ตร. จับ 2 นักกิจกรรมชูป้าย ‘ยกเลิก 112’ ที่เยาวราช สุดท้ายปรับข้อหา ‘ไม่พกบัตรปชช.’

29 ม.ค. 2565 เวลา 22.45 น. ศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับแจ้งว่า นักกิจกรรม 2 ราย ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมที่เยาวราช จากการไปเดินชูป้ายรณรงค์ ‘ยกเลิก 112’ จากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัวทั้งสองไปยัง สน.พลับพลาไชย โดยได้แจ้งข้อหา ‘ไม่พกบัตรประชาชน’ และเปรียบเทียบปรับเป็นเงินคนละ 100 บาท จากนั้นจึงปล่อยตัวกลับไป

ในคดีนี้ นักกิจกรรม 2 ราย ได้แก่ พลพัทร ปานทอง นักกิจกรรมอิสระ อายุ 21 ปี และ พิมชนก ใจหงษ์ นักกิจกรรมกลุ่มมังกรปฏิวัติ (Draconis Revolution) อายุ 24 ปี ได้เดินทางไปที่ย่านการค้าถนนเยาวราช ตั้งแต่เวลาประมาณ 21.30 น. และได้ทำการถ่ายภาพขณะชูป้ายรณรงค์ที่มีข้อความจำนวน 3 ป้าย ได้แก่ ไม่ไหว้เจ้า, เจ้ากินหรู หมูเสือกแพง และยกเลิก 112 

ขณะที่ทั้งสองกำลังถ่ายรูปชูป้าย “ยกเลิก 112” ได้มีตำรวจที่ยืนอยู่ถนนฝั่งตรงข้าม 1 นาย วิ่งเข้ามากระชากป้ายดังกล่าวจนขาด และได้เกิดการยื้ดฉุดป้ายที่เหลือเกิดขึ้น หลังจากนั้นได้มีตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบพร้อมรถควบคุมผู้ต้องขังเข้ามาสมทบอีกประมาณ 6-7 นาย

ตำรวจได้แจ้งกับทั้งสองว่าจะควบคุมตัวไปดำเนินคดีที่ สน.พลับพลาไชย แต่พิมชนกได้ถามกลับว่า ‘จะจับพวกตนในข้อหาอะไร เพราะป้ายรณรงค์ทั้งสามป้ายไม่ได้มีข้อความที่ผิดตามมาตรา 112 อย่างแน่นอน’ 

ตำรวจจึงขอตรวจสอบบัตรประชาชนของทั้งสอง ซึ่งพิมชนกไม่ได้พกติดตัวมาด้วย ส่วนพลพัทรวางบัตรประชาชนไว้ในรถที่จอดอยู่ใกล้เพียง 4 เมตรเท่านั้น เมื่อตำรวจทำการตรวจค้นแล้ว จึงแจ้งว่าจะดำเนินคดีกับทั้งสองในข้อหา ‘ไม่พกบัตรประชาชน’ และจะควบคุมตัวทั้งสองไปเปรียบเทียบที่สถานีตำรวจ 

พลพัทรได้ร้องขอตำรวจว่า ขอเดินไปเอาบัตรประชาชนของตนเองก่อน แต่ตำรวจปฏิเสธและอ้างว่า ‘การไม่พกบัตรประชาชนเป็นการกระทำความผิดซึ่งหน้า ต้องไปเสียค่าปรับที่ สน. เท่านั้น’

พิมชนกจึงพูดกับตำรวจว่า “อย่างนี้ก็เท่ากับว่าตำรวจตั้งใจกินเงินประชาชนใช่ไหม ทำไมไม่ยอมให้น้องไปเอาบัตรประชาชน” ตำรวจจึงแจ้งว่าจะดำเนินคดีข้อหา ‘ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน’ ด้วยอีกข้อหาหนึ่ง จากนั้นจึงควบคุมตัวทั้งสองขึ้นรถและพาไปยัง สน.พลับพลาไชย

ท้ายที่สุดทั้งสองถูกดำเนินคดีในข้อหา ‘ไม่พกบัตรประจำตัวประชาชน’ ตาม พ.ร.บ.บัตรประจำตัวประชาชน พ.ศ. 2526 และถูกเปรียบเทียบคนละ 100 บาท จากนั้น ในเวลาประมาณ 00.30 น. ตำรวจได้ปล่อยตัวทั้งสองกลับไป

ทั้งนี้ พิมชนกเล่าว่า พวกเขาทั้งสองถูกดำเนินคดีในข้อหาเล็กน้อยเกี่ยวกับการไม่พกบัตรประชาชน และได้เสียค่าปรับไปแล้ว แต่ทั้งสองกลับถูกซักประวัติเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวนานกว่า 3 ชั่วโมง ซึ่งผิดปกติอย่างมาก พิมชนกเล่าอีกว่า เธอมีความกังวลว่าหลังจากนี้พวกเขาทั้งสองจะถูกตำรวจเดินทางไปติดตามคุกคามเช่นเดียวกับนักกิจกรรมคนอื่นๆ หรือไม่ เพราะตำรวจซักประวัติละเอียดมาก อาทิ คณะ/สาขาที่เรียน, ที่อยู่ปัจจุบัน, บ้านพ่อแม่ รวมไปถึงถ่ายภาพของทั้งสองเก็บไว้ด้วย

หลังถูกซักประวัตินานกว่า 3 ชั่วโมง ตำรวจจึงได้ปล่อยตัวทั้งสองกลับไป โดยพิมชนกได้ขอป้ายรณรงค์ จำนวน 3 ป้าย ที่ถูกยึดขณะทำกิจกรรมที่ถนนเยาวราชอีกด้วย เนื่องจากตำรวจไม่ได้ดำเนินคดีข้อหาใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับป้ายดังกล่าว

X