาพจะถูกรวบตัวบอสทันที บอสแจ้งว่า จะถ่ายภาพเฉพาะตอนที่มีชาวบ้านเข้ามายื่นหนังสือเท่านั้น 

สุดท้ายบอสทราบว่า กลุ่มอนุรักษ์ฯ ที่เดินทางมาราว 30-50 คน ไม่สามารถเดินทางเข้ามาในมหาวิทยาลัยได้ เพราะถูกตำรวจสกัดกั้นไว้ อ้างว่าตรวจหาอาวุธ แม้ทางกลุ่มก็บริสุทธิ์ใจที่จะให้ตรวจค้นแต่โดยดี และนำเอกสารแถลงการณ์ให้เจ้าหน้าที่ตรวจดู แต่แล้วตำรวจกลับแจ้งว่า ต้องรอให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบป้ายที่กลุ่มอนุรักษ์ฯ เตรียมมาด้วย และยื้อเวลาจนกลุ่มอนุรักษ์ฯ ไม่สามารถเข้าพบเพื่อยื่นหนังสือให้ พล.อ.ประยุทธ์ได้ ส่วนบอสเองก็ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ทำข่าวในวันนี้  หนำซ้ำยังถูกตำรวจถ่ายภาพและถ่ายคลิปวีดีโอไว้ด้วย 

กระทั่ง พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมาถึงราว 10.00 น. ระหว่างนั้นมีตำรวจเดินล้อมหน้าล้อมหลังบอสอยู่ราว 6 นาย ทำให้บอสรู้สึกไม่ปลอดภัย นอกจากนี้เท่าที่สังเกตเห็นในงานมีตำรวจอยู่ราว 100-200 นาย จากนั้นบอสยังถูกคุมตัวขึ้นรถไปร้านกาแฟที่อยู่ห่างไปราว 5 กิโลเมตร ถึงจุดนั้นตำรวจพยายามพูดคุยว่าทำตามระเบียบหน้าที่ ส่วนบอสก็พยายามโต้แย้งว่าก็ทำตามหน้าที่ในการเขียนข่าวเหมือนกัน ก่อนบทสนทนาจะจบลง ที่ตำรวจขับรถกลับมาส่งบอสบริเวณมหาวิทยาลัย และเขาเดินทางกลับที่พัก 

สำหรับบอส นอกจากเป็นนักกิจกรรมกลุ่มผือรื้อเผด็จการ เคลื่อนไหวด้านสังคมการเมืองในอุดรธานี บอสยังเป็นนักข่าวอิสระเผยแพร่งานที่สำนักข่าวชายขอบอีกด้วย ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2565 บอสเจอเหตุการณ์ที่มีชายแต่งกายคล้ายกับเขา ขับรถเข้าไปที่บ้าน ในช่วงพระเทพฯ เสด็จไปที่อุดรธานี คาดว่าเป็นเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบแฝงตัวมาคอยเช็คพิกัดที่อยู่ของบอสและปรามการเคลื่อนไหวแสดงออกในระหว่างนั้น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง  

นักกิจกรรมอุดรฯ กังวล ชายแต่งกายคล้ายตน ขับรถเนียนเข้าไปที่บ้าน คาดเป็นตำรวจไปเช็คพิกัดก่อนพระเทพฯ เสด็จ ชี้ จนท.ควรใช้วิธีเปิดเผย

X