TW: เลือด, ความรุนแรง
เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2565 ตั้งแต่เวลา 07.00 น. กลุ่ม “ราษฎรหยุดAPEC2022” นัดหมายเคลื่อนขบวนจากลานคนเมืองไปยังศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านการประชุม APEC 2022 ซึ่งจัดขึ้น ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 16-19 พ.ย. 2565
หลังผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนมาได้ถึงบริเวณต้นถนนดินสอ ยังไม่ทันถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวางกำลังและรถยนต์ปิดกั้นเส้นทาง ก่อนใช้กำลังเข้าจับกุมผู้ชุมนุม 2 ระลอก มีผู้ชุมนุมถูกจับกุมรวมทั้งสิ้น 26 ราย โดยผู้ถูกจับกุมที่ได้รับบาดเจ็บมีจำนวน 13 ราย และยังมีผู้ชุมนุมบาดเจ็บอีกหลายราย โดยบางรายอาการสาหัสและต้องเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลทันที
ลำดับเหตุการณ์ #ม็อบ18พฤศจิกา65 – ราษฎรหยุดAPEC ที่ถนนดินสอ
กลุ่ม “ราษฎรหยุด APEC 2022” นัดหมายทำกิจกรรมทั้งหมด 4 วัน ระหว่างวันที่ 16-19 พ.ย. 2565 โดยมุ่งหมายเพื่อคัดค้านการประชุม APEC 2022 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-19 พ.ย. 2565 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
วันที่ 18 พ.ย. 2565 กลุ่มราษฎรหยุด APEC 2022 ประกาศว่าจะเริ่มต้นเคลื่อนขบวนที่ “ลานคนเมือง” เพื่อไปยัง “ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์” โดยมีลำดับเหตุการณ์โดยสรุป ดังนี้
08.35 น. ก่อนเริ่มเคลื่อนขบวนมีกิจกรรมการตีกลองสะบัดชัยของกลุ่ม Neo Lanna และกิจกรรมจำลองการตัดหัวประยุทธ์ด้วยกิโยติน ที่บริเวณเสาชิงช้า ขณะที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรถเครื่องเสียงมาจอดที่บริเวณหัวมุมถนนศิริพงศ์ตัดถนนบำรุงเมือง เพื่อประกาศเกี่ยวกับข้อกฎหมายการชุมนุมสาธารณะ
09.00 น. ขบวนผู้ชุมนุมเคลื่อนตัวออกจากลานคนเมืองไปตามถนนดินสอ มุ่งหน้าไปทางอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและ คฝ.จำนวนมากตรึงกำลังอยู่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งแผงเหล็กกั้นถนนดินสอ ระบุว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นจุดเจรจา
ขณะเดียวกันก็ประกาศห้ามมิให้มีการเคลื่อนขบวน และสั่งให้ผู้ชุมนุมกลับไปชุมนุมต่อที่ลานคนเมืองดังเดิม โดยฝ่ายเจ้าหน้าที่อ้างว่าได้ให้สิทธิตามกฎหมายชุมนุมสาธารณะแก่กลุ่มผู้ชุมนุมและจัดพื้นที่ชุมนุมให้ตามกฎหมายแล้ว แต่กลุ่มผู้ชุมนุมยังยืนยันในสิทธิการชุมนุมของตน โดยผู้ชุมนุมบางส่วนได้ทำการรื้อแผงเหล็กเพื่อเคลื่อนขบวนไปตามกำหนดการเดิม
09.18 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศให้สื่อมวลชนที่ปะปนอยู่ภายในกลุ่มผู้ชุมนุมแยกออกมา โดยให้ไปยืนอยู่บนฟุตบาทสองข้างทางเท่านั้น ทั้งยังประกาศให้เจ้าหน้าที่ที่ปะปนอยู่ภายในกลุ่มผู้ชุมนุมแยกตัวออกมาด้วย ซึ่งคาดว่าหมายถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนนอกเครื่องแบบที่เข้าไปปฏิบัติการหาข่าวในที่ชุมนุม โดยระหว่างนั้นแนวหน้าของกลุ่มผู้ชุมนุมตั้งแถวหน้ากระดานคล้องแขนกันเดินหน้ามาเรื่อยๆ เจ้าหน้าที่ คฝ. จำนวนมากได้ตั้งแนวกำลังอยู่ด้านหลังรถเครื่องเสียงของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นผู้เจรจา
09.27 น. ผู้ชุมนุมพยายามผลักรถเคลื่อนที่เร็วของ คฝ. 2 คันที่ถูกนำมาจอดขวางถนนดินสอไว้ จากนั้น บารมี ชัยรัตน์ หนึ่งในแกนนำคณะราษฎรหยุด APEC 2022 ประกาศว่า “ป้าเป้า” ถูก คฝ. ที่อยู่แนวหน้าจับกุมไป ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้ร่วมกันตะโกนเรียกร้องให้ปล่อยป้าเป้าอยู่พักหนึ่ง แต่ไม่เป็นผล และต่อมาบารมีประกาศว่ามีผู้ถูกจับกุมเพิ่มเติม เป็นหญิงวัยกลางคน 1 ราย และพระ 1 รูป
09.43 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจนำรถเครื่องเสียงมาเพิ่มอีก 1 คัน ขณะที่แกนนำผู้ชุมนุมประกาศให้ผู้ร่วมชุมนุมถอยไปอยู่ด้านหลัง เพื่อสลับให้การ์ดผู้ชุมนุมขึ้นไปอยู่แนวหน้า เพราะคาดว่าจะมีการปะทะ จากนั้นไม่นานก็เกิดการปะทะขึ้น ระหว่างผู้ชุมนุมและ คฝ. ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก และมีการ์ดผู้ชุมนุมถูกจับกุมเพิ่มอีก 1 ราย ในช่วงที่มีการปะทะ
09.54 น. เมื่อการปะทะสงบลง เจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศว่าการชุมนุมนี้เป็นการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายตาม พ.ร.บ. การชุมนุมฯ พร้อมสั่งห้ามผู้ชุมนุมไม่ให้ฝ่าแนวกั้นของรถตำรวจและ คฝ. รวมทั้งสั่งผู้ชุมนุมย้อนให้กลับไปทำกิจกรรมต่อที่ลานคนเมืองดังเดิม ซึ่งฝ่ายแกนนำประกาศยืนยันว่า จะฝ่าแนวกั้นไปโดยไม่มีการถอยร่น
10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศอีกครั้งผ่านโทรโข่ง โดยระบุว่าหากผู้ชุมนุมฝ่าแนวกั้นเข้าไปจะถูกจับกุม พร้อมทั้งสั่งให้สื่อมวลชนไปอยู่ในพื้นที่ที่จัดไว้ให้ และหากเกิดอะไรขึ้นทางตำรวจจะไม่รับผิดชอบ
10.08 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้ร่วมกันใช้สลิงดึง-ลากรถเคลื่อนที่เร็วของ คฝ. ที่จอดขวางอยู่เพื่อเปิดเส้นทางให้ขบวนสามารถเดินหน้าต่อไปได้ สื่อมวลชนหลายสำนักในพื้นที่ชุมนุมรายงานว่า มีการสมทบกำลังเจ้าหน้าที่ คฝ. เข้าไปยังแนวปะทะเรื่อยๆ จากนั้นการปะทะก็ทวีความรุนแรงขึ้น
10.13 น. เมื่อการปะทะสงบลง ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล ได้ผลัดเปลี่ยนขึ้นมาอยู่บนรถเครื่องขยายเสียงแล้วประกาศถามทั้งน้ำตาว่ายิงกระสุนยางทำไม? โดยได้ชูปลอกกระสุนยางจำนวน 2 ชิ้นให้ดูเป็นหลักฐานด้วย ซึ่งในขณะนั้นมีรายงานว่าผู้ชุมนุมถูกจับกุมเพิ่มเติมอีก 5 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ทั้งจากกระสุนยาง ถูกฟาดด้วยกระบอง ไม่เว้นแม้แต่สื่อมวลชน โดยทางแกนนำผู้ชุมนุมยังคงทำการประกาศต่อไป โดยมีข้อเรียกร้องให้ตัวแทนจากทุกประเทศที่เข้าร่วมการประชุม APEC 2022 ส่งตัวแทนมามารับข้อเสนอจากผู้ชุมนุม และเชิญชวนให้มาสังเกตการณ์การใช้ความรุนแรงต่อประชาชน ณ พื้นที่ชุมนุมด้วย พร้อมกับยืนยันจะยึดที่มั่นไว้ไม่เคลื่อนขบวน ซึ่งต่อมาไม่นานแกนนำก็ประกาศเพิ่มเติมว่ามีตัวแทนทูตจากอย่างน้อย 5 ประเทศกำลังเดินทางมายังพื้นที่การชุมนุม
10.33 น. มีการเจรจาระหว่างฝ่ายตำรวจและแกนนำผู้ชุมนุม โดยมีข้อสรุปว่าทางเจ้าหน้าที่ให้เวลาผู้ชุมนุมปักหลักอยู่บนถนนดินสออีก 30 นาที หากผู้ชุมนุมยังไม่เคลื่อนขบวนกลับไปยังลานคนเมืองก็จะทำการสลายการชุมนุมอีกครั้ง
10.45 น. สื่อมวลชนในพื้นที่รายงานว่า เจ้าหน้าที่ คฝ. แนวหน้าใช้ผ้าสีดำทึบมาคลุมทับโล่กำบัง คาดว่าเพื่ออำพรางอาวุธปืนในมือ
10.52 น. ฝ่ายเจ้าหน้าที่ประกาศเตือนว่าใกล้จะหมดเวลา 30 นาที ตามที่กำหนดไว้แล้ว ขณะที่ทางกลุ่มผู้ชุมนุมยังไม่ท่าทีว่าจะถอยร่น
12.33 น. ขณะผู้ชุมนุมทานอาหารกลางวัน โดยมีผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์โดยการจุดเตาและตั้งกะทะคั่วพริกเกลือ ก่อนยกเตาไปวางไว้บนรถตำรวจที่จอดขวางไว้ และเปิดพัดลมเร่งไฟในเตา ไม่นาน คฝ.ได้เอาโฟมดังเพลิงมาฉีดใส่เตา และเลยมาถูกกล้องของสื่อจำนวนมากที่บันทึกภาพกิจกรรมอยู่ จากนั้นผู้ชุมนุมและ คฝ. ต่างขว้างปาสิ่งของใส่กัน ขณะที่เจ้าหน้าที่อยู่บนรถเครื่องขยายเสียงประกาศห้ามผู้ชุมนุมใช้ความรุนแรง มิเช่นนั้นจะดำเนินตามมาตรการ ไม่กี่นาที คฝ. ก็เดินแถวเข้าหาผู้ชุมนุม พร้อมทั้งยิงกระสุนยางและใช้กำลังเข้าจับกุมผู้ชุมนุม มีผู้ชุมนุมที่หนีไม่ทันถูก คฝ.รุมกระทืบและใช้กระบองฟาดหลายราย ส่วนผู้ชุมนุมที่เหลือถอยร่นไปเป็นระยะหลายสิบเมตร
12.39 น. สื่อมวลชนถูกเจ้าหน้าที่กันออกจากพื้นที่โดยอยู่ห่างจากกลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 50 เมตร ขณะที่บริเวณกลางถนนดินสอมีเจ้าหน้าที่ คฝ. ยืนตรึงกำลังอยู่เต็มพื้นที่ พร้อมกับนำโล่ทึบมาปิดกั้นทำให้สื่อมวลชนไม่ให้สามารถถ่ายภาพหรือวิดีโอ เพื่อรายงานสถานการณ์ได้ตามปกติ
12.45 น. สื่อมวลชนยังไม่สามารถรายงานสถานการณ์ได้ ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมต่างเรียกร้องให้คืนตัวผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ด้านหลังแนว คฝ.เพื่อจะได้นำส่งโรงพยาบาล ต่อมาฝ่ายเจ้าหน้าที่จึงเข้ามาเจรจากับแกนนำผู้ชุมนุมแล้วประกาศให้มีช่องว่างระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย จากนั้นทั้งสองฝ่ายก็เปิดทางให้รถพยาบาลเข้ามานำตัวคนเจ็บออกไป
13.15 น. มีรายงานว่าการปะทะครั้งนี้ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงด้วยกระสุนยางอย่างน้อย 3 ราย ได้แก่ “พายุ ดาวดิน” นักกิจกรรมที่ทำหน้าที่การ์ดผู้ชุมนุมถูกกระสุนยางยิงเข้าที่ตาข้างขวา, ผู้ประสานกองเลขานุการสมัชชาคนจนภาคอีสานถูกยิงเข้าที่ท้อง และผู้ชุมนุมอีกรายถูกยิงที่หลัง นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า สื่อหลายรายได้รับบาดเจ็บด้วย เช่น ช่างภาพหญิงจากสำนักข่าวรอยเตอร์ ซึ่งได้รับบาดเจ็บที่ด้านในเปลือกตา บริเวณเยื่อบุตา เนื่องมาจากถูกของแข็งที่ลอยมาจากบริเวณใกล้แนวของ คฝ., นักข่าวพลเมืองของ The Isaan Record ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายร่างกายจนหัวแตกและฟกช้ำตามตัว ขณะรายงานสถานการณ์ชุมนุม (Live) แม้ว่าจะตะโกนบอกว่าเป็นสื่อแล้ว
13.26 น. ฝ่ายตำรวจนำตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 4 ตู้ มาวางขวางกั้นที่ถนนดินสอ ก่อนเจ้าหน้าที่ คฝ. จะถอยร่นเข้าไปด้านหลังตู้คอนเทนเนอร์ แต่ฝ่ายผู้ชุมนุมยังคงปักหลักอยู่บนถนนดินสอต่อไป
14.20 น. “มายด์” ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล ประกาศแถลงการณ์ในนามราษฎรหยุด APEC 2022 โดยประณามการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ พร้อมยืนยันว่าการชุมนุมครั้งนี้มีข้อเรียกร้องในเรื่องปัญหาปากท้อง ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสิ่งที่พูดได้ในประเทศประชาธิปไตย โดยระบุว่าการชุมนุมนี้ ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เป็นพี่น้องเกษตรกรที่มาจากต่างจังหวัด แต่กลับถูกฝ่ายเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุม ทั้งใช้กระบอง กระสุนยาง และแก๊สน้ำตา ส่งผลให้ผู้ร่วมชุมนุมที่เป็นผู้สูงอายุได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก และยังได้ประกาศข้อเรียกร้องเร่งด่วนอีก 3 ข้อ ได้แก่
- ให้เจ้าหน้าที่บอกข้อมูลว่ามีผู้ถูกจับกุมและได้รับคนเจ็บจำนวนกี่คน
- ให้เจ้าหน้าที่แถลงถึงสิ่งที่ได้กระทำต่อประชาชน และหาวิธีการรับผิดชอบต่อการใช้ความรุนแรง
- ให้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัวผู้ถูกจับกุมทุกคนโดยไม่มีเงื่อนไข
ทั้งนี้ ในตอนท้ายของแถลงการณ์ภัสราวลี ได้ประกาศนัดหมายมวลชนอีกครั้ง ที่ สน.ทุ่งสองห้อง ในเวลา 15.00 น. เพื่อกดดันให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยตัวผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมไป
17.40 น. ที่บริเวณหน้า สน.ทุ่งสองห้อง “สมบูรณ์ คำแหง” ในฐานะตัวแทนคณะทำงานได้ประกาศแถลงการณ์ “คณะราษฎรหยุด APEC 2022” โดยกล่าวรายงานสรุปจำนวนผู้ถูกจับกุม ผู้ได้รับบาดเจ็บ และประกาศข้อเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวผู้ถูกจับกุมภายในเวลา 22.00 น. ของวัน พร้อมระบุว่ามีข้อกฎหมายที่รับรองว่าทางเจ้าหน้าที่มีอำนาจที่จะไม่สั่งฟ้อง
จากนั้นสมบูรณ์ได้กล่าวถึงเรื่องการสลายชุมนุมในมุมมองของคณะทำงานว่า ได้ปรึกษาหารือกันตลอดเรื่องการเคลื่อนขบวน โดยระบุว่ามีความพยายามหาทางออกต่างๆ เพื่อป้องกันความรุนแรง เช่น เตรียมจัดตั้งเวทีเสวนา แต่ไม่ทันได้ดำเนินการอะไร ทางเจ้าหน้าที่กลับเข้ามาใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมในช่วงเวลาที่กลุ่มผู้ชุมนุมกำลังพักรับประทานอาหารเที่ยง นอกจากนี้ สมบูรณ์ยังยืนยันด้วยว่า การชุมนุมครั้งนี้แจ้งการชุมนุมและปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะฯ ทุกประการแล้ว
ทั้งนี้ ภายหลังเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่ไม่เป็นตามหลักสากล องค์กรภาคประชาสังคมจำนวนมากออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียกร้องให้ยุติการดำเนินคดี เนียวยาผู้บาดเจ็บ และผู้ที่เกี่ยวข้องออกมาแสดงความรับผิดชอบ
ผู้ถูกจับกุม รวม 26 ราย เป็นพระสงฆ์ 1 – นศ. 6 ราย – ผู้พิการทางสายตา 1 ราย
จากเหตุ #ม็อบ18พฤศจิกา65 บริเวณถนนดินสอ เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ได้ทยอยจับกุมผู้ชุมนุมหลายครั้งด้วยกัน ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 09.30 น. ไปจนถึงเวลาประมาณ 15.00 น. โดยมีการสลายการชุมนุมและการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่หลายครั้งเช่นกัน แต่มีการสลายการชุมนุมและกวาดจับผู้ชุมนุมครั้งใหญ่ๆ ด้วยกัน 3 ครั้ง ในช่วงเวลาประมาณ 09.30 น. และ 12.30 น.
หลังผู้ชุมนุมถูกจับกุมได้ถูกนำตัวขึ้นรถควบคุมผู้ต้องขังและถูกทยอยนำตัวไปยัง สน.ทุ่งสองห้อง ทันที ทั้งนี้ สน.ทุ่งสองห้อง ไม่ใช่สถานีตำรวจในท้องที่เกิดเหตุแต่อย่างใด แต่เป็น สน.สำราญราษฎร์ ในท้ายที่สุดเมื่อการชุมนุมบริเวณดินสอยุติลงในเวลาประมาณ 15.00 น. ไม่ได้มีผู้ชุมนุมคนใดถูกจับกุมมายัง สน.ทุ่งสองห้องเพิ่มเติมอีก
ยอดจำนวนผู้ถูกจับกุมทั้งหมด รวม 26 ราย แบ่งเป็นหญิง 5 ราย ชาย 21 ราย ในจำนวนนี้เป็นพระสงฆ์ 1 รูป นักศึกษา 6 ราย สื่อพลเมือง 1 ราย และผู้พิการทางสายตา 1 ราย ได้แก่
- กัญญาณี กวางทองดี อายุ 18 ปี
- เอเซีย รัฐมหาวิรุฬห์กร อายุ 21 ปี
- รุ่งทิวารัตน์ ภูนกยูง อายุ 49 ปี
- ยุพา ฤทธินาคา อายุ 64 ปี
- “ป้าเป้า” วรวรรณ แซ่อั้ง อายุ 68 ปี
- นายพิภู มีศรี อายุ 21 ปี
- หัสสะ เกสรินทร์ อายุ 22 ปี
- ณัชพล ไพรลิน อายุ 22 ปี
- ณัฐภูมิ สระทองลอ อายุ 23 ปี
- วิทยา ไชยคำหล้า อายุ 26 ปี
- ปวริศ แย้มยิ่ง อายุ 27 ปี
- วรัญญู คงสถิตย์ธรรม อายุ 28 ปี
- โอภาส คำพระ อายุ 28 ปี
- พิชัย เลิศจินตวงษ์ อายุ 30 ปี
- ชาเวส (นามแฝง) อายุ 31 ปี
- ไพรทูรย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี
- ณัฐวุฒิ อุปปะ อายุ 40 ปี
- ขุนไกร บุญเกิด อายุ 41 ปี
- ชาติชาย ธรรมโม อายุ 42 ปี
- เจกะพันธ์ พรหมมงคล อายุ 47 ปี
- พลาธิป ดำมีศรี อายุ 48 ปี
- อารัติ แสงอุบล อายุ 49 ปี
- อิน (นามสมมติ) อายุ 52 ปี
- บารมี ชัยรัตน์ อายุ 55 ปี
- พระดาวดิน ชาวหินฟ้า อายุ 60 ปี
- พายุ บุญโสภณ อายุ 28 ปี
ผู้ถูกจับกุม 13 ราย ได้รับบาดเจ็บจากการใช้ความรุนแรงของ คฝ. หลายรายสาหัส โดยเฉพาะ “พายุ”
หลังทนายความตามไปพบผู้ถูกจับกุมทั้งหมดที่ สน.ทุ่งสองห้อง ได้ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ในจำนวนผู้ถูกจับกุมทั้งหมด 26 ราย รวมถึงพายุ ซึ่งถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 13 ราย จากการที่เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงในการเข้าจับกุมและสลายการชุมนุม ทั้งการยิงกระสุนยาง รุมกระทืบ และอื่นๆ
ในจำนวนผู้ถูกจับกุมที่ได้รับบาดเจ็บ 13 รายนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส อย่างน้อย 6 รายด้วยกัน ดังนี้
- “พายุ” ถูกกระสุนยางยิงใส่ตาข้างขวาจนเลือดออกจำนวนมาก หลังเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยพบว่าดวงตาข้างขวาแตกละเอียด เสียหายทั้งลูก ทั้งวุ้นตา เลนส์ตา และจอตา แต่แพทย์ผู้ผ่าตัดได้พยายามผ่าตัดเย็บให้ดวงตากลับมาเหมือนเดิมให้มากที่สุด แต่โอกาสที่จะกลับมาใช้งานและมองเห็นได้นั้นต่ำกว่า 1%
ภายหลัง 2-3 วันจากนี้ หากพบว่ามีแผลบริเวณที่ได้รับการผ่าตัดการติดเชื้อ แพทย์อาจจะพิจารณาควักลูกตาออกเพื่อป้องกันการลุกลามของเชื้อไปยังสมอง นอกจากนี้พายุยังต้องได้รับการผ่าตัดและศัลยกรรมเพิ่มเติมในส่วน “กล้ามเนื้อหนังตาข้างขวา” ที่ฉีกขาด และ “จมูก” ที่พบว่ากระดูกแตกอีกด้วย
- “วิทยา” ได้รับบาดเจ็บ มีแผลถลอกและมีรอยแดง ที่บริเวณแผ่นหลังหลายจุด วิทยาคาดว่าเกิดจากรองเท้าคอมแบทของเจ้าหน้าที่ คฝ. นอกจากนี้ภายหลังเข้ารับการตรวจร่างกายยังพบว่าสันจมูกบวมและมีรอยฟกช้ำ จากการถูกของแข็งไม่ทราบชนิดกระแทกอีกด้วย
- “พลาธิป” ถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายร่างกายด้วยไม้กระบอง และถูกกระสุนยางที่บริเวณต้นแขนขวา โดยมีอาการเจ็บที่ศีรษะ มีแผลถลอกฟกช้ำตามร่างกาย แก้มซ้ายบวม จมูกบวม เจ็บที่ปาก ฟันหัก มีแผลฉีกที่ริมฝีปากบน เจ็บที่ชายโครงด้านขวา และเจ็บหน้าอก
- “ยุพา” ได้รับบาดเจ็บ “คิ้วแตก” ที่คิ้วข้างซ้าย มีอาการปวดตามร่างกายและเบ้าตา หลังถูกจับกุมได้เข้ารับการรักษาและเย็บแผลที่โรงพยาบาลแล้ว
- “วรัญญู” หรือ “บุ๊ค” ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทืบและตี จนแว่นแตกและได้รับบาดเจ็บบริเวณกลางหัว (หัวแตก) และมีแผลถลอกฟกช้ำตามร่างกายหลายจุด หลังถูกจับกุมวรัญญูได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยผ้าพันแผลบริเวณหัวเท่านั้น และต้องรอนานกว่า 2 ชม. จึงจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เมื่อถึงโรงพยาบาลแล้วทนายความได้เล่าว่า เลือดที่ไหลออกจากแผลบริเวณศีรษะจับติดกับเส้นผมจนแห้งกรังไปแล้ว
ทั้งนี้ วรัญญู เป็นนักข่าวพลเมืองของสำนักข่าว “The Issan Record” ก่อนถูกจับกุมได้อยู่ระหว่างการไลฟ์รายงานข่าวให้กับ The Issan Record แต่เมื่อมีการสลายการชุมนุม วรัญญูได้ถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายร่างกายและจับกุมไปพร้อมกับผู้ชุมนุมรายอื่นด้วย
แจ้ง 3 ข้อหา อ้างก่อความวุ่นวาย ทำร้ายตำรวจ ด้าน 25 ผู้ชุมนุม ปฏิเสธไม่ลงชื่อ ชี้กล่าวหาไม่ตรงข้อเท็จจริง
เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดทำบันทึกจับกุม โดยระบุว่า การจับกุมในครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาระหว่าง 09.30 – 15.00 น. นำโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมของ สน.สำราญราษฎร์ 5 นาย
มีใจความในบันทึกจับกุมโดยสรุป ดังนี้ ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC 2022) ระหว่างวันที่ 16-19 พ.ย. 2565 ซึ่งมีผู้นำของประเทศต่างๆ ทั่วโลกเข้าร่วมการประชุม ต่อมาเมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2565 นายพีระพงษ์ เพิ่มพูน ได้มีหนังสือแจ้งขออนุญาตใช้สถานที่จัดการชุมนุมสาธารณะต่อ ผอ.เขตพระนคร เป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่ วันที่ 16-18 พ.ย. 2565 บริเวณลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพฯ โดยไม่มีการเดินขบวนหรือเคลื่อนย้ายสถานที่ชุมนุม และมีกลุ่มต่างๆ เข้าร่วมชุมนุมหลายกลุ่ม รวมทั้งกลุ่ม “สมัชชาคนจน”
ต่อมา อรัญญิกา จังหวะ ผู้แทนกลุ่มสมัชชาคนจนได้ยื่นหนังสือทางอิเล็กทรอนิกส์ถึง สน.สำราญราษฎร์ แจ้งรายละเอียดการชุมนุมเพิ่มเติม (แจ้งการเดินขบวน) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจนและคัดค้านการประชุม จากลานคนเมืองไปยังศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ต่อมา สน.สำราญราษฎร์ได้แจ้งให้ผู้จัดการชุมนุมทราบแล้วว่า ไม่อนุญาตให้มีการเดินขบวนหรือเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมออกจากลานคนเมืองไปยังศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยแนบเอกสารที่เกี่ยวข้องให้ผู้แจ้งทราบแล้ว
ต่อมาในวันที่ 18 พ.ย. 2565 เวลาประมาณ 08.40 น. กลุ่มผู้ชุมนุมที่ลานคนเมือง ประมาณ 250-300 คน ได้ตั้งขบวนเคลื่อนย้ายออกจากลานคนเมืองไปตามถนนดินสอ มุ่งหน้าสู่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เข้าประชิดแนวรถเครื่องขยายเสียงของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งตั้งแนวรั้งหน่วงอยู่บริเวณหัวถนนดินสอ ใกล้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
ขณะนั้น พ.ต.อ.ทศพล อำไพพิพัฒน์กุล ผกก.สน.สำราญราษฎร์ ในฐานะเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงให้ผู้ชุมนุมกลับเข้าไปยังบริเวณลานคนเมือง ซึ่งเป็นสถานที่จัดการชุมนุม แต่ผู้ชุมนุมไม่ปฏิบัติตาม ยังคงฝ่าฝืนและเคลื่อนขบวนต่อไป จนกระทั่งเกิดความวุ่นวายและไม่ปลอดภัยขึ้น พ.ต.อ.ทศพล จึงได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงอีกหลายครั้งให้ผู้ชุมนุมกลับเข้าไปยังลานคนเมืองและยุติการชุมนุมภายในเวลา 11.00 น. แต่ผู้ชุมนุมยังคงฝ่าฝืนและพยายามฝ่าแนวกั้นจนเกิดการปะทะกับผู้ชุมนุมขึ้น
ตามบันทึกการจับกุมยังระบุอีกว่า ผู้ชุมนุมมีพฤติการณ์ก่อความวุ่นวาย พ่นสีตามพื้นถนนและรถของเจ้าหน้าที่ เจาะยางรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ ขว้างปาสิ่งของใส่ตำรวจ และทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ มีทรัพย์สินได้รับความเสียหาย กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้สาดทรายที่ตั้งไฟจนร้อนใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง
อีกทั้ง เมื่อ ผกก.สน.สำราญราษฎร์ ได้แจ้งให้กลุ่มผู้ชุมนุม เลิกไปแต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยอมเลิก ซึ่งเป็นการกระทำความผิดซึ่งหน้าจึงได้ทำการจับกุมตัวและแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทั้ง 25 ราย ดังนี้
- ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215)
- ไม่เลิกมั่วสุมตามที่เจ้าพนักงานสั่ง (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 216)
- ร่วมกันฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขหรือคำสั่งของเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ รวมทั้งไม่แก้ไขภายในระยะเวลาที่เจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะประกาศกำหนด (พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ)
ผู้ต้องหาทั้ง 25 รายได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยบางหลายได้ให้การเพิ่มเติมว่า ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บอีกด้วย นอกจากนี้ ทั้งหมดยังไม่ลงชื่อในบันทึกการจับกุม โดยเขียนบันทึกไว้ว่า ผู้ต้องหาไม่ประสงค์ลงลายมือชื่อ เนื่องจากข้อเท็จจริงไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง
“วิทยา” ถูกดำเนินคดีเพิ่มจากเหตุ #ม็อบ17พฤจิกา65 หน้า SCG
วิทยา ไชยคำหล้า หนึ่งในถูกผู้จับกุมในครั้งนี้ยังถูกแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมจากการทำกิจกรรมของกลุ่ม “ราษฎรหยุด APEC 2022” เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2565 หรือ #ม็อบ17พฤจิกา65 อีกด้วย ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ถูกจัดขึ้นบริเวณหน้าประตูทางเข้าบริษัท SCG ย่านบางซื่อ เพื่อคัดค้านการประชุมเอเปค 2022 เช่นกัน
หลังวิทยาถูกจับกุมมาอยู่ที่ สน.ทุ่งสองห้อง ในเวลาประมาณ 13.30 น. พ.ต.ต.วิทยา น้อยภักดี พนักงานสอบสวน สน.เตาปูน ได้เดินทางมาแจ้งข้อกล่าวหากับวิทยา โดยมีได้แจ้งพฤติการณ์ในคดีโดยสรุป ดังนี้
เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2565 เวลา 10.45 น. ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎร (กลุ่มก่อการล้านนา) ประมาณ 20 นายได้มาทำกิจกรรมบริเวณหน้าประตู 1 ทางเข้าบริษัท SCG สำนักงานใหญ่ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ยืนถือป้ายและพ่นสีสเปรย์ลงบนพื้นถนนหลายข้อความ เช่น ใครรวย, Land of Company, ไม่มีรักแท้ในโลกทุนนิยม เป็นต้น ผู้ต้องหาซึ่งได้ใส่หน้ากากสีทองได้ใช้สีสเปรย์ฉีดพ่นคำว่า “NO APEC” จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้นำพานจำลองเป็นอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยจำลองมาวางไว้ที่ประตูทางเข้าบริษัท SCG และผู้ต้องหาได้นำน้ำปูนมาเทราดลงบนพานจำลอง จนเป็นเหตุให้น้ำปูนไหลลงบนพื้นผิวถนนจราจร
พนักงานสอบสวนจึงได้แจ้ง 4 ข้อกล่าวหากับวิทยา ได้แก่
- ร่วมกันเป็นผู้ชุมนุมก่อให้เกิดความไม่สะดวกแก่ประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะอันเป็นที่ชุมนุมหรือ ทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อนเกินที่พื้นคาดหมายได้ว่าเป็นเหตุอันสมควร ตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะฯ มาตรา 16(1)
- ปิดบังหรืออำพรางตนโดยจงใจมีให้มีการระบุตัวบุคคลได้ถูกต้อง ตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะฯ มาตรา 16(2)
- ขีด เขียน พ่นสี หรือกระทำให้ปรากฏด้วยประการใดๆ ซึ่งข้อความ ภาพ หรือรูปรอยใดๆ บนถนน ตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ มาตรา 12
- เทหรือทิ้งสิ่งปฏิกูล มูลฝอย น้ำโสโครกหรือสิ่งอื่นใดลงบนถนนหรือในทางน้ำตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ มาตรา 33
วิทยาได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จากนั้นพนักงานสอบสวนจึงได้อนุญาตให้ประกันในชั้นสอบสวนด้วยวิธีการให้สาบานตนว่าจะมาพบพนักงานสอบสวนตามที่นัดหมาย โดยไม่ต้องวางเงินประกัน
ตร.ให้ประกันชั้นสอบสวน คดี #ม็อบ18พฤจิกา65 วางเงินประกันรวม 5 แสนบาท พร้อมกำหนด 2 เงื่อนไข
หลังผู้ชุมนุมถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สน.ทุ่งสองห้อง นานกว่า 12 ชั่วโมง ในที่สุดเมื่อ เวลาประมาณ 00.00 น. ของวันที่ 19 พ.ย. 2565 พนักงานสอบสวนได้อนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 25 ราย โดยให้วางเงินประกันเป็นเงินสดคนละ 20,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 500,000 บาท ซึ่งได้จากกองทุนราษฎรประสงค์ กำหนดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างชั้นสอบสวน 2 ข้อ ได้แก่ ห้ามเข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองใดๆ ระหว่างได้ประกัน และห้ามประกาศเชิญชวนบุคคลอื่นเข้าร่วมมั่วสุมหรือกระทำการใดๆ ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ส่วนเงื่อนไขการห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ได้มีการตัดออกไปแล้ว เงื่อนไขนี้จึงไม่เป็นเงื่อนไขประกันตัวในชั้นสอบสวนอีก
ในส่วนของพายุ ผู้ถูกจับกุมรายที่ 26 ซึ่งยังเข้ารับการผ่าตัดดวงตาและศัลยกรรมส่วนอื่นของใบหน้าอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจนั้น พนักงานสอบสวนยังไม่มีการดำเนินการใดๆ
ต่อมา ในเวลาประมาณ 00.20 น. ผู้ต้องหา 23 ราย ได้รับการปล่อยตัวจาก สน.ทุ่งสองห้อง เหลือบารมีและเจกะพันธ์ จะได้รับการปล่อยตัวภายในวันเดียวกัน แต่เป็นช่วงเที่ยง
จากนั้น เวลาประมาณ 12.00 น. บารมี และเจกะพันธ์ จึงได้รับการปล่อยตัวจาก สน.ทุ่งสองห้อง
** แก้ไขเงื่อนไขการประกันตัวชั่วคราวในชั้นสอบสวน เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2565
ภาพจากไข่แมวชีส
ภาพจากไข่แมวชีส