ที่ประชุมศาลอาญาไม่ให้ประกัน 4 แกนนำราษฎร แม้ว่าทั้ง 4 จะยอมรับเงื่อนไข กักบริเวณในเคหสถาน 24 ชม. และใส่ EM

วันที่ 24 ธ.ค. 2564 เวลา 13.30 น. ที่ศาลอาญา รัชดาฯ มีนัดฟังคำสั่งต่อคำร้องขอประกันตัว 4 แกนนำราษฎรที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำขณะนี้  ได้แก่ อานนท์ นำภา, “เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์, “ไผ่” จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา และ “ไมค์” ภาณุพงศ์ จาดนอก ต่อมาศาลมีคำสั่งไม่ให้ประกันนักกิจกรรมทั้งสี่ราย โดยให้เหตุผลว่า “เกรงว่าว่าหากปล่อยตัวชั่วคราวไปแล้วจะไปก่อความรุนแรงประการอื่น”

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2564 ศาลอาญาทำการไต่สวนคำร้องขอประกันนักกิจกรรมทั้งสี่ราย โดยทั้งสี่ได้ยอมรับเงื่อนไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกักบริเวณในเคหสถานตลอด 24 ชั่วโมง และใส่กำไล EM  แต่หลังจากไต่สวนคำร้อง พนักงานอัยการยังได้ยื่นหนังสือคัดค้านการให้ประกันตัวนักกิจกรรมทุกรายต่อศาล โดยระบุเหตุผลว่า “คดีมีอัตราโทษสูง จำเลยเคยถูกดำเนินคดีมาแล้วจากเหตุในลักษณะเดียวกันหลายคดี เกรงว่าหากปล่อยไปจะไปกระทำผิดซ้ำและหลบหนี” 

>> ไต่สวนขอประกัน 4 แกนนำราษฎร ศาลอนุญาตอัยการยื่นคัดค้านอีก หลังไต่สวน แม้อานนท์ท้วง นัดฟังคำสั่ง 24 ธ.ค.นี้ 

.

ศาลยืนกรานไม่ให้ประกัน ‘เพนกวิน-อานนท์-ไมค์-ไผ่’ ให้เหตุผล ‘เกรงว่าจะกระทำผิดซ้ำ’

ในครั้งนี้ศาลได้เบิกตัวจำเลยทั้งสี่รายเพื่อเข้าฟังคำสั่งว่าจะให้ประกันหรือไม่ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยพนักงานอัยการเจ้าของสำนวนคดีไม่ได้เดินทางมาฟังคำสั่งด้วยแต่อย่างใด

เวลา 14.10 น. พริษฐ์ ปิยะนราธร รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา อ่านคำสั่งไม่ให้ประกันตัว 4 นักกิจกรรม กรณีของ “เพนกวิน” ระบุเหตุผลที่ไม่ให้ประกันไว้ว่า 

“พิเคราะห์แล้ว ที่ประชุมผู้บริหารศาลอาญาเห็นว่าข้อเท็จจริงในการไต่สวนได้ความว่า หลังจากพริษฐ์ ชิวารักษ์ ได้รับอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในคดีนี้ จำเลยได้กระทำการฝ่าฝืนเงื่อนไขที่ศาลมีคำสั่งอนุญาตปล่อยชั่วคราว โดยศาลเคยตักเตือนจำเลยและกำชับจำเลยผ่านผู้กำกับดูแลมาแล้วหลายครั้ง จนเป็นเหตุให้ศาลเพิกถอนการปล่อยชั่วคราวจำเลย อีกทั้งจำเลยมีพฤติการณ์กระทำการซ้ำในทำนองเดียวกันกับการกระทำอันเป็นมูลเหตุที่ถูกกล่าวหาหรือฟ้องร้องหลายคดี

เมื่อพิเคราะห์ถึงลักษณะและพฤติการณ์ของจำเลยในการแสดงออกหรือร่วมทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายอย่างมาก มีความรุนแรงตลอดมา กรณีมีเหตุอันควรเชื่อว่าหากอนุญาตปล่อยชั่วคราว จำเลยจะไปกระทำการในทำนองเดียวกันกับที่ถูกฟ้องร้อง หรือไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น ในชั้นนี้จึงยังไม่มีข้อเท็จจริงในทางคดีที่เปลี่ยนแปลงไป ย่อมไม่มีเหตุที่ศาลจะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมที่ศาลสั่งไว้โดยชอบแล้ว ยกคำร้อง”

ด้านคำสั่งไม่ให้ประกันอานนท์ จตุภัทร์ และภาณุพงษ์ ระบุเหตุผลว่า

“พิเคราะห์แล้ว ที่ประชุมผู้บริหารศาลอาญาเห็นว่า เมื่อคำนึงถึงพฤติการณ์ของจำเลยทั้งสามในการแสดงออก ปราศรัย หรือชักนำในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ประกอบกับจำเลยถูกกล่าวหาในลักษณะเช่นนี้ที่ศาลนี้และศาลอื่นหลายคดี 

กรณีมีเหตุอันควรให้เชื่อว่า หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยจะไปกระทำการในทำนองเดียวกันกับที่ถูกฟ้องร้องหรือไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น ในชั้นนี้จึงยังไม่มีข้อเท็จจริงในทางคดีที่เปลี่ยนแปลงไป ย่อมไม่มีเหตุที่ศาลจะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมที่ศาลสั่งไว้โดยชอบแล้ว ยกคำร้อง”

หลังผู้พิพากษาอ่านคำสั่งไม่ให้ประกันตัวนักกิจกรรมทั้งสี่รายเสร็จสิ้น ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “ที่ประชุมผู้บริหารศาลอยากให้ประกันมากนะ แต่เมื่อพิจารณาถึงความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นเมื่อปล่อยตัวออกมาแล้วก็จึงมีคำสั่งแบบนี้ ขนาดนี้วันนี้ยังมีเลย” และกล่าวต่ออีกว่า “ในชั้นนี้มีคำสั่งไม่ให้ประกัน แต่ไม่ได้หมายความว่า ครั้งหน้าจะไม่ให้ประกันนะ”

.

เสียงจากแม่ถึงลูก ในวันที่คงไม่ได้กลับบ้านในเทศกาลปีใหม่เช่นทุกปี

หลังผู้พิพากษาเดินออกจากห้องพิจารณาคดีไป แม่ของภาณุพงศ์ จตุภัทร์ และอานนท์ ทยอยเดินไปที่ด้านหน้าของห้องพิจารณาเพื่อสับเปลี่ยนกันพูดคุยกับลูกของตัวเองผ่านจอวิดีโอ

แม่ของไผ่ จตุภัทร์ เดินเข้าไปพูดกับไผ่เป็นคนแรก “อดทน อดทนนะลูก อดทนๆๆๆ …” เธอพูดประโยคนี้ซ้ำๆ พลางกลั้นน้ำตาอย่างสุดความสามารถไปพร้อมกัน แต่ท้ายที่สุดเธอก็หลั่งน้ำตาแห่งความผิดหวังออกมาจนได้

“ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว ไผ่เรียนกฎหมาย ไผ่คงรู้ดี ต้องอดทนนะลูก” เธอพูดไปเอามือปาดน้ำตาที่อาบแก้มไป ก่อนจะลุกขึ้นให้แม่ของไมค์ ภาณุพงศ์ได้เข้าไปพูดต่อ 

“อีก 2 วันเจอกันนะลูก เดี๋ยวแม่มาหา” แม่ของไมค์พูดอย่างใจเย็นและเบิกยิ้มกว้าง 

“แม่ ผมฝากสั่งซื้อพิซซ่ากับเค้กเข้ามาให้พวกผมกินหน่อยนะ จะได้เอามาฉลองปีใหม่ด้วยกันข้างในนี้กับเพื่อนๆ” ไมค์บอกแม่ เพราะในเทศกาลปีใหม่นี้ เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ได้จัดรายการเมนูอาหารพิเศษเพื่อให้ญาติได้สั่งให้ผู้ต้องขังในเรือนจำได้ อาทิ กุ้งเผาครึ่งกิโล เป็ดพะโล้ทั้งตัว สเต๊กหมู รวมถึงเมนูพิเศษที่ไมค์ร้องขออย่างพิซซ่าและเค้กช็อกโกแลต ราคาอย่างละ 300 บาทอีกด้วย 

เมนูพิเศษปีใหม่ของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

“มันติดวันเสาร์-อาทิตย์นะลูก จะฝากเข้าไปให้ได้เหรอ” อานนท์สวนทันควันว่า “เอากับข้าวอะไรก็ได้ที่อร่อยๆ ครับแม่” “ได้เลย เดี๋ยวแม่จัดการให้ จะหาของอร่อยๆ ให้นะ” แม่ไมค์บอกกับทุกคน

“เมอร์รี่คริตมาสต์นะทุกคน…” แม่ไมค์พูดทิ้งท้ายก่อนลุกเปลี่ยนให้แม่ของอานนท์มานั่งพูดต่อ

แม่ของอานนท์พูดเป็นภาษาอีสานใจความว่า “คิดถึงลูกนะ ขอให้เข้มแข็ง”

จากคำสั่งไม่ให้ประกันนักกิจกรรมทั้ง 4 รายในครั้งนี้ ทำให้พวกเขาจะถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ต่อไป โดยขณะนี้พริษฐ์และจตุภัทร์ถูกคุมขังเป็นระยะเวลา 138 วัน อานนท์ 136 วัน และภาณุพงศ์ 92 วัน 

.

ทั้งนี้ ในวันเดียวกัน กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และกลุ่มทะลุฟ้า ได้จัดกิจกรรมจับตาผลการให้ประกันตัวนักกิจกรรมทั้ง 4 ราย โดยได้นัดหมายมวลชนไปรวมตัวกันบริเวณหน้าศาลอาญาเพื่อรอรับเพื่อนกลับบ้านตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป และจัดกิจกรรม “เดิน หยุด ขัง” โดยนัดหมายประชาชนให้เริ่มต้นเดินตั้งแต่ห้างสรรพสินค้ายูเนี่ยนมอล์ในเวลา 11.00 น. เพื่อเดินไปจนถึงศาลอาญา รัชดาฯ 

ภาพจาก แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม

ภายหลังมวลชนเดินทางมาถึงหน้าศาลอาญาในเวลาประมาณ 13.30 น. และต่อมาทราบว่าศาลมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวนักกิจกรรมทั้ง 4 ราย กลุ่มมวลชนได้จัดกิจกรรมพูดปราศรัยเกี่ยวกับการไม่ทำหน้าที่อย่างเที่ยงตรงของศาลและสถาบันตุลาการ รวมไปถึงมีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เช่น เผาชุดครุยผู้พิพากษา เผาหนังสือประมวลกฎหมายอาญา และขีดเขียนพ่นสีสเปรย์ที่ป้ายของศาลอาญา เพื่อแสดงความไว้อาลัยแก่กระบวนการยุติธรรมไทย

ภาพจาก ประชาไท
ภาพจาก ประชาไท
ภาพจาก ประชาไท
ภาพจาก ประชาไท
X