จับตาศาลอาญานัดไต่สวนขอประกันตัว “7 สมาชิกทะลุฟ้า” 6 ก.ย. นี้

1 ก.ย. 2565 ที่ศาลอาญา รัชดา ทนายความยื่นขอประกันตัว 7 สมาชิกกลุ่มทะลุฟ้า ในคดีสาดสีหน้าที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเรียกร้องให้ลาออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2564 หลังจากที่ทั้งเจ็ดไม่ได้รับการประกันตัว ในวันที่อัยการสั่งฟ้องคดีเมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2565

ต่อมา ศาลอาญามีคำสั่งนัดไต่สวนคำร้องขอประกันตัว ในวันที่ 6 ก.ย. 2565 เวลา 10.00 น. โดยให้ผู้ร้องเตรียมพยาน รวมทั้งบุคคลที่ศาลอาจตั้งเป็นผู้กำกับดูแลของจำเลยแต่ละคนมาให้พร้อมในวันนัด ให้หมายเบิกตัวจำเลยทั้งเจ็ดมาในวันนัด แจ้งโจทก์หากจะคัดค้าน ให้คัดค้านภายในวันนัด มิฉะนั้นจะถือว่าไม่คัดค้าน

.

ในคำร้องขอประกันตัวครั้งนี้ ได้ยื่นขอประกันตัวโดยวางหลักทรัพย์รายละ 35,000 บาท มีเนื้อหาโดยสรุป

1. คดีนี้ ได้ผ่านพ้นนัดพร้อมเพื่อประชุมคดี สอบคำให้การ ตรวจพยานหลักฐาน และกำหนดวันนัดสืบพยานไปแล้ว พยานหลักฐานทั้งหมดในคดีได้ถูกรวบรวมและอยู่ในความครอบครองของอัยการโจทก์แล้วทั้งสิ้น จำเลยทั้งหมดไม่ได้เป็นผู้มีอิทธิพลหรือสามารถที่จะไปยุ่งเกี่ยวกับพยานบุคคลทั้งหมดได้

ทั้งในภาพถ่ายประกอบสำนวนคดี ซึ่งมีการระบุถึงพฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหานั้น ก็ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงอันแน่นแฟ้นหรือเป็นการยืนยันการกระทำความผิดของจำเลยตามฟ้องของโจทก์แต่อย่างใด 

2. ตลอดระยะเวลานับแต่จำเลยถูกยื่นฟ้องคดี และไม่ได้รับการอนุญาตในการปล่อยชั่วคราวนั้น จำเลยได้พบและปรึกษาทนายความอย่างจำกัด ไม่สามารถปรึกษาทนายความได้อย่างเต็มที่ ทั้งจำเลยยังไม่สามารถเข้าถึงสิทธิในการพบและปรึกษาทนายความเป็นการเฉพาะตัวตามกฎหมาย ทำให้กระทบต่อสิทธิในการต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ของจำเลย

3. หากศาลเห็นสมควรกำหนดเงื่อนไขประกอบการปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยหรือเห็นสมควรให้ตั้งผู้กำกับดูแล จำเลยทั้งเจ็ดขอเสนอให้ศาลแต่งตั้งบุคคลต่างๆ เป็นผู้กำกับดูแล โดยทั้งหมดให้ความยินยอมให้ศาลเป็นผู้แต่งตั้งเป็นผู้กำกับดูแลแล้ว

4. จำเลยทั้งหมดเดินทางไปรายงานตัวตามกำหนดนัดในทุกๆ ครั้ง จนถูกโจทก์ฟ้องเป็นคดีนี้ ไม่คิดจะหลบหนี และยังเชื่อมั่นโดยบริสุทธิ์ใจว่าจำเลยไม่ได้กระทำความผิดต่อกฎหมายและพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของจำเลย ดังนั้นข้อเท็จจริงจึงไม่อาจรับฟังได้ว่าหากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวแล้ว จำเลยจะไปก่อเหตุภยันตรายประการอื่นหรือจะหลบหนีแต่อย่างใด

5. จำเลยทั้งหมดเป็นเพียงบุคคลธรรมดา ประกอบสัมมาอาชีพสุจริตหรือกำลังศึกษาอยู่ การปล่อยชั่วคราวย่อมไม่อาจก่ออุปสรรคหรือความเสียหายต่อการดำเนินคดี ทั้งจำเลยยังไม่เคยมีประวัติการกระทำความผิดอาชญากรรมใดๆ และไม่เคยต้องโทษคดีอาญามาก่อน 

คำร้องได้ยืนยันถึงความจำเป็นในการประกอบอาชีพและการดูแลครอบครัวของจำเลยแต่ละราย หลังปี 2564 จำเลยหลายคนยังไม่ได้เข้าร่วมการใช้สิทธิในการชุมนุมหรือการเคลื่อนไหวทางการเมืองแต่อย่างใด มาจนถึงปัจจุบัน

6. กรณีที่ศาลเชื่อว่าหากปล่อยชั่วคราวไป จำเลยอาจก่อภยันตรายอื่นได้อีก คำว่า “ภยันตรายอื่น” เป็นเหตุการณ์ในอนาคตซึ่งไม่สามารถคาดการณ์ได้และไม่ได้มีกำหนดนิยามไว้โดยเฉพาะ หากศาลเกรงว่าจำเลยจะไปก่อภยันตรายอื่น ก็ขอให้ศาลกำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยกระทำการใดที่ศาลเห็นว่าจะเป็นการไปก่อภยันตรายเพื่อให้จำเลยปฏิบัติตาม และหากจำเลยไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของศาล ศาลก็สามารถเพิกถอนคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวได้

7. คดีนี้โจทก์ไม่ได้คัดค้านการขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นพิจารณา โดยให้เป็นดุลพินิจของศาล ทั้งนี้ ศาลจะกำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับที่อยู่ของจำเลยหรือเงื่อนไขอื่นใดให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยปฏิบัติ เช่น ให้รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานหรือบุคคลตามที่ศาลเห็นสมควร วางข้อจำกัดเกี่ยวกับสถานที่อยู่อาศัยหรือการเดินทางออกไปนอกสถานที่อยู่อาศัย วางข้อจำกัดเกี่ยวกับการประกอบอาชีพหรือการงานบางอย่าง หรือวางข้อจำกัดเกี่ยวกับการเข้าไปในสถานที่บางแห่ง เป็นต้น ทั้งจำเลยยินยอมให้ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถใช้ตรวจสอบหรือจำกัดการเดินทางได้ 

8. ก่อนหน้านี้ศาลอาญาอนุญาตให้ประกันตัวในคดีสาดสีหน้าพรรคภูมิใจไทย โดยศาลกำหนดเงื่อนไขห้ามทำกิจกรรมหรือกระทำการใดๆ ในลักษณะทำนองเดียวกับที่ถูกกล่าวหาในคดีนี้ หรือเข้าร่วมกิจกรรมใดๆ ที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง หรือกระทำการหรือร่วมทำกิจกรรมใดๆ ในอันที่จะทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และศาลในทุกด้าน ห้ามจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ให้จำเลยติดอุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ (EM) และห้ามจำเลยออกนอกเคหสถานในช่วงเวลา 18.00 น. ถึงเวลา 06.00 น. 

จำเลยจึงขอศาลได้ปล่อยชั่วคราวจำเลยในคดีนี้โดยกำหนดเงื่อนไขเช่นเดียวกับคดีดังกล่าว

สำหรับสมาชิกทะลุฟ้าทั้ง 7 ที่ถูกคุมขังอยู่ ได้แก่ “ป่าน” กตัญญู หมื่นคำเรือง, “คิม” ทศม สมจิตร์, “เจมส์” ศักดิ์สิทธิ์ เผือกผ่องศรี, “คาริม” จิตริน พลาก้านตง, “ทู” กฤษณะ มาตย์วิเศษ, “อาทิตย์” ทวี เที่ยงวิเศษ, ชาติชาย ไพรลิน

.

X