แถลงการณ์ ด่วน ขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยและคสช. ยกเลิกการพิจารณาคดีพลเรือนในศาลทหารของไทย

แถลงการณ์ ด่วน ขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยและคสช. ยกเลิกการพิจารณาคดีพลเรือนในศาลทหารของไทย

แถลงการณ์ ด่วน ขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยและคสชยกเลิกการพิจารณาคดีพลเรือนในศาลทหารของไทย

เผยแพร่วันที่ 16 มีนาคม 2558

ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์

มูลนิธิผสานวัฒนธรรมและศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
แถลงการณ์
ขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยและคสช. ยกเลิกการพิจารณาคดีพลเรือนในศาลไทยของไทย

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนในคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (Human Rights Council) เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2558 ได้รับข้อมูลจากองค์กรระหว่างประเทศว่าประเทศไทยใช้

ศาลทหารสำหรับการดำเนิน การกับพลเรือนในข้อหาเกี่ยวกับการแสดงออกทางความคิดเห็น การรวมกลุ่มและการชุมนุม โดยมีจำนวนคดีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางสำนักงาน

ข้าหลวงใหญ่ว่าด้วยสิทธิมนุษยชนได้บันทึกข้อเท็จจริงว่ามี พลเรือนอย่างน้อย 202 คน

ถูกดำเนินคดีในศาลทหารตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2557

นับเป็นครั้งแรกในรอบ40 ปีที่ประเทศไทยเลือกที่จะใช้ศาลทหารดำเนินคดีต่อพลเรือน

เพื่อการปราบปราม ประชาชนที่เห็นต่างจากรัฐและใช้สิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานในการแสดงออก

โดยแถลงการณ์ทางวาจาโดยคณะกรรมการนักนิติศาสตร์สากลที่คณะมนตรีสิทธิ มนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (Human Rights Council) ในการประชุมครั้งที่28 ระหว่างวันที่ 2-27 มีนาคม 2558 ณ กรุงเจนีวา ทางคณะผู้แทนประเทศไทยแห่งองค์การสหประชาชาติประจำ ณนครเจนีวาใช้สิทธิในการตอบกลับโดยระบุว่า“การใช้ศาลทหารนั้นเราใช้ในเฉพาะคดีที่มี ข้อหาร้ายแรงเท่านั้นข้อหาความผิดรวมถึงครอบครองอาวุธและคดีฆาตกรรม จำเลยพลเรือนในคดีศาลทหารได้รับสิทธิในกระบวนการยุติธรรมเหมือนกับในศาล พลเรือนรวมทั้งสิทธิที่จะมีทนายความและได้รับการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้ บริสุทธิ์”

คำแถลงดังกล่าวเป็นการอ้างอิงการใช้ศาลทหารที่ไม่ตรงกับสภาพปัญหาและข้อเท็จจริงใน ปัจจุบัน โดยนับแต่มีการรัฐประหาร มีการจับกุมนักกิจกรรมที่แสดงออกทางสัญลักษณ์ เช่น การถือป้ายกระดาษ การรณรงค์เพืื่อให้มีการเลือกตั้ง การกินแซนวิช การชูสามนิ้ว เป็นต้น เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธุ์ 2558 มีทนายความนักสิทธิมนุษยชนและนักกิจกรรมทางสังคม 4 คน ถูกจับกุมและตั้งข้อหาว่าฝ่าฝืนประกาศคสช. ฉบับที่ 7 /2557 ห้ามชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน ในวันที่ 16 มีนาคมนี้พนักงานสอบสวนที่ส่งสำนวนพร้อมพลเรือนทั้งสี่คนไปยังอัยการ ศาลทหารเพื่อ สั่ง ฟ้อง โดยมีการคาดการณ์ว่าพลเรือนทั้งสี่อาจจะไม่ได้รับการประกันตัว

การใช้กลไกยุติธรรมและศาลทหารต่อพลเรือนที่แสดงออกทางความคิดเห็นเป็นการ ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มว่ารัฐบาลปัจจุบันจัดตั้งโดยฝ่ายทหาร คณะรัฐประหารจะใช้กลไกศาลทหารและกระบวนการ ยุติธรรมดังกล่าวต่อเนื่องและติดต่อกัน เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกกล่าวหาว่ากระทำการนอกกฎหมายหากแต่กลไกยุติธรรมในปกติ โดยเฉพาะการใช้ศาลทหารพิจารณาคดีต่อพลเรือนไม่มีความเป็นอิสระและเป็นกลาง ไม่มีความจำเป็น เห็นได้อย่างชัดเจนว่ามุ่งประโยชน์เพื่อโต้ตอบโจมตีต่อนักกิจกรรมทางการ เมืองรวมทั้งทนายความสิทธิมนุษยชน การพิจารณาคดีในศาลทหารเป็นการละเมิดสิทธิ ในการได้รับการพิจารณาคดีที่เป็นธรรม ซึ่งขัดกับพันธกรณีที่ประเทศไทยมีต่ออนุสัญญาว่าด้วย สิทธิพลเรือนและสิทธิทางการเมือง

ตัวแทนมูลนิธิผสานวัฒนธรรมและศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนที่ขณะนี้ เดินทางมาร่วมเวทีคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (Human Rights Council) ณ กรุงเจนีวา ระหว่างวันที่ 16-18 มีนาคม 2558 ด้วยนั้น ขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยและคสช. ประกาศยกเลิกประกาศคสช. 37/2557 และ 38 /2557ที่ประกาศให้ศาลทหารมีอำนาจพิจารณาพลเรือนในข้อหาความผิดบางประเภทโดยทันที รวมทั้งประกาศที่จำกัดเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมโดยสงบทั้งหมด อีกทั้งการพิจารณาคดีในศาลทหารในเวลาที่ประกาศกฎอัยการศึกทำให้ไม่สามารถ อุทธรณ์หรือฎีกา โดยเราเชื่อว่าศาลพลเรือนปกติในสถานการณ์ปัจจุบันสามารถใช้พิจารณาอรรถคดี ต่างๆได้ และเชื่อมั่นว่าในการได้รับการพิจารณาคดีที่เป็นธรรมกว่าการพิจารณาคดีในศาล ทหาร

ติดต่อข้อมูล พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม + 66-86-7093000
เยาวลักษ์ อนุพันธุ์ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน + 66-81-6283402

X